รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ก่อนยี่นกู้ สินเชื่อ SME เตรียมตัวอย่างไรดี?  (อ่าน 44 ครั้ง)

easycashflows

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 59
    • ดูรายละเอียด



ลองนึกภาพคุณเป็นเจ้าของร้านอาหารเล็ก ๆ ที่กำลังจะขยายสาขาใหม่ หรือผู้รับเหมาที่ต้องสำรองเงินค่าวัสดุและค่าแรงก่อนรอรับเงินงวด สิ่งแรกที่ธนาคารถามหาไม่ใช่แค่ “ความฝัน” หรือ “แผนธุรกิจสวย ๆ” แต่คือ สุขภาพการเงินที่แท้จริง
การตรวจสุขภาพเงินสด คือการเช็กว่า กิจการมีรายได้เพียงพอ จัดการสำรองเงินได้ และรับมือกับภาระหนี้ใหม่โดยไม่สะดุดหรือไม่ หากเตรียมครบ โอกาสอนุมัติ สินเชื่อsme
, เงินกู้ SME, สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก หรือ สินเชื่อเพื่อการลงทุนขนาดเล็ก ในปี 2568 จะสูงกว่าผู้ที่ยื่นแบบ “ไม่มีแผน” อย่างชัดเจน

ด่านที่ 1: รายได้ต้องชนะค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 20%
ธุรกิจที่รายได้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่าค่าใช้จ่ายประจำ 20% ขึ้นไป คือสัญญาณว่า “ยังมีลมหายใจทางการเงิน”
สิ่งที่ควรทำ
    • รวบรวมสเตทเมนต์ธุรกิจย้อนหลัง 6–12 เดือน
    • หาค่าเฉลี่ยรายได้ต่อเดือน
    • ลบค่าใช้จ่ายประจำ (ค่าเช่า เงินเดือน ค่าน้ำไฟ)
    • ส่วนต่าง ≥ 20% ถือว่า “ผ่านด่านแรก”
คำแนะนำผู้เชี่ยวชาญ: หากธุรกิจคุณมีฤดูกาล เช่น ร้านกาแฟที่ขายดีเฉพาะเช้า ให้ใช้ค่าเฉลี่ย 3 เดือนล่าสุดเสริม เพื่อแสดงแนวโน้มว่ารายได้ไม่เหวี่ยงจนเกินไป

ด่านที่ 2: ต้องมีเงินสำรองกันชน 10–15%
ไม่มีธุรกิจไหนที่ยอดขายตรงตามแผนทุกเดือนเสมอไป บางครั้งงานเลื่อน ลูกค้าจ่ายช้า หรือเจอค่าใช้จ่ายไม่คาดคิด หากคุณมีเงินสำรอง 10–15% ของค่างวดหนี้รวมต่อเดือน จะช่วยพิสูจน์ว่า “ต่อให้สะดุด ก็ยังไม่ล้ม”
ตัวอย่างง่าย ๆ
ถ้าค่างวดหนี้ต่อเดือน 100,000 บาท → ควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 10,000–15,000 บาทในบัญชีธุรกิจหรือกองทุนสภาพคล่องที่ดึงออกมาใช้ได้เร็ว
วิธีปฏิบัติ
    • หัก 5–10% ของยอดขายเข้าบัญชีสำรองอัตโนมัติ
    • ทบทวนยอดทุกไตรมาสให้สัมพันธ์กับค่างวดจริง

ด่านที่ 3: DSCR ≥ 1.2 และเงินสดยังบวก
ศัพท์เทคนิคที่ธนาคารชอบใช้คือ DSCR (Debt Service Coverage Ratio) แปลง่าย ๆ ว่า “ธุรกิจคุณมีเงินสดพอจ่ายหนี้หรือไม่”
สูตรคำนวณ
DSCR = เงินสดสุทธิ ÷ ค่างวดรวม
    • ถ้ามากกว่า 1.2 → ธุรกิจมี buffer ปลอดภัย
    • ถ้าน้อยกว่า 1.2 → เสี่ยงตึงมือ
เช็กแบบจำลอง
    1. ประมาณรายได้เฉลี่ยต่อเดือน
    2. หักค่าใช้จ่ายประจำ = เงินสดสุทธิ
    3. ประเมินค่างวดใหม่ที่ต้องการ
    4. ถ้า DSCR ≥ 1.2 และยังเหลือเงินสดบวก → “ผ่านด่านที่ 3”
คำแนะนำผู้เชี่ยวชาญ: ถ้าไม่ผ่าน ให้ลองลดวงเงิน ยืดเวลาผ่อน หรือแยกเงินลงทุนออกจากเงินหมุนเวียนเพื่อไม่ให้ค่างวดหนักเกินไป

สูตรตั้งวงเงินเริ่มต้น (ใช้งานได้จริง)
หลายธุรกิจพลาดเพราะ “ตั้งวงเงินสูงเกิน” หรือ “ใช้เงินผิดประเภท” สูตรง่าย ๆ มีดังนี้
    • วงเงินหมุนเวียนระยะสั้น (OD): ค่าใช้จ่ายประจำต่อเดือน × 1.0–1.5 + สำรอง 10–20%
    • สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก
: จับคู่ระยะเวลาผ่อนกับอายุการใช้งานของทรัพย์ (เช่น เครื่องครัว 3 ปี, เครื่องจักร 5 ปี)
    • ใช้หลายวงเงินได้ แต่ต้องแยกหน้าที่: ลงทุนใช้ก้อนยาว ส่วนเงินหมุนเวียนใช้แค่หมุนค่าแรง/วัตถุดิบ

กรณีศึกษา (เห็นภาพชัด)
    • ร้านอาหารย่านสำนักงาน: ใช้ สินเชื่อod
 ซื้อวัตถุดิบ + เงินกู้ยาวซื้ออุปกรณ์ครัว → ต้นทุนดอกเบี้ยลดลง เพราะคืน OD ตามรอบเงินเข้า
    • โรงงานเล็ก B2B: เช่าซื้อเครื่องจักร + ใช้แฟคตอริ่งเร่งเงินจากลูกค้า → เงินสดไม่ตึงมือแม้รอชำระ T+60
    • ค้าปลีกเปิดสาขาใหม่: เงินกู้ยาวสำหรับตกแต่งร้าน + OD สำหรับสต็อก → กระแสเงินสดคาดการณ์ได้ ไม่บีบคั้น
    • ผู้รับเหมางานโครงการ: ตั้ง OD ตามค่าวัสดุและค่าแรง + กำหนดวันคืนเงินตรงกับงวดรับงาน → ลดภาระดอกสะสม

สิ่งที่ SME มักพลาด
    1. ใช้ OD ซื้อของใหญ่ → ควรใช้เงินกู้ยาว
    2. คืนเงินไม่เป็นรอบ → ต้องตั้ง “วันคืนเงิน” ให้สัมพันธ์กับยอดขาย
    3. ทำแฟคตอริ่งทุกบิล → เลือกเฉพาะบิลลูกค้าที่เครดิตดี
    4. เอกสารครบแต่เล่าเรื่องไม่เป็น → ควรทำสรุปผู้บริหาร 1 หน้า
    5. มองแค่ดอกเบี้ยโฆษณา → ต้องเทียบต้นทุนรวมจริง

สรุป: สุขภาพเงินสดดี = โอกาสกู้ผ่านสูง
ปี 2568 เป็นปีที่สถาบันการเงินไทยเข้มงวดเรื่อง Responsible Lending พวกเขาต้องการเห็นว่าธุรกิจ “ผ่อนไหวจริง” ไม่ใช่แค่มีหลักประกัน ดังนั้นการตรวจสุขภาพเงินสด 3 ด่านก่อนยื่นกู้จึงสำคัญมาก
Checklist จำง่าย:
    1. รายได้ > ค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 20%
    2. มีเงินสำรอง 10–15% ของค่างวด
    3. DSCR ≥ 1.2 และเงินสดยังเป็นบวก
ใครที่ทำครบ โอกาสอนุมัติ สินเชื่อsme, เงินกู้ SME, สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก, หรือสินเชื่อเพื่อการลงทุนขนาดเล็ก จะสูงขึ้นมาก และยังได้วงเงิน “ตรงงาน–ตรงจังหวะ”
👉 อยากให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยประเมินสุขภาพเงินสดของคุณ?
ติดต่อหรืออ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.easycashflows.com
บันทึกการเข้า