รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: สินเชื่อเพื่อธุรกิจ วงเงินสูง กู้ง่ายไม่ยากอย่างที่คิด  (อ่าน 45 ครั้ง)

easycashflows

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
    • ดูรายละเอียด



เช้าวันจันทร์ “คุณเมย์” เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เปิด Statement ยอดขายเดือนล่าสุดยังโต แต่เงินสดปลายเดือนตึงเพราะต้องจ่ายวัตถุดิบล็อตใหญ่และมัดจำเครื่องจักรอัตโนมัติ เธออยากยื่น สินเชื่อเพื่อธุรกิจ เพื่อปิดช่องว่างกระแสเงินสดและขยายกำลังผลิต แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมบางกิจการได้วงเงินสูงอย่างง่ายดาย ขณะที่บางราย “สะดุด” ทั้งที่ขายดีพอ ๆ กัน

คีย์เวิร์ดสำคัญของปี 2568 คือ “ความโปร่งใสของข้อมูล + ความสม่ำเสมอของกระแสเงินสด” และ “วัตถุประสงค์การใช้เงินที่สร้างผลตอบแทน” ไม่ว่าคุณจะขอแบบมีหลักประกัน หรือเป็น สินเชื่อธุรกิจ  สินเชื่อ sme ไม่มีหลักทรัพย์ 2568 ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อ วงเงิน และ อัตราดอกเบี้ย อย่างมีนัยสำคัญ

ทำไมบางธุรกิจถึงได้วงเงินสูงกว่า: 6 เสาหลักที่ธนาคารใช้พิจารณา
1) รายได้–กำไร–ความสม่ำเสมอของกระแสเงินสด

สถาบันการเงินให้คะแนนสูงกับกิจการที่ “รายได้อ่านง่าย” มีหลักฐานผ่านบัญชีธนาคาร/ใบกำกับภาษีต่อเนื่อง 6–12 เดือน และกำไรขั้นต้นพอครอบคลุมดอกเบี้ยและค่างวด จุดที่มักถูกดูคือ DSCR (Debt Service Coverage Ratio) ควรมากกว่า ~1.2–1.5 เท่า เพื่อแสดงว่ากระแสเงินสดพอจ่ายหนี้ได้อย่างปลอดภัย

มุมมองที่ปรึกษา: ถ้ารายได้ขึ้น-ลงตามฤดูกาล ให้แนบ Forecast รายไตรมาส และเหตุผลทางธุรกิจ เช่น แคมเปญ/ฤดูกาลขาย เพื่อให้ธนาคารเห็น “จังหวะเงินเข้า” ชัดเจน

2) เอกสารทางการเงินที่ครบและสอดคล้อง

ตั้งแต่งบการเงิน, ภพ.30, ภ.ง.ด.50/51, รายงานสต๊อก/ต้นทุน ไปจนถึงใบเสนอราคาที่จะใช้เงินกู้ “ความสอดคล้องของตัวเลข” สำคัญกว่าความสวยงามของเอกสาร ยิ่งธุรกิจเล็กยิ่งต้องเนี๊ยบ เพราะคุณกำลังขอ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก ที่อาศัยข้อมูลจริงมากกว่าชื่อเสียง

3) เครดิตบูโรของ “เจ้าของกิจการ”

ประวัติชำระดี ทำให้ต้นทุนความเสี่ยงของธนาคารลดลงจนยอมเสนอ Spread ต่ำกว่า และ “เปลี่ยนจากมุมปฏิเสธเป็นเจรจาได้” แม้ไม่มีทรัพย์ค้ำก็ยังมีลุ้นในกลุ่ม สินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

4) หลักประกัน (ถ้ามี) และมูลค่าที่วัดได้

ในฝั่ง สินเชื่อเพื่อธุรกิจแบบมีหลักประกัน ยิ่งทรัพย์มีเอกสารสิทธิชัด ราคาประเมินดี วงเงินยิ่งขยับได้มาก (มักอิง LTV ภายในแนวทางความเสี่ยงของแต่ละธนาคาร) อย่างไรก็ดี ปี 2568 ธนาคารจำนวนมากเปิดผลิตภัณฑ์ “กึ่งไม่มีหลักประกัน” อิงพฤติกรรมบัญชี (Behavioral Score) และยอดรับ-จ่ายจริง เพื่อช่วย SME ที่ทรัพย์ไม่พอค้ำ

5) อายุธุรกิจ คุณภาพลูกค้า และสัญญารับงาน

ธุรกิจที่ “อยู่รอด” 2–3 ปีขึ้นไป พร้อมรายชื่อลูกค้าองค์กร/สัญญาซื้อขายระยะยาว จะถูกมองว่าเสี่ยงต่ำ วงเงินจึงขยับง่ายขึ้น

6) แผนธุรกิจและวัตถุประสงค์ใช้เงินที่ “ทำให้ยอดโต”

เงินกู้ที่เปลี่ยนเป็นรายได้หรือกำไรได้เร็ว เช่น ซื้อเครื่องจักรเพิ่มกำลังผลิต, ลงทุนระบบอัตโนมัติ, เปิดสาขาที่มียอดจองล่วงหน้า—ธนาคารพร้อมสนับสนุนกว่าการใช้เงินไปกับค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อรายได้

วิเคราะห์เชิงลึก: ขอกู้ สินเชื่อธุรกิจSMEไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้ผ่านในปี 2568 ต้องคิดแบบไหน

ในภาวะดอกเบี้ยทรงตัว-ผ่อนลงบางช่วงของปี 2568 ผู้ปล่อยกู้หันมา “ดูข้อมูลจริง” มากกว่าหลักทรัพย์ ตัวชี้ชะตา สินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์ 2568 คือ 3 เรื่องนี้

(ก) พิสูจน์รายได้เป็นสเต็ป
แสดงยอดขายผ่านบัญชี/QR/ระบบ POS อย่างต่อเนื่อง — ถ้าบางส่วนยังเป็นเงินสด ให้เริ่ม “พาฐานลูกค้าเข้าสู่ระบบ” (ออกใบกำกับ/รับเงินผ่านบัญชี) อย่างน้อย 3–6 เดือนก่อนยื่น

(ข) จัดระเบียบภาษี = สร้างเครดิตธุรกิจ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม/ภาษีนิติบุคคลที่สอดคล้องกับรายได้ ทำให้ธนาคารมั่นใจว่า “ยอดขายนี้มีอยู่จริง” และช่วยเพิ่มวงเงิน/ลดดอกได้

(ค) แผนใช้เงินที่ชัดเจน + KPI ติดตามผล
ระบุว่าจะใช้เงินกู้ตรงไหน ผลลัพธ์คืออะไร (เช่น Output/เดือน, มาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น, จุดคุ้มทุนกี่เดือน) ธนาคารมองว่าคุณ “คิดแบบนักลงทุน” ไม่ใช่แค่ “ขอกู้แก้ขัด”

Insight หน้างาน: ลูกค้าหลายรายพลาดเพราะ “ขอเผื่อ” จน DSCR ตก ธนาคารจึงลดวงเงินให้พอดีแล้วค่อยพิจารณาเพิ่มทีหลัง ทางที่ดีกำหนดวงเงิน “เท่าที่ต้องใช้จริง” และเผื่อสำรอง 10–15% ก็พอ

Roadmap 30 วัน: เตรียมไฟล์กู้ให้ “อ่านง่าย–อนุมัติไว”

สัปดาห์ 1 — วินิจฉัยกิจการ

สรุปยอดขาย-กำไร 12 เดือน, คำนวณ DSCR คร่าว ๆ

แยกค่าใช้จ่ายลงทุน (CapEx) ออกจากทุนหมุนเวียน (Working Capital)

สัปดาห์ 2 — เตรียมเอกสารหลัก

งบการเงิน 2–3 ปี + Statement 6–12 เดือน

ภพ.30/ภ.ง.ด.50/51, รายงานสต๊อก/ต้นทุน

ใบเสนอราคาสินทรัพย์/เครื่องจักร + แผนใช้เงิน/ROI

สัปดาห์ 3 — ทำ “สไลด์แผนธุรกิจ 1 หน้า”

ปัญหา (Pain) → วิธีใช้เงินแก้ → ผลลัพธ์ (KPI/ยอดผลิต/มาร์จิ้น)

จุดคุ้มทุน/กระแสเงินสดหลังรับเงินกู้

ความเสี่ยงและแผนสำรอง (เช่น ยอดขายต่ำกว่าคาด 15% ทำอย่างไร)

สัปดาห์ 4 — ยื่น 2–3 สถาบันการเงิน

เปรียบเทียบ ดอกเบี้ยอ้างอิง + สเปรด, ค่าธรรมเนียม, เงื่อนไข (Covenant), ระยะเวลาผ่อน, วงเงิน OD เสริม

ถ้าเป็น สินเชื่อเพื่อธุรกิจ แบบมีหลักประกัน ให้ขอ “เล่มประเมินเบื้องต้น” เพื่อคาด LTV/วงเงิน

ถ้าจะยื่นแบบ ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้ชี้ชัดว่ารายได้-ภาษี-แผนใช้เงิน “ล็อกโอกาสเติบโต” อย่างไร

กรณีศึกษา (สมมติ): ร้านอาหารสุขภาพขยายครัวกลาง

รายได้เฉลี่ย 1.2 ลบ./เดือน, กำไรขั้นต้น 38%, DSCR เฉลี่ย 1.4 เท่า

ต้องการเงิน 2.5 ลบ. เพื่อครัวกลาง + เครื่องซีลสุญญากาศ เพิ่มกำลังผลิตอีก 60%

ยื่น สินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงิน 2.2 ลบ. + OD 0.5 ลบ.

แนบสัญญาจัดจำหน่ายกับเครือซูเปอร์มาร์เก็ต 12 เดือน + แผน ROI (จุดคุ้มทุน 14 เดือน)
ผลลัพธ์: ได้วงเงินเต็ม พร้อมอัตราดอกที่สะท้อนความเสี่ยงต่ำลง เพราะรายได้พิสูจน์ได้และแผนใช้เงิน “ต่อยอดรายได้ทันที”

เช็กลิสต์ “เพิ่มโอกาสได้วงเงินสูง” สำหรับปี 2568

 รายได้ผ่านบัญชี/ใบกำกับชัด 6–12 เดือน (รวมช่องทาง e-Payment/แพลตฟอร์มเดลิเวอรี)

 ภาษีสอดคล้องกับยอดขาย (ลด “ช่องว่าง” ระหว่างตัวเลขจริงและที่ยื่นภาษี)

 DSCR หลังขอกู้ ≥ 1.3–1.5 เท่า (ทำ Sensitivity ถ้าขายตก 10–20%)

 แผนใช้เงินชัดเจน + KPI/ROI + ไทม์ไลน์ผลลัพธ์

 ถ้ามีหลักทรัพย์: เอกสารสิทธิครบ/ประเมินเบื้องต้นเรียบร้อย

 ถ้า “ไม่มีหลักทรัพย์”: เตรียมพอร์ตลูกค้า, สัญญาซื้อขาย, ภาพรวมตลาด/ออเดอร์ล่วงหน้า

 เครดิตส่วนตัวสะอาด 12 เดือนล่าสุด (จ่ายตรงเวลา/วงเงินบัตรไม่ตึง)

ข้อควรระวังในสัญญา (ทั้งมี/ไม่มีหลักทรัพย์)

ค่าปรับปิดก่อนกำหนด (Prepayment Penalty) และระยะ Lock-in

Covenant ที่เข้มจนทำให้ผิดเงื่อนไขง่าย (เช่น DSCR สูงเกินความจริงของธุรกิจ)

ดอกเบี้ยลอยตัว ที่รีเซ็ตถี่โดยผูกกับอ้างอิงหลายตัว—ควรถามตารางรีเซ็ตและเพดาน

ค่าธรรมเนียมยิบย่อย (ประเมินทรัพย์, จดจำนอง, ค้ำประกัน) รวมให้ครบใน TCO ก่อนตัดสินใจ

สรุป: วงเงินสูง “ไม่ยาก” ถ้าข้อมูลชัด กลยุทธ์ใช่ และแผนคืนเงินมีวินัย

ปี 2568 เป็นช่วงเวลาที่ SME จะ “ได้เปรียบ” หากแสดงข้อมูลจริงอย่างโปร่งใส บริหาร กระแสเงินสด ให้สม่ำเสมอ และชี้ให้เห็นว่าเงินกู้จะ “แปลงเป็นยอดขาย/กำไร” อย่างไร ไม่ว่าคุณจะเลือก สินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ แบบมีหลักประกัน หลักคิดก็เหมือนกัน: เตรียมเอกสารให้ดี + เล่าเรื่องธุรกิจด้วยตัวเลข + วางแผนชำระหนี้ได้จริง

ต้องการที่ปรึกษาช่วย “แพ็กไฟล์กู้” ให้ผ่านด่านแรกอย่างสวยงาม และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับ โปรไฟล์กระแสเงินสด ของคุณ?
เยี่ยมชม www.easycashflows.com
 เพื่อรับคำปรึกษาฟรีและประเมินวงเงินเบื้องต้น

แหล่งข้อมูลอ้างอิง (อัปเดตปี 2568)

ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT): ข้อมูลนโยบายการเงิน ภาวะสินเชื่อธุรกิจ/SME และเอกสารอธิบาย DSCR/แนวปฏิบัติการปล่อยกู้ธุรกิจ
https://www.bot.or.th/

สมาคมธนาคารไทย (TBA): แนวทางและบทความด้านสินเชื่อ SME และธรรมาภิบาลข้อมูลลูกหนี้
https://www.tba.or.th/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 20, 2025, 07:37:32 AM โดย easycashflows »
บันทึกการเข้า