
ทำไมปี 2568 ต้อง “จัดระเบียบหนี้” ก่อนยื่นกู้
ในปี 2568 ภูมิทัศน์สินเชื่อของผู้ประกอบการไทยเข้มงวดขึ้น ธนาคารพึ่งพาตัวชี้วัด DSR (Debt Service Ratio) และ DSCR (Debt Service Coverage Ratio) มากกว่าที่เคย พร้อมอ่านพฤติกรรมในสเตทเมนต์และข้อมูลเครดิตบูโรอย่างละเอียด ผลลัพธ์ของเครดิตที่ “ไม่น่าเชื่อถือ” คือดอกเบี้ยสูง วงเงินต่ำ และมีสิทธิ์ถูกปฏิเสธ แม้ธุรกิจจริงจะขายดี ในทางกลับกัน ถ้าคุณจัดการหนี้ดี รักษาวินัยการเงิน และสร้างการไหลเวียนของ เงินทุนหมุนเวียน ที่สวยงาม โอกาสได้
สินเชื่อเพื่อธุรกิจ หรือ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก ด้วยเงื่อนไขยืดหยุ่นจะสูงขึ้นมาก
บทบาทของ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ต่อเครดิตธุรกิจสินเชื่อรีไฟแนนซ์ คือการปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะกับจังหวะกระแสเงินสดปัจจุบัน เพื่อลดแรงกดบน DSR/DSCR:
ลดต้นทุนดอกเบี้ย/ค่างวดต่อเดือน: ผ่อนยาวขึ้นหรืออัตราดอกเบี้ยต่ำลง ทำให้เงินเหลือใช้ในกิจการมากขึ้น
รวมหนี้หลายก้อนเป็นก้อนเดียว: สเตทเมนต์ดูสะอาด เข้าใจง่าย ลดความเสี่ยงจาก “หนี้ยิบย่อย” ที่ลาก DSR ให้สูงเกินจำเป็น
กรณีคลาสสิกคือธุรกิจมีหนี้บัตร/สินเชื่อบุคคล/สินเชื่อธุรกิจหลายก้อน การรีไฟแนนซ์ไปก้อนเดียวอาจลดค่างวดรวมลง 15–30% เงินสดจึงผ่อนคลาย และ DSCR ≥ 1.2 ได้ง่ายขึ้น
DSR vs DSCR: เกณฑ์ “ผ่าน–ไม่ผ่าน” แบบบ้าน ๆ
DSR = ค่างวดหนี้รวมต่อเดือน ÷ รายได้รวมที่ธนาคารนับ โดยทั่วไปควรไม่เกิน ~40%
DSCR = เงินสดคงเหลือจากการดำเนินงาน ÷ ค่างวดหนี้รวม ควร ≥ 1.2
แนวทางบริหาร: ยืดอายุหนี้ที่ลงทุนยาว, ปิดวงเงินที่ไม่ใช้, ย้ายค่าใช้จ่ายผ่านบัญชีธุรกิจให้ “รายได้ตรวจสอบได้” และทำประมาณการเงินสด 12–24 เดือนเพื่อโชว์สมมติฐานจริงจัง
เงินทุนหมุนเวียน &
สินเชื่อระยะสั้น: ใช้ให้ “พอดี”
สินเชื่อระยะสั้น เช่น วงเงินเบิกเกินบัญชี (OD) หรือ Invoice/AR Financing ช่วยอุดช่องว่าง “จ่ายก่อน–รับเงินทีหลัง” ได้ดี แต่ถ้าใช้เต็มวงเงินถาวร ต้นทุนดอกเบี้ยจะบาน และภาพวินัยการเงินจะด้อยลง ทางที่ถูกคือ “ใช้เป็นสะพาน” ไม่ใช่ “เครื่องช่วยหายใจถาวร” พร้อมกติกาปิด/ลดวงเงินเป็นช่วง ๆ เพื่อให้ DSR/DSCR สวยต่อเนื่อง และยื่นขอวงเงินใหม่ได้ “อนุมัติง่าย”
มุมมองส่วนตัว: รีไฟแนนซ์ไม่ใช่เวทมนตร์ แต่มัน “ปรับลมหายใจ” ให้กิจการในฐานะที่ปรึกษาที่เจอเคส SME มาหลากหลาย ผมสังเกตว่าธุรกิจที่ “เดินคล่อง” มักชนะที่วินัยและการสื่อสารมากกว่าโชค หลักการง่าย ๆ ที่ได้ผลจริง:
รีไฟแนนซ์อย่างมีเป้าหมาย
ถามตัวเองก่อน: “อยากลดค่างวดหรืออยากลดดอกเบี้ยรวม?” คำตอบจะพาไปสู่โครงสร้างหนี้ที่ใช่ บางธุรกิจควรยืดผ่อนเพื่อคลาย DSR ก่อน ส่วนบางธุรกิจควร “สั้นลง–หรือย้ายก้อนดอกแพง” เพื่อปิดหนี้เร็ว
แยก “หนี้ลงทุน” ออกจาก “หนี้หมุนเวียน”
เครื่องจักร/รีโนเวท = เทอมโลนยาว, วงเงินขายหน้าร้าน/ซื้อวัตถุดิบตามรอบ = เงินทุนหมุนเวียน ระยะสั้น การใช้ OD ไปทับซ้อนสินทรัพย์ยาวทำให้ดอกบานและ DSCR แย่โดยไม่จำเป็น
ทำงบเงินสดให้ธนาคารอ่านแล้วเชื่อ
ประมาณการเงินสด 12–24 เดือน พร้อมสมมติฐานรายได้–ต้นทุนที่ผูกกับหลักฐาน (PO, สัญญาลูกค้า, ใบเสนอราคาซัพพลายเออร์) และโชว์ DSCR ฐาน ≥ 1.2 + กรณีแย่ยัง ≥ 1.0 การวาง “เบาะรองรับ” นี้ทำให้ผู้อนุมัติสบายใจ
สื่อสารก่อนมีปัญหา
ถ้าเห็นว่าค่างวดเริ่มตึง ให้คุยสถาบันการเงินเพื่อปรับโครงสร้างก่อนผิดนัด ธนาคารชอบลูกค้าที่ “กล้าคุย” มากกว่าลูกค้าที่เงียบจนเกิด NPL
Case Study 1: ร้านอาหารครอบครัว – จาก “ดอกแพงหลายก้อน” สู่เครดิตใส ภายใน 6 เดือน
ฉากหลัง: ร้านอาหารครอบครัวมีหนี้ 3 ก้อน—บัตรเครดิต, สินเชื่อบุคคล, และกู้ลงทุนครัวรวมกันเกือบ 1.2 ล้านบาท ค่างวดรวมสูง ดอกเบี้ยเฉลี่ยแพง DSR ทะลุ 55% ทำให้ขอ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ เพิ่มไม่ผ่าน
กลยุทธ์:
รีไฟแนนซ์รวมก้อนเป็นเทอมโลนดอกต่ำลง ผ่อน 48 เดือน → ค่างวดต่อเดือนลด ~28%
เปิดบัญชีรับรายได้ผ่านเครื่องรับชำระ e-Payment ทุกโต๊ะ เพื่อให้รายได้ “ตรวจสอบได้”
วางกติกา OD เฉพาะช่วงซื้อวัตถุดิบเทศกาล และ “ปิดรอบ” ทุกสิ้นไตรมาส
ผลลัพธ์:
DSR ลดจาก 55% เหลือ ~36% ภายใน 3 เดือน
กระแสเงินสดเป็นบวกสม่ำเสมอ DSCR ฐาน 1.25
6 เดือนถัดมา ยื่น สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อขยายมุมเบเกอรี ได้วงเงินอนุมัติง่ายขึ้นพร้อมอัตราดอกเบี้ยดีกว่าเดิม
Case Study 2: โรงงาน OEM เสื้อผ้า – เงินนอนใน AR สูง แก้ด้วยรีไฟแนนซ์ + AR Financing
ฉากหลัง: OEM รับงานห้างใหญ่ ใบแจ้งหนี้ 60–90 วัน เงินจมในลูกหนี้การค้าเกิน 4 ล้านบาท ต้องลาก OD เกือบเต็มวงเงิน ดอกเบี้ยสูง และ DSCR หล่นต่ำกว่า 1.0 บางเดือน
กลยุทธ์:
รีไฟแนนซ์หนี้ระยะสั้นดอกแพงไปก้อนเดียวดอกต่ำลง
เปลี่ยนวิธีจัดหาเงินทุนหมุนเวียน: ใบแจ้งหนี้ >60 วัน ส่งเข้า Invoice/AR Financing 50–60% ของยอด เพื่อเร่งเงินเข้า
คุม OD ให้เป็น “สะพาน” รายสัปดาห์—เงินเข้าแล้วปิดทันที
ทำประมาณการเงินสด 18 เดือน แยก “ฤดูกาลสูง–ต่ำ” แล้วคุยธนาคารพร้อมสมมติฐาน
ผลลัพธ์:
ต้นทุนดอกเบี้ยเฉลี่ย/เดือนลด ~22%
DSCR ฐานดีดขึ้นจาก 0.95 → 1.32 ภายใน 2 ไตรมาส
ได้ข้อเสนอวงเงิน สินเชื่อระยะสั้น แบบหมุนรอบ (Revolving) เพิ่ม โดยธนาคารพอใจวินัยปิด/ลด OD
Case Study 3: ร้านค้าปลีกออนไลน์ – จากเครดิตสะดุดสู่ “อนุมัติง่าย” ด้วยวินัย 90 วัน
ฉากหลัง: e-Commerce รายได้เดิน แต่ประวัติชำระบางงวด “ล่าช้า” ทำให้เครดิตบูโรดูไม่สวย ยื่นกู้เพิ่มทีไรติดประเด็นวินัย
กลยุทธ์ 90 วันเข้มข้น:
จัดตารางชำระหนี้ “ก่อนครบกำหนด” 3–5 วัน พร้อมกันทุกบัญชี
ดึงยอดขายเข้า “บัญชีธุรกิจ” 100% (เลิกเงินสดล้วน) เพื่อให้รายได้ตรวจสอบได้
รีไฟแนนซ์หนี้ดอกแพงยอดเล็ก ๆ ออกไป ปรับให้เหลือก้อนเดียว
ทำสรุป DSR/DSCR รายเดือน ส่งอัปเดตผู้จัดการสินเชื่อทุกไตรมาส
ผลลัพธ์:
3 เดือนแรก ไม่มีค้างชำระเลย คะแนนวินัยชำระดีขึ้น
DSR ลดลงเหลือ 38–40% DSCR ฐาน ≥ 1.2
ครั้งถัดไปยื่น สินเชื่อเพื่อธุรกิจ วงเงินหมุนเวียน ได้ “ผ่านในรอบเดียว” เพราะแฟ้มเอกสารสะอาดและสื่อสารเชิงรุก
เช็กลิสต์ “ก่อนกดส่งคำขอสินเชื่อ”
ทำ รีไฟแนนซ์ เพื่อลดค่างวดรวม/ดอกเบี้ย และรวมหนี้ยิบย่อย
สร้างประวัติ ชำระตรงเวลา อย่างน้อย 6–12 เดือน
ดึงยอดขายเข้าบัญชีธุรกิจให้มากที่สุด (รายได้ตรวจสอบได้)
ทำประมาณการเงินสด 12–24 เดือน + ตาราง DSCR ฐาน ≥ 1.2
ใช้ สินเชื่อระยะสั้น เฉพาะช่วงจำเป็น และมีนโยบาย “ปิด/ลดวงเงินเป็นรอบ”
เตรียมแฟ้ม: สเตทเมนต์ 6–12 เดือน, สัญญาลูกค้า/PO, ใบเสนอราคาซัพพลายเออร์, สรุป DSR/DSCR หน้าเดียว
สรุป 
การ “ลดโอกาสถูกปฏิเสธสินเชื่อ” ในปี 2568 ไม่ได้เริ่มที่เคาน์เตอร์ธนาคาร แต่เริ่มตั้งแต่วันนี้ที่คุณ จัดระเบียบหนี้ ด้วย
สินเชื่อรีไฟแนนซ์, สร้างวินัยจ่ายตรงเวลา, ทำให้รายได้ “ตรวจสอบได้”, และใช้ เงินทุนหมุนเวียน อย่างพอดี ผ่านเครื่องมือ สินเชื่อระยะสั้น เฉพาะจังหวะ จำไว้: DSR ต่ำลง, DSCR ≥ 1.2, และสเตทเมนต์ที่อ่านแล้ว “เชื่อได้” คือสามเสาหลักของการยื่น สินเชื่อเพื่อธุรกิจ และ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก ให้ อนุมัติง่าย—ไม่ใช่เพราะโชค แต่เพราะคุณเตรียมตัวอย่างมืออาชีพ