ลงประกาศฟรี > บ้านและที่ดิน

ไอเดียเพาะเห็ดฟางในตะกร้า

(1/19) > >>

ruataewada:

ไอเดียเพาะเห็ดฟางในตะกร้า

เห็ดฟางเป็นเมนูที่นำมาประกอบเมนูต่างๆได้หลากหลาย สามารถเพาะได้ง่าย โตเร็ว สามารถเก็บเกี่ยวได้ภายใน 7-12 วัน ซึ่งนับว่าเป็นระยะเวลาที่สั้นมากๆ การเพาะเห็ดฟางนั้นง่ายมากๆ เพียงนำฟางแช่น้ำ 1 คืน จากนั้นนำฟางอัดลงตะกร้ากดให้แน่นสูงหนึ่งฝ่ามือ และโรยอาหารเสริมให้ชิดขอบตะกร้า จากนั้นโรยเชื้อเห็ดฟางทับลงบนอาหารเสริมโดยหัวเชื้อ 1 ก้อน แบ่งเป็น 3 กอง เพาะได้ 3 ตะกร้า จากนั้นทำชั้นที่ 2-3 ในลักษณะเดียวกัน และชั้นบนสุดโรยอาหารเสริมให้เต็มตะกร้า โรยเชื้อให้ทั่ว และกลบด้วยอาหารเสริมอีกครั้ง และหมั่นรดน้ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็รอเก็บเกี่ยวเห็ดฟางได้เลย

อุปกรณ์ :
ตะกร้าพลาสติก หัวเชื้อเห็ดฟาง ฟาง ผักตบชวา แกลบ เศษหญ้าแห้ง ขี้เลื่อย
พืชผักที่เหมาะสมสำหรับการปลูก :
เห็ดฟาง หรือปรับประยุกต์ใช้ตะกร้ากับผักอื่นๆ
ข้อดีของการปลูกผักในลิ้นชัก
สามารถเก็บผลิตได้ง่าย ทำประมาณแค่ภายในหนึ่งสัปดาห์ก็สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว
ประหยัดพื้นที่ใช้สอย เพียง 1 ตะกร้าก็สามารถเก็บผลผลิตกินได้ตลอดทั้งเดือน
ช่วยลดการใช้พื้นที่ เคลื่อนย้ายสะดวก
ข้อเสียของการปลูกผักในลิ้นชัก
ระมัดระวังเชื้อราจากเห็ด หากดูแลให้ดีก็สามารถป้องกันเชื้อราได้

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ruataewada:
ห่มดิน เลี้ยงดินให้ดินเลี้ยงเรา

การทำห่มดิน เลี้ยงดิน ดูแลดินแล้วให้ดินเลี้ยงพืช
การห่มดิน คือ เป็นการป้องกันการระเหยของความชื้นที่อยู่ในดิน ซึ่งความชื้นในดินมีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งการควบคุมความชื้นของดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชในแต่ละชนิด สามารถทำได้ด้วยการใช้เซ็นเซอร์เข้ามาช่วยตรวจวัด

ระดับความชื้นที่พืชสามารถรับได้จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ดังนี้

ความชื้น 80% – 100% : สภาวะอันตรายต่อพืช ถ้ามีความชื้นสูงในระดับนี้เป็นเวลานาน มีโอกาสสูงมากที่จะทำให้รากเน่า หรือเกิดเชื้อราขึ้นได้
ความชื้น 70% – 79% : สภาวะดินแฉะ หากไม่ควบคุมให้ดี หรือปล่อยเป็นเวลานานก็อาจเข้าสู่สภาวะอันตรายได้
ความชื้น 50% -69% : สภาวะที่พืชชอบ เนื่องจากพืชจะมีการเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในสภาวะนี้
ความชื้น 40% – 49% : สภาวะแห้ง ควรเพิ่มความชื้นให้แก่ดิน เพื่อให้พืชเจริญเติบโตได้
ความชื้น 0% – 39% : สภาวะวิกฤติ สามารถทำให้พืชแห้งและเหี่ยวเฉาตายได้
หากความชื้นในดินต่ำ สามารถเพิ่มการให้น้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นให้กับดิน แต่ถ้าหากเป็นพื้นที่แห้งแล้งมาก มีการระเหยของน้ำสูง อาจต้องใช้วิทีห่มดินเข้ามาช่วย โดยหลักการคือ นำวัสดุต่างๆ มาปกคลุมไว้ที่หน้าดินเพื่อกักเก็บความชื้นไว้ในดิน

สินค้าเหมาะสมกับการดูแลสวนและที่ดิน รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ruataewada:
ความหมายของรั้วตาข่าย



รั้วตาข่าย คือ รั้วที่ผลิตจากลวดเหล็ก ที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรง การทนสนิมและอายุการใช้งาน ขึ้นอยู่กับประเภทลวดที่นำมาผลิตเป็นรั้วตาข่าย มักนิยมใช้ ลวดเหล็กทั่วไป ลวดแรงดึง หรือ ลวดแรงดึงสูง มาใช้ในการผลิต เพื่อที่จะช่วยเรื่องทนสนิมได้นานกว่ารั้วลวดหนามทั่วไป และ ถูกออกแบบให้เป็นตารางหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านล่างถี่ด้านบนห่าง นิยมนำมาใช้ล้อมบ้าน ล้อมสวน ล้อมที่ดิน ล้อมสัตว์ ฯลฯ เนื่องจากถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ใช้ได้กับพื้นที่หลากหลายรูปแบบ โดยที่สามารถนำไปใช้ติดตั้งกับเสาปูน เสาไม้ เสาเหล็กเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยไม่ต้องรื้อถอน นิยมนำมาใช้ล้อมบ้าน ล้อมสวน ล้อมที่ ล้อมสัตว์ รั้วบริเวณโรงงาน โรงเรียน สนามกีฬา หรือบริเวณที่ต้องการความปลอดภัยแต่ยังต้องการให้มองเห็นโดยรอบได้เป็นอย่างดี

สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ  รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ruataewada:
ห่มดิน เลี้ยงดินให้ดินเลี้ยงเรา

การทำห่มดิน เลี้ยงดิน ดูแลดินแล้วให้ดินเลี้ยงพืช
การห่มดิน คือ เป็นการป้องกันการระเหยของความชื้นที่อยู่ในดิน ซึ่งความชื้นในดินมีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งการควบคุมความชื้นของดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชในแต่ละชนิด สามารถทำได้ด้วยการใช้เซ็นเซอร์เข้ามาช่วยตรวจวัด

ระดับความชื้นที่พืชสามารถรับได้จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ดังนี้

ความชื้น 80% – 100% : สภาวะอันตรายต่อพืช ถ้ามีความชื้นสูงในระดับนี้เป็นเวลานาน มีโอกาสสูงมากที่จะทำให้รากเน่า หรือเกิดเชื้อราขึ้นได้
ความชื้น 70% – 79% : สภาวะดินแฉะ หากไม่ควบคุมให้ดี หรือปล่อยเป็นเวลานานก็อาจเข้าสู่สภาวะอันตรายได้
ความชื้น 50% -69% : สภาวะที่พืชชอบ เนื่องจากพืชจะมีการเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในสภาวะนี้
ความชื้น 40% – 49% : สภาวะแห้ง ควรเพิ่มความชื้นให้แก่ดิน เพื่อให้พืชเจริญเติบโตได้
ความชื้น 0% – 39% : สภาวะวิกฤติ สามารถทำให้พืชแห้งและเหี่ยวเฉาตายได้
หากความชื้นในดินต่ำ สามารถเพิ่มการให้น้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นให้กับดิน แต่ถ้าหากเป็นพื้นที่แห้งแล้งมาก มีการระเหยของน้ำสูง อาจต้องใช้วิทีห่มดินเข้ามาช่วย โดยหลักการคือ นำวัสดุต่างๆ มาปกคลุมไว้ที่หน้าดินเพื่อกักเก็บความชื้นไว้ในดิน

สินค้าเหมาะสมกับการดูแลสวนและที่ดิน รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ruataewada:
ลวดหนามแรงดึงทนสนิม


เพื่อให้ปัญหาเดิม ๆ การขึ้นสนิมของรั้วลวดหนามหมดไป  ซึ่งเกิดเป็นรั้วลวดหนามแรงดึงทนสนิม ด้วยวิธีการชุบซิงค์จุ่มร้อนหนาพิเศษ  (Heavy Hot –dipped Galvanized ) ตามมาตรฐาน AS/NZs  ออสเตรเลียพรีเมี่ยม มีอายุการใช้งานมากกว่า 30 ปี* (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและการใช้งาน) การที่เราล้อมรั้วลวดหนามที่สามารถทนสนิมได้นานกว่าล้อมรั้วลวดหนามทั่วไป  รั้วลวดหนามแรงดึงทนสนิมยังผลิตจากเส้นลวดแรงดึง  ที่ช่วยในเรื่องของการรับแรงกระแทกได้ดีกว่า ทำให้เวลาการติดตั้งไม่หย่อนเหมือนลวดหนามทั่วไป  หรือแม้กระทั่งตัวปมหนาม ทำให้เกลียวปมแน่นกว่า แข็งแรง เกลียวปมไม่หลุดง่าย รั้วลวดหนามแรงดึงทนสนิม มักมีราคากลางๆ ขายเป็นม้วนตามความยาว 50 – 100 เมตร มากกว่าการที่จะขายแบบชั่งกิโล ไม่ต้องต่อลวดบ่อย ทำงานง่ายโครงสร้างรั้วก็แข็แรง ใช้งานได้ยาวนานกว่า

การชุบซิงค์แบบจุ่มร้อนกันสนิม  ( Hot-Dipped Galvanized)

โดยปัจจุบันกระบวนการเคลือบสารกันสนิมหรือการชุบซิงค์ได้ถูกนำมาใช้ในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้าง หรืออุตสาหกรรมชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า การชุบซิงค์มีแบบจุ่มร้อน (Hot-Dipped Galvanized) ซึ่งปกติลวดหนามที่มีจำหน่ายในเมืองไทย ส่วนมากแล้วชุบซิงค์แบบจุ่มร้อน แต่จะชุบเพียงแค่ 20- 50 กรัมเพียงเท่านั้น ซึ่งเฉลี่ยแล้วสามารถทนสนิมได้นานแค่ 1-2 ปีเท่านั้น เนื่องจากเป็นปริมาณที่น้อยเกินไป ทำให้ปัจจุบันมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนมีกระบวนการชุบซิงค์แบบจุ่มร้อนหนาพิเศษขึ้นมา

สินค้าที่เหมาะสมกับคุณ Kasetphand   : ลวดหนาม ลวดหนามกันสนิม
Vineman  : ลวดหนาม ลวดหนามกันสนิม
Ruataewada  : ลวดหนาม ลวดหนามกันสนิม

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version