
เช้าวันหนึ่ง คุณวิน (นามสมมติ) เจ้าของโรงเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดขนาดกลาง เข้ามาปรึกษา เขามีออเดอร์ “ลูกปลา/ลูกกุ้งวัยอ่อน” จากฟาร์มเลี้ยงเชิงพาณิชย์ในหลายจังหวัด และอยู่ระหว่างคุยสัญญากับผู้ซื้อรายใหญ่ที่ต้องการส่งต่อไปประเทศเพื่อนบ้าน ฤดูกาลเพาะกำลังจะเริ่มใน 60–120 วันข้างหน้า โรงเพาะต้องเร่ง เตรียมพ่อแม่พันธุ์ (broodstock), อัปเกรดระบบน้ำ–อากาศ, เปลี่ยนตู้เพาะ–บ่อพัก, สร้างโรงเรือนกันโรค, รวมถึงสำรองค่าไฟ–ออกซิเจน–ค่าอาหาร–เวชภัณฑ์ ให้พอสำหรับรอบเพาะยาว ๆ
“ผมไม่มีบ้านหรือที่ดินว่าง ๆ ไว้ค้ำ” เขาบอกตรง ๆ “แต่ออเดอร์ชัด ลูกค้าหลักสั่งซ้ำ งานนี้อยากวาง
สินเชื่อเพื่อธุรกิจไม่ใช้หลักทรัพย์
ที่ ‘พอดีกับงาน’ และขยับเพดานได้หากยอดสั่งโตขึ้น จะทำอย่างไรให้เงินสดไม่ตึงในช่วงต้องลงทุนหนักก่อนฤดูกาล?”
ผมชวนวินกลับไปตั้งหลักด้วยกรอบคิดง่าย ๆ: ตั้งวงเงินตาม “หน้าที่ของเงิน” แล้ว “ต่อท่อน้ำ” ให้ไหลถูกทาง—แนวเดียวกับบทความหลักของ EasyCashflows ส่วน “ทางเลือกของวงเงินที่นิยมกับกิจการขนาดกลาง–ใหญ่” ซึ่งใช้ได้ดีมากกับธุรกิจเพาะพันธุ์ปลาที่ รอบเงินเข้า–ออกยาว และ ต้นทุนผันผวนตามฤดูกาล
1) วงเงินหมุนเวียน (OD/Revolving): น้ำหล่อเลี้ยง “รายจ่ายถี่” ของโรงเพาะ
เหมาะกับ: ค่าไฟฟ้าและเครื่องอัดอากาศ, ออกซิเจนเหลว, ค่าอาหาร–อาร์ทีเมีย/แพลงก์ตอน, ค่าจ้างทีมงาน, ค่าบำรุงรักษาระบบน้ำ (เปลี่ยนไส้กรอง/ฆ่าเชื้อ), ค่าน้ำมันรถขนส่งลูกปลา
ทำไมจำเป็น: โรงเพาะพันธุ์มีค่าใช้จ่าย “ถี่และต่อเนื่อง” ทุกวัน—ถ้ารอเงินจากลูกค้าปลายรอบ ระบบอาจสะดุด วงเงินหมุนเวียนช่วย “ดึง–ใช้–คืน” ตามรอบเงินเข้าจริง จึงรักษาความต่อเนื่องของออกซิเจน–คุณภาพน้ำ–ความอยู่รอดของลูกปลาได้
วิธีใช้ให้เกิดผล:
กำหนด “วันโปะคืน” หลังวันรับเงิน 3–7 วัน จากฟาร์มผู้ซื้อ เพื่อแสดงวินัยเงินสด
รับ–จ่ายผ่านบัญชีธุรกิจให้มากที่สุด ลดถอนสดก้อนโตถี่ ๆ เพื่อให้ธนาคารเห็น “เสถียรภาพเงินเข้า–ออก” จากรายการเดินบัญชี
แนบ “คำสั่งซื้อซ้ำ/สัญญาซื้อขาย” ของลูกค้าหลัก เพื่อชี้ว่าเงินเข้าคาดการณ์ได้
คำศัพท์จำเป็น (อธิบายครั้งเดียว): วงเงินหมุนเวียน (Overdraft/OD) คือวงเงินที่ดึงใช้ได้ตามต้องการและโปะคืนเมื่อมีเงินเข้า เหมาะกับค่าใช้จ่ายประจำที่หมุนเร็ว
2) เงินก้อนเพื่อการลงทุน/เช่าซื้อ (Term/HP): เงินยาวสำหรับ “ของยาว”
เหมาะกับ: ระบบบำบัดน้ำ–กรอง–ยูวี, เครื่องให้อากาศ/ปั๊ม, เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง, ตู้เพาะ–บ่ออนุบาล, โรงเรือนกันโรค (biosecurity), รถห้องเย็น/อุปกรณ์แพ็กกิ้ง
ทำไมจำเป็น: อย่าใช้ OD (เงินสั้น) ไปอุด ของยาว เพราะจะทำให้เงินหมุนตึง ควรแยก “ก๊อกเงินยาว” มาซื้อสินทรัพย์ที่ใช้หลายปี แล้วผ่อน ตามอายุใช้งาน เพื่อลดแรงกดดันเงินสดในแต่ละเดือน
วิธีใช้ให้เกิดผล:
ใส่เหตุผลเชิงรายได้: สินทรัพย์ที่ซื้อช่วย “เพิ่มผลผลิต” หรือ “ลดการสูญเสีย” อย่างไร เช่น ระบบกรองใหม่ลดอัตราตายของลูกปลาได้ X%
แนบใบเสนอราคา/ตารางผ่อน และแผนติดตั้ง–ใช้งาน ให้สัมพันธ์กับรอบเพาะ
คิดงวดผ่อนให้ “ตัดหลังวันรับเงิน” เพื่อไม่ชนรอบขึ้นต้นทุนสำคัญ (ค่าไฟ/ออกซิเจน)
คำศัพท์จำเป็น: เช่าซื้อ (Hire Purchase/HP) คือการผ่อนซื้อสินทรัพย์ โดยทรัพย์นั้นเป็นตัวช่วยสร้างรายได้/ลดต้นทุนในระยะยาว
3) แฟคตอริ่ง (Factoring) แบบ “เลือกใบ”:
เปลียนใบแจ้งหนี้เป็นเงินสอก่อนกำหนด
เหมาะกับ: ยอดขายลูกปลาให้ฟาร์มรายใหญ่/ตัวแทนที่มีเครดิตเทอม 30–90 วัน, ใบแจ้งหนี้ชัด ลูกค้าประวัติดี
ทำไมจำเป็น: โรงเพาะมัก “รอเงินนาน” ในรอบส่งของล็อตใหญ่ หากให้น้ำหนักกับ OD อย่างเดียว OD จะพองเกินจำเป็น การ “ขายสิทธิรับเงิน” บางส่วนช่วยดึงเงินเข้าก่อน คุมเสถียรภาพค่าไฟ–ออกซิเจน–อาหารได้
วิธีใช้ให้เกิดผล:
เลือกใช้เฉพาะใบประวัติดี (Selective) เพื่อลดต้นทุนรวม
จัดระบบเอกสารให้เรียบร้อย: ใบส่งมอบ/ใบรับสินค้า/ใบแจ้งหนี้ต้องสอดคล้องกัน
สื่อสารกับลูกค้าหลักให้เข้าใจเรื่องการโอนสิทธิรับเงิน (เพื่อความราบรื่น)
คำศัพท์จำเป็น: แฟคตอริ่ง คือการเปลี่ยนใบแจ้งหนี้เป็นเงินสดล่วงหน้าโดยผู้ให้บริการรับสิทธิรับเงินไป
4) Trade/Supply Chain Finance: ต่อท่อจากต้นน้ำ “อาหาร–อุปกรณ์–เวชภัณฑ์” ถึงปลายน้ำ “ฟาร์มผู้ซื้อ”
เหมาะกับ: โรงเพาะที่มีซัพพลายเออร์รายใหญ่ (อาหาร–อุปกรณ์–ออกซิเจน) และลูกค้าหลักที่สั่งซ้ำ
ทำไมจำเป็น: วงเงินรูปแบบนี้ “ยืด–ผ่อน” แรงกดดันระหว่าง ต้องจ่ายก่อน vs เก็บเงินทีหลัง โดยใช้ข้อมูลจริงจากทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขาย ทำให้ผู้ให้กู้มองเห็น “สายพานของเงิน” ชัดเจนขึ้น และกำหนดวงเงิน/เงื่อนไขได้เหมาะสมกว่าใช้ OD เพียงก๊อกเดียว
วิธีใช้ให้เกิดผล:
รวบรวม PO/สัญญาซื้อขายจากลูกค้าหลัก 2–3 ราย + เงื่อนไขกับซัพพลายเออร์หลัก
ทำไทม์ไลน์ “ใช้–เข้า–คืน” 90–180 วัน ให้สอดคล้องกับฤดูกาลเพาะ
คุยสามฝ่าย (เรา–ซัพพลายเออร์–ผู้ให้กู้) เพื่อวางโครงจ่าย-รับที่ชัดเจน
5) วงเงินก่อน–หลังส่งออก (Pre-/Post-Export): ถ้าคุณเริ่มมีดีลต่างประเทศ
เหมาะกับ: ส่งพันธุ์ปลา/ลูกกุ้งไปต่างประเทศ มีเอกสารการค้า (คำสั่งซื้อ, ตั๋วขนส่ง, ใบรับรองสุขภาพปลา) ครบ
ทำไมจำเป็น: ดีลต่างประเทศมีรอบเอกสารและเงินเข้ายาวกว่าปกติ วงเงินส่งออกที่อิงเอกสารจริง ทำให้กำหนดเพดานได้ “ตรงกับดีล” และช่วยให้เงินหมุนไม่สะดุดระหว่างรอขนส่ง/ตรวจเอกสาร
วิธีใช้ให้เกิดผล:
วางแผนป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนแบบง่าย ๆ (เช่น กำหนดช่วงรับเงิน/แจ้งสกุลเงินตั้งแต่ต้น)
จัดแฟ้มเอกสารส่งออกให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกล็อต
6) ค้ำประกันจากรัฐ (ถ้าเป้าคือ “วงเงินสูง” ในปีที่เข้มงวด)แม้เป้าหมายคือ
สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์2568 แต่การมี “ค้ำบางส่วน” จากหน่วยงานรัฐ/โครงการค้ำประกัน ช่วยให้ธนาคารตัดสินใจง่ายขึ้นในเคสที่เพดานสูง โดยยังพิจารณาเป็นรายกรณี—หัวใจจึงยังอยู่ที่ “แฟ้มข้อมูลจริง” และ “วินัยใช้–เข้า–คืน” ของกิจการ
แผนลงมือสำหรับโรงเพาะพันธุ์ (ทำวันนี้ เห็นผลรอบเพาะหน้า)
วางแผนเงินสด 90–180 วัน (หนึ่งย่อหน้า)
เขียน 3 บรรทัด: จะใช้เงินเรื่องอะไร/เมื่อไร, เงินจากลูกค้าจะเข้าเมื่อไร, จะคืนเงินเมื่อไร (ตั้งหลังวันรับเงิน 3–7 วัน)
แยกก๊อกเงิน: เอา OD รับมือรายจ่ายถี่, เอา Term/เช่าซื้อจัดการของยาว, ใช้แฟคตอริ่งกับใบที่เทอมยาว, พิจารณา Trade Finance ถ้าต้นน้ำ–ปลายน้ำชัด
คัดลูกค้าหลัก: เลือก 2–3 รายที่สั่งซ้ำ มีวินัยชำระ มาทำสรุป 1 หน้า (ยอด/รอบเงินเข้า/เครดิตเทอม) แนบแฟ้ม
ตั้ง “วันโปะ” ให้สัมพันธ์ฤดูกาลเพาะ: อย่าให้ตัดงวดชนช่วงค่าไฟ–ออกซิเจนพีก
จัดแฟ้มเดียวมาตรฐาน: PO/สัญญาซื้อ–ขาย, ใบส่งมอบ/ใบแจ้งหนี้, เดินบัญชี 6–12 เดือน, สรุปค่าใช้จ่ายหลัก, ภาพโรงเรือน–ระบบน้ำ–อากาศ
พรีสกรีน 2–3 ผู้ให้บริการ: ใช้แฟ้มเดียวกัน เทียบข้อเสนออย่างยุติธรรม และเก็บคำถามที่เจอมา “แพตช์แฟ้ม” ให้ตอบล่วงหน้าในรอบถัดไป
เรื่องเล่าจากหน้างาน: ทำไม “หลายก๊อก” ช่วยให้ฤดูกาลเพาะไม่สะดุด
วินเลือก “ชุดวงเงินหลายก๊อก” ตามนี้
OD สำหรับค่าไฟ–ออกซิเจน–อาหาร–ค่าแรง
เช่าซื้อ ระบบกรอง–ยูวี + เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง (หมดห่วงไฟดับ)
แฟคตอริ่งแบบเลือกใบ สำหรับลูกค้ารายใหญ่ที่เครดิตเทอม 60 วัน
Trade Finance ตกลงกับซัพพลายเออร์อาหาร–อุปกรณ์ให้ระบบจ่าย–รับสอดคล้องรอบเพาะ
ผลคือ เขา “เปิดก๊อกให้ถูกเวลา”: เงินสั้นแก้เรื่องสั้น เงินยาวแก้เรื่องยาว วันตัดชำระอยู่หลังวันรับเงินทั้งหมด ช่วงอากาศแปรปรวน–ไฟตก เครื่องสำรองทำงานทันที ลดอัตราตายของลูกปลาและรักษาคุณภาพส่งมอบ ลูกค้าหลักพอใจและสั่งซ้ำ—พอถึงรอบถัดไป ธนาคารเห็นสถิติ “ใช้–เข้า–คืน” เป็นวินัย จึงยกเพดาน OD ขึ้นเล็กน้อยแบบที่กิจการรับไหว
บทเรียน: สินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่ได้เริ่มที่ “ขอเท่าไหร่” แต่อยู่ที่ “จะแยกหน้าที่ของเงินอย่างไร” ให้สอดคล้องรอบเพาะ–รอบเก็บเงิน และเล่าเรื่องเดียวกันในทุกเอกสาร
ชวนอ่านต่อ (ภาพใหญ่ + ตรรกะเบื้องหลังการตั้งวงเงิน)
บทความนี้หยิบ “ทางเลือกของวงเงินที่นิยมกับกิจการขนาดกลาง–ใหญ่” มาขยายให้เข้ากับ โรงเพาะพันธุ์ปลา โดยเฉพาะ หากอยากเห็นภาพนโยบาย–แนวโน้มปีนี้ และเหตุผลว่าทำไม “หลายก๊อก” จึงเดินไวกว่า “ก๊อกเดียวใหญ่” ลองอ่านบทความหลักของ EasyCashflows ต่อได้ที่นี่:
👉 อ่านบทความหลัก: สินเชื่อธุรกิจไม่มีหลักทรัพย์สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่