รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ใคร “เหมาะ” กับค้ำ บสย.? เช็กก่อนยื่น สินเชื่อsme  (อ่าน 26 ครั้ง)

easycashflows

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
    • ดูรายละเอียด


SME จำนวนมากมีกระแสเงินสดดีจากออเดอร์จริง แต่ ทรัพย์ค้ำมีจำกัด จะขอกู้สไตล์ สินเชื่อไม่ใช้หลักประกันปี68 หรือหวัง สินเชื่อ SME วงเงินสูง ก็ยังติดประตูด่านแรก ธนาคารมักอยาก “เห็นจ่ายไหวจริง” และขอ “ความเชื่อมั่นเพิ่ม” ก่อน …นี่แหละที่ “ค้ำประกันโดยรัฐ (บสย.)” เข้ามามีบทบาท—เป็นเหมือนสายคาดนิรภัยให้ธนาคารกล้าปล่อยกู้ หากกิจการมีเงินสดหมุนได้จริงแม้ทรัพย์ค้ำไม่มาก (บทความหลักอธิบายภาพรวมบทบาท บสย. ไว้ชัด)
ในปี 2568 ภาครัฐ–สถาบันการเงินยังเดินหน้าช่วยเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อผ่านโครงการค้ำหลากหลาย ทั้งแคมเปญ PGS รุ่นล่าสุดและแพ็กเกจต่ออายุ/รีนิวสำหรับลูกค้าเดิม โดยเน้น “ช่วยผู้ที่มีศักยภาพแต่ขาดหลักทรัพย์” เข้าถึงวงเงินในระบบมากขึ้น (ยอดค้ำและจำนวนผู้ประกอบการที่เข้าถึงสินเชื่อสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดปี 2568 ตามรายงานข่าวเศรษฐกิจ)

เล่าเคส: “ยอดเดิน–งานชัด–ทรัพย์ไม่พอ” ใช้ค้ำ บสย. แล้วอะไรเปลี่ยน?
ภาพจริงในแฟ้มคุณต่อ
    • รายได้เข้าบัญชีสม่ำเสมอ 9 เดือน (มีใบสั่งซื้อ/PO จากลูกค้าประจำ)
    • ต้องการเงินก้อนเพื่อเร่งเครื่องและปรับพื้นที่เล็กน้อย รองรับออเดอร์ล็อตใหม่
    • ที่ดินเดิมติดภาระ จึงไม่มีทรัพย์ค้ำพอให้แบงก์รู้สึกสบายใจ
เราปรับเรื่องเล่าให้อยู่บน “ภาษาเงินสด”
    • ทำสรุปกระแสเงินสด 1 หน้า เชื่อม ยอดขาย ↔ เงินเข้าบัญชี ↔ สเตทเมนต์
    • แยก “เงินลงทุนยาว” (จัด Term Loan ผ่อนคงที่) ออกจาก “เงินหมุนถี่” (ใช้ OD ดึง–โปะตามรอบ)
    • คำนวณ DSCR หลังขอกู้ให้เห็นว่า ≥ 1.2 เท่า (จ่ายไหวจริง)
จากนั้น ยื่นผ่านโปรแกรมค้ำ บสย. ที่ธนาคารแนะนำ วงเงินรวมได้รับการอนุมัติเร็วขึ้น เพราะความเสี่ยงฝั่งธนาคารลดลง (มีรัฐค้ำบางส่วน) ขณะเดียวกันธนาคารยังคงดู “วินัยเงินสด–เอกสารโปร่งใส” เป็นหลักตามเดิม (แก่นพิจารณาที่บทความหลักย้ำ)

ใคร “เหมาะ” กับการใช้ค้ำ บสย. ตามหลักเกณฑ์ใจความสำคัญ
อ้างอิงจากหัวข้อในบทความหลัก “ใครเหมาะกับการใช้ค้ำ บสย.” หากสรุปเป็นภาษาง่าย ๆ มี 3 กลุ่มเด่น ๆ ดังนี้:
    1. รายได้เดินสม่ำเสมอ 6–12 เดือน แต่ทรัพย์ค้ำไม่พอ – เหมาะมาก เพราะสามารถพิสูจน์เงินสดจริงได้ แม้จะขาดทรัพย์ค้ำแบบดั้งเดิม
    2. ต้องการวงเงินเพื่อหมุนงาน/ขยายกิจการเร็ว – โดยเฉพาะเคสที่มี PO/สัญญา/ดีมานด์ชัด แล้ว แต่ต้องใช้เงินไปก่อน งานไม่รอเรา
    3. ผู้ประกอบการใหม่/เพิ่งฟื้นตัว – ที่มีหลักฐานดีมานด์ + แผนเงินสด 12–24 เดือน และคุยตัวเลขได้ว่า DSCR อยู่แถว ≥ 1.2 ขึ้นไป (อย่าลืมว่า “มีค้ำ” ไม่ได้แปลว่า “ผ่านทุกเคส” ต้องจ่ายไหวจริง)
ฝั่งเกณฑ์ภาพใหญ่ของ SME ที่เข้าโครงการค้ำ ยังอิงคุณสมบัติตามกรอบหน่วยงานรัฐ (เช่น ขนาดสินทรัพย์ถาวร, สถานะลูกหนี้ปกติ, ประกอบการจริง) ซึ่งช่วยให้เห็นแนวทางเบื้องต้นว่าธุรกิจแบบใดอยู่ในข่ายได้บ้าง

ปี 2568 มีอะไรใหม่ ๆ ในโลก “ค้ำรัฐ–สินเชื่อsme” บ้าง?
    • โครงการค้ำรุ่นใหม่/ต่ออายุ: มีโปรแกรมต่ออายุการค้ำ (Renew) ให้ลูกค้าเดิมที่ครบกำหนดได้ขอต่อ เพื่อไม่ให้สะดุดสภาพคล่อง และโครงการ PGS รุ่นล่าสุดที่โฟกัสช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อในระบบมากขึ้น (เงื่อนไขขึ้นกับแต่ละโครงการ)
    • ภาพรวมการเข้าถึงสินเชื่อดีขึ้น: ข่าวเศรษฐกิจระบุยอดค้ำและจำนวนรายที่ได้รับประโยชน์ในปี 2568 เพิ่มขึ้นมาก พร้อมขยายช่องทางร่วมกับหลายสถาบันการเงิน เพื่อให้กลุ่มที่ “ขาดหลักทรัพย์” มีโอกาสมากขึ้น (ย้ำอีกครั้งว่า “อนุมัติ” ยังวัดจากจ่ายไหวจริง)
    • แนวโน้มเปิดกว้างสู่ non-bank บางประเภท: มีการสื่อสารภาครัฐและสื่อธุรกิจเกี่ยวกับการปลดล็อกให้ค้ำกับผู้ให้กู้บางกลุ่มนอกธนาคาร เพื่อขยายโอกาสเข้าถึงเงินทุนของรายย่อย/ไมโคร (นโยบาย–รายละเอียดปฏิบัติต้องเช็กประกาศล่าสุดก่อนยื่น)
สรุปความหมายต่อผู้ประกอบการ: ถ้าคุณมีเงินสด “เดินจริง” แต่ทรัพย์ค้ำจำกัด ปีนี้คือช่วงเวลาที่เหมาะจะพิจารณาค้ำรัฐเพื่อปลดล็อกการเข้าถึง สินเชื่อ sme หรือยกระดับเป็น สินเชื่อ SME วงเงินสูง ได้—ตราบเท่าที่แบบแผนใช้เงิน–คืนเงินชัดเจน

ทำอย่างไรให้ “ค้ำรัฐ” กลายเป็นวงเงินที่ใช้งานได้จริง (ไม่ใช่ภาระ)
1) คิดบนฐาน “งานถี่–งานยาว”
    • งานยาว เช่น ซื้อเครื่อง ปรับปรุงพื้นที่ → ใช้ Term Loan แบ่งเบิกตามไมล์สโตน
    • งานถี่ เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรง ค่าส่ง → ใช้ OD ดึง–โปะตามรอบเงินเข้า
ถ้าคุณแยกเช่นนี้ตั้งแต่ยื่น แบงก์จะมองเห็น “ภาพใช้เงินที่คุมได้” มากขึ้น (สอดคล้องแนวคิดในบทความหลัก)
2) โชว์ “จ่ายไหวจริง” ด้วย 3 ชิ้นงาน
    • สรุปธุรกิจ 1 หน้า: ทำอะไร ลูกค้าหลักคือใคร ขอเท่าไร ใช้ทำอะไร แผนคืนเงินเป็นอย่างไร (ตัวเลขสำคัญ: ยอดขาย/กำไร/DSCR)
    • สเตทเมนต์ 6–12 เดือน + ตาราง “ยอดขาย ↔ เงินเข้า”: ให้ผู้พิจารณาเห็นรอบเงินสดจริง (ไม่ปะปนบัญชีส่วนตัว)
    • ใบเสนอราคา/สัญญา/PO: เป็นหลักฐานดีมานด์ ไม่ใช่ความหวังลอย ๆ
สิ่งเหล่านี้คือ “แฟ้มเล่าเรื่องเดียวกัน” ที่ทำให้การอนุมัติไวขึ้นตามคำแนะนำในบทความต้นทาง
3) เตรียมตอบ 3 คำถามทองตอนสัมภาษณ์
    • เงินไปทำอะไร (เชื่อมกับยอดขายหรือการลดต้นทุนอย่างไร)
    • คืนยังไง (จากกำไรส่วนไหน งวดละเท่าไร วันไหนโปะ OD)
    • ถ้าขายต่ำกว่าคาด ทำอย่างไร (แผนสำรอง/ปรับค่าใช้จ่ายที่ควบคุมได้)
บทความหลักสรุปคำถามเหล่านี้ไว้แบบตรงจุด—ซ้อมตอบให้กระชับคือทางลัดสำคัญ

มุมกลยุทธ์: เมื่อไหร่ควร “ค้ำ” เพื่ออัปสเกล และเมื่อไหร่ควร “พัก”
    • ควรค้ำ เมื่อ (ก) รายได้เดิน 6–12 เดือน, (ข) มีงานรอจริงและต้องใช้เงินก่อน (PO/สัญญาชัด), (ค) DSCR หลังขอกู้ ≥ 1.2 และมีแผนใช้–คืน “ระบุวันได้”—สถานการณ์แบบนี้ค้ำช่วย “ปิดช่องว่างความมั่นใจ” ให้เกิดดีล สินเชื่อ sme หรือแม้แต่ สินเชื่อ SME วงเงินสูง ได้เร็วขึ้น
    • ควรพัก หากยอดขายยังแกว่งหนัก, บัญชียังปะปน (เงินธุรกิจ/ส่วนตัว), หรือยังตอบไม่ได้ว่าเงินไปสร้างรายได้ใหม่ตรงไหน—เติมหนี้ตอนนี้เสี่ยงทำให้ DSCR ลด เท่ากับ “ยื่นยากกว่าเดิม” (บทความหลักก็เน้นเรื่องวินัยบัญชีชัดเจน)

คำถามที่เจอบ่อย: ค่าค้ำ/ระยะเวลา/โอกาสอนุมัติ
    • ค่าค้ำเท่าไหร่ ใครจ่าย? – ผู้กู้เป็นผู้รับผิดชอบค่าค้ำ โดยอัตราและฐานคิดขึ้นกับแต่ละโครงการที่ร่วมกับธนาคาร (ต้องเช็กเงื่อนไขรุ่นโครงการ ณ วันที่ยื่น)
    • นานไหมกว่าจะได้เงิน? – หากเอกสารครบและเรื่องเล่าตรงกัน มักใช้เวลาประมาณ 3–8 สัปดาห์ ตั้งแต่ยื่นจนเซ็นสัญญา (ช้า–เร็วขึ้นกับความครบถ้วน)
    • ปีนี้มีโครงการอะไรน่ารู้? – มีทั้งโครงการหลักเชิงมาตรการและรีนิวสำหรับลูกค้าเดิม รวมถึงความคืบหน้าเชิงนโยบายเพื่อขยายการค้ำไปยังบางกลุ่ม non-bank เพื่อเพิ่มทางเลือกระบบ (ติดตามประกาศล่าสุดของ บสย./ธนาคาร)

สรุป: ค้ำรัฐ = กุญแจเสริม “ความเชื่อมั่น” แต่หัวใจยังอยู่ที่ “จ่ายไหวจริง”
กลับไปที่คุณต่อ—หลังจัดแฟ้มให้เล่าเรื่องเดียวกันและยื่นค้ำ บสย. เขาได้รับอนุมัติวงเงินตามแผน แยก “ก้อนลงทุน” กับ “ก้อนหมุน” ชัดเจน ยอดส่งงานล็อตใหม่เดินต่อเนื่อง และที่สำคัญ—เขายัง “นอนหลับ” ได้ เพราะรู้ว่าแต่ละงวดผ่อนไหวจริงบนข้อมูลจริง
สำหรับหลายธุรกิจที่กำลังหา สินเชื่อ sme หรือเป้าหมาย สินเชื่อไม่ใช้หลักทรัพย์ปี68 เพื่อเร่งโตในปีนี้ อย่ามอง “ค้ำ” เป็นเวทมนตร์ แต่มองเป็น “สะพานความเชื่อมั่น” ระหว่าง เงินสดที่คุณทำได้จริง กับ วงเงินที่ธนาคารพร้อมเดินด้วย เท่านั้นเอง

อ่านต่อ
อยากเช็กให้ชัดว่า คุณเข้าข่าย “เหมาะ” กับการใช้ค้ำ บสย. หรือไม่ พร้อมขั้นตอนสั้น ๆ และเช็กลิสต์เอกสารที่ทำให้ “ผ่านไว”? อ่านบทความต้นฉบับได้ที่:
“สินเชื่อ ธุรกิจ SME บสย.ค้ำประกัน”
บันทึกการเข้า