
ในปี 2568 ตลาดแฟรนไชส์ไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนซิ่งคาดว่ามูลค่าตลาดรวมจะขยายตัวกว่า 8-10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นโมเดลที่ช่วยให้ผู้ประกอบการรายใหม่ก้าวเข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงด้านการสร้างแบรนด์ และเพิ่มโอกาสทำกำไรตั้งแต่ปีแรก
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์เป็นไปได้จริง คือ “สินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์” ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ลงทุนในระบบแฟรนไชส์ และมีข้อได้เปรียบเหนือ
สินเชื่อsme ทั่วไปทั้งในด้านวงเงิน เงื่อนไข และสิทธิพิเศษ
ความแตกต่างระหว่างสินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์กับสินเชื่อ SME ทั่วไป
จากประสบการณ์ของผมในฐานะที่ปรึกษาด้านสินเชื่อ ธนาคารมองแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงเป็น “ความเสี่ยงต่ำกว่า” เพราะมีโมเดลธุรกิจที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ทำให้บางธนาคารสามารถให้วงเงินกู้สูงถึง 100% ของมูลค่าการลงทุน และไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ในขณะที่
สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็กทั่วไปมักจำกัดวงเงินและต้องมีทรัพย์ค้ำประกัน
Insight: ในปี 2568 ธนาคารหลายแห่งปรับเงื่อนไขให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ โดยให้ความสำคัญกับ Cash Flow และศักยภาพของแบรนด์แฟรนไชส์มากกว่าทรัพย์ค้ำประกัน
คุณสมบัติผู้กู้ที่ควรเตรียม
ข้อตกลงกับแบรนด์แฟรนไชส์ – ต้องมีสัญญาหรือหนังสือยืนยันสิทธิการดำเนินงาน
แผนธุรกิจชัดเจน – รวมถึงการวิเคราะห์ทำเล ประมาณการรายได้-ค่าใช้จ่าย และแผนการตลาด
เงินทุนสำรองส่วนตัว – แม้บางแบรนด์ให้กู้เต็ม แต่การมีเงินทุนส่วนตัว 20-30% ช่วยเพิ่มโอกาสอนุมัติ
ธนาคารที่มีโปรแกรมสินเชื่อแฟรนไชส์เด่นในปี 2568
SCB – วงเงินสูงสุด 100% ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับแบรนด์พันธมิตร เช่น Cafe Amazon, KFC
Krungsri – รองรับแบรนด์มากกว่า 50 แบรนด์ วงเงิน 80-100% พร้อมทีมที่ปรึกษาเฉพาะทาง
KBank – วงเงินสูงสุด 100 ล้านบาท เน้นแฟรนไชส์ขนาดใหญ่ และมีโปรแกรมสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่
ธนาคารออมสิน / ธ.ก.ส. – ดอกเบี้ยพิเศษ เน้นแฟรนไชส์ท้องถิ่นและชุมชน
คำแนะนำผู้เชี่ยวชาญ: ก่อนเลือกธนาคาร ควรเปรียบเทียบ Effective Interest Rate ไม่ใช่ดูเพียงอัตราดอกเบี้ยที่โฆษณา เพราะค่าธรรมเนียมแฝงอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น
ขั้นตอนการขอสินเชื่อแฟรนไชส์
ติดต่อเจ้าของแฟรนไชส์และขอข้อมูลโครงการ
จัดทำแผนธุรกิจและเตรียมเอกสารหลักฐาน
เลือกธนาคารที่มีโปรแกรมเหมาะสม
ยื่นคำขอและรอการพิจารณา (7-30 วัน)
ทำสัญญาและรับเงินกู้ตามเงื่อนไข
ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ
ศึกษาความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และผลการดำเนินงานย้อนหลัง
วิเคราะห์ตลาดและทำเล ให้มั่นใจว่ามีฐานลูกค้าเพียงพอ
ตรวจสอบเงื่อนไขสัญญา โดยเฉพาะข้อผูกพันด้านการจัดซื้อ
เตรียมแผนสำรอง กรณีรายได้ต่ำกว่าคาด
สรุปและคำแนะนำ
สินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ SME โดยเฉพาะรายใหม่ สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมั่นใจในปี 2568 แต่ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับวงเงินกู้เพียงอย่างเดียว การวางแผนธุรกิจที่รอบคอบ การเลือกแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และการบริหารเงินสดอย่างมีวินัย จะเป็นปัจจัยชี้ชะตาในระยะยาว
หากคุณกำลังวางแผนขอสินเชื่อแฟรนไชส์หรือ
สินเชื่อsme เพื่อเริ่มต้นธุรกิจ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพื่อให้ได้เงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุดกับศักยภาพของคุณ
สนใจรับคำปรึกษาสินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์และ SME ฟรี
เยี่ยมชม www.easycashflows.com เพื่อดูข้อมูลและนัดหมายผู้เชี่ยวชาญ
สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็กสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์