
รีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ 2568 รวมภาระหนี้หลายก้อนให้เป็นก้อนเดียว
ลองนึกภาพเจ้าของกิจการ SME ที่เริ่มต้นด้วยความฝันใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับต้องแบกรับหนี้หลายก้อนจากหลายสถาบันการเงิน ทั้ง
สินเชื่อsme, สินเชื่อระยะสั้น และแม้แต่การกู้เงินสดหมุนเวียนรายเดือน จนในที่สุดการจัดการหนี้กลายเป็นเรื่องยากมากกว่าการทำธุรกิจเสียอีก
นี่คือเหตุผลที่
รีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ เพื่อรวมหนี้ กลายเป็นคำตอบสำคัญของผู้ประกอบการไทยในปี 2568 เพราะนอกจากจะช่วยลดดอกเบี้ยและยอดผ่อนชำระรายเดือนแล้ว ยังช่วย เปลี่ยนหนี้ที่กระจัดกระจายหลายก้อนให้เป็นก้อนเดียว ทำให้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น
ทำไมธุรกิจ SME ถึงควรพิจารณารีไฟแนนซ์?
ผู้ประกอบการหลายรายอาจมองว่าการรีไฟแนนซ์เป็นแค่การยืดหนี้ แต่จริง ๆ แล้ว หากเลือกอย่างมีกลยุทธ์ มันสามารถเปลี่ยนเป็น เงินทุนระยะสั้น ที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง หรือนำไปใช้ลงทุนขยายธุรกิจได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อ SME มักแนะนำว่า ก่อนตัดสินใจ
รีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจsmeควรถามตัวเอง 3 ข้อ:
ดอกเบี้ยปัจจุบันที่จ่ายอยู่สูงเกินไปหรือไม่?
กระแสเงินสดของธุรกิจเริ่มตึงตัวหรือยัง?
ธุรกิจยังมีศักยภาพเติบโตหากได้ลดภาระหนี้หรือเปล่า?
หากคำตอบคือ “ใช่” รีไฟแนนซ์คือทางออกที่ควรพิจารณาอย่างจริงจัง
ธนาคารชั้นนำที่ให้บริการรีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจในปี 2568
1. ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Bank)
ผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์รวมหนี้ หรือสินเชื่อบ้านแลกเงิน
จุดแข็ง: ยืดหยุ่น เลือกรีไฟแนนซ์เฉพาะหนี้ที่จำเป็น ไม่ต้องรวมหนี้ทั้งหมด
2. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
เน้นกลุ่มบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจมาแล้ว 3 ปีขึ้นไป
เหมาะกับธุรกิจที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 75 ล้านบาท
เป็นหนึ่งในธนาคารที่ SME เชื่อถือในเรื่อง การบริหารเครดิต
3. ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb)
ผลิตภัณฑ์ ttb sme smart biz
วงเงินสูงสุด 50 ล้านบาท
ผ่อนยาวนานถึง 20 ปี
รับหลักทรัพย์ค้ำประกันได้หลากหลาย เช่น อาคาร ที่ดินเปล่า
4. SME D Bank
สินเชื่อ SME Refinance Plus+
ดอกเบี้ยต่ำกว่าสถาบันการเงินทั่วไป
เน้นช่วยผู้ประกอบการรายเล็กโดยเฉพาะ
สมัครง่ายผ่านระบบออนไลน์
5. ธนาคารออมสิน (GSB)
วงเงินสูงสุด 10 ล้านบาท
เหมาะสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย
เน้นเสริมสภาพคล่องและช่วยฟื้นธุรกิจหลังเศรษฐกิจชะลอตัว
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ธุรกิจ
หลักทรัพย์ค้ำประกัน: ธนาคารส่วนใหญ่มักต้องการ แต่บางแห่งอย่าง SME D Bank มีเงื่อนไขที่ผ่อนคลายกว่า
อัตราดอกเบี้ย: ควรเปรียบเทียบทุกแห่ง ปัจจุบัน (ปี 2568) ดอกเบี้ยเฉลี่ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์อยู่ที่ 5–9% ต่อปี
ค่าธรรมเนียม: มักมีค่าประเมินหลักทรัพย์และค่าดำเนินการ ควรคำนวณต้นทุนจริงก่อนตัดสินใจ
เครดิตธุรกิจ: อย่าลืมว่าประวัติการชำระหนี้ที่ดีจะช่วยให้การรีไฟแนนซ์ผ่านได้ง่ายขึ้น
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: กลยุทธ์ใช้รีไฟแนนซ์ให้ธุรกิจกลับมาเติบโต
รวมภาระหนี้ + ปรับโครงสร้างกระแสเงินสด → ช่วยให้ธุรกิจมีสภาพคล่องเพื่อหมุนต่อ
ใช้ร่วมกับสินเชื่อแฟคตอริ่ง (Factoring) → เปลี่ยน Invoice เป็นเงินสดทันที เหมาะกับธุรกิจที่มีเครดิตเทอมยาว
ใช้ควบคู่กับสินเชื่อ SME ระยะสั้น → เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีฤดูกาล เช่น เกษตร หรือท่องเที่ยว ที่ต้องเสริมสภาพคล่องเฉพาะช่วง
ปรับแผนธุรกิจหลังรีไฟแนนซ์ → ไม่ใช่แค่ลดหนี้ แต่ต้องใช้เป็นจุดเริ่มต้น “รีเซ็ตธุรกิจ” ให้เดินหน้าต่อ
สรุปและคำแนะนำเพิ่มเติม
การรีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจในปี 2568 ไม่ใช่เพียงการ “ลดดอกเบี้ย” แต่คือกลยุทธ์ทางการเงินที่จะช่วยผู้ประกอบการ SME เปลี่ยนหนี้ให้เป็นโอกาส และกลับมามีศักยภาพแข่งขันอีกครั้ง
หากคุณกำลังมองหาทางออกเพื่อบริหารหนี้ หรืออยากปรึกษาเรื่องการวางแผนรีไฟแนนซ์ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.easycashflows.com
เพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อธุรกิจโดยตรง
อ่านบทความต้นฉบับ
สินเชื่อรีไฟแนนซ์ รวบหนี้ธุรกิจหลายก้อนให้เป็นก้อนเดียว🔎 ข้อมูลอ้างอิง
ธนาคารกรุงไทย: Krungthai Bank
ธนาคารไทยพาณิชย์: SCB SME Refinance
ธนาคารทหารไทยธนชาต: ttb sme smart biz