
ลองนึกภาพเจ้าของกิจการรายเล็ก ที่เพิ่งได้โอกาสปิดดีลกับลูกค้ารายใหญ่ แต่ติดตรงที่ต้องสำรองเงินหมุนก่อนรับเงินสดจริง หลายคนเลือกตรงไปหา “สินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็ว” เพราะคิดว่าน่าจะตอบโจทย์ทันใจ แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นการถูกปฏิเสธ! คำถามคือ…เกิดจากอะไร?
ในฐานะที่ปรึกษาด้านสินเชื่อธุรกิจ ผมจะเล่าให้ฟังถึง 5 สาเหตุสำคัญที่ทำให้ SME ไทยขอสินเชื่อไม่ผ่าน พร้อมแนวทางแก้ไขแบบใช้ได้จริง เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึง
สินเชื่อsme, สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก และสินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณในปี 2568
1. ประวัติเครดิตบูโรไม่ดี
ลองคิดดูว่า ถ้าคุณเคยผิดนัดชำระหนี้ บัตรเครดิตค้าง หรือมีประวัติถูกฟ้องร้อง ธนาคารย่อมมองว่าคุณเป็นลูกหนี้ที่ “เสี่ยงสูง” การถูกปฏิเสธจึงแทบจะเป็นเรื่องแน่นอน
แนวทางแก้: ตรวจเครดิตบูโรล่วงหน้าทุกครั้งก่อนยื่นกู้ หากมีหนี้เสียควรรีบเคลียร์และสร้างพฤติกรรมใหม่ เช่น ชำระตรงเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 6–12 เดือน เพื่อฟื้นเครดิต ก่อนยื่นขอสินเชื่อธุรกิจใหม่
2. เอกสารทางการเงินไม่ครบหรือน่าเชื่อถือต่ำ
ธนาคารไม่ปล่อยกู้จาก “คำพูด” พวกเขาต้องการหลักฐานทางการเงิน เช่น งบการเงินย้อนหลัง รายการเดินบัญชี แผนธุรกิจที่เห็นกระแสเงินสดชัดเจน หากขาดหรือข้อมูลไม่สอดคล้องกัน ธนาคารจะมองว่าเสี่ยงต่อการผิดนัด
แนวทางแก้:
จัดเตรียมงบการเงินย้อนหลัง 1–2 ปี
แนบ Statement ธนาคาร 6 เดือนล่าสุด
จัดทำแผนธุรกิจพร้อมตัวเลขรายได้-ค่าใช้จ่าย
เสริมด้วยใบเสร็จหรือสัญญาลูกค้าเพื่อสร้างความมั่นใจ
3. ภาระหนี้สูงเกินไป
หลายธุรกิจมีสินเชื่อเดิมอยู่แล้ว ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต หรือกู้รถ กู้บ้าน พอรวมภาระหนี้ทั้งหมด กลายเป็นว่า DTI (Debt-to-Income) หรือ DSCR (Debt Service Coverage Ratio) สูงเกิน 40–50% ซึ่งธนาคารถือว่า “เกินกำลังจ่าย”
แนวทางแก้:
ก่อนยื่นกู้ใหม่ ควรรีไฟแนนซ์หนี้เดิม ลดดอกเบี้ย และพยายามจัดการหนี้ให้เหลือภาระไม่เกิน 30–40% ของรายได้รวม เพื่อแสดงศักยภาพการชำระที่ชัดเจน
4. ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือผู้ค้ำไม่แข็งแรง
แม้ปัจจุบันมี
สินเชื่อธุรกิจSMEไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ในหลายกรณี สถาบันการเงินยังมองหาหลักประกันเพื่อความมั่นใจ หากไม่มี ธนาคารอาจลังเล หรืออนุมัติวงเงินต่ำ
แนวทางแก้:
ใช้โครงการค้ำประกันของ บสย. ที่ในปี 2568 มีวงเงินค้ำกว่า 150,000 ล้านบาท
หาผู้ค้ำที่มีฐานะการเงินดี
หากมีที่ดิน อาคาร หรือเครื่องจักร ควรใช้เป็นหลักประกันบางส่วนเพื่อเพิ่มโอกาสอนุมัติ
5. ธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมที่เสี่ยงสูง
ปี 2568 หลายอุตสาหกรรมผันผวนหนัก เช่น นำเข้าเทคโนโลยีเก่า หรือธุรกิจที่พึ่งพา Demand ชั่วคราว ธนาคารจึงเข้มงวดเป็นพิเศษ
แนวทางแก้:
นำเสนอแผนธุรกิจที่มีตัวเลขจริงรองรับ
แนบสัญญาลูกค้า คำสั่งซื้อ หรือพันธมิตรธุรกิจที่มั่นคง
แสดงให้เห็นว่าธุรกิจแม้อยู่ในอุตสาหกรรมเสี่ยง แต่คุณมี “กลยุทธ์ลดความเสี่ยง” ที่ชัดเจน
🔍 เมื่อไรควรเลือก
สินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์ 2568สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่มีทรัพย์สินใหญ่ เช่น ที่ดินหรืออาคาร แต่มีแผนธุรกิจที่ชัดเจนและต้องการเงินทุนหมุนในปี 2568 สินเชื่อประเภทนี้ถือว่าตอบโจทย์ โดยหลายธนาคารร่วมกับ บสย. ปล่อยกู้วงเงินสูงถึง 5–10 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 6–7% ต่อปี (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข)
นี่จึงเป็นโอกาสของ SME ไทย ที่จะใช้เครดิตธุรกิจและแผนงานที่แข็งแรง แทนการพึ่งหลักทรัพย์ค้ำเพียงอย่างเดียว
📝 สรุปสำคัญ
5 สาเหตุที่ทำให้ SME ขอสินเชื่อเงินด่วนไม่ผ่าน ได้แก่
เครดิตบูโรไม่ดี
เอกสารไม่ครบ
ภาระหนี้สูง
ไม่มีหลักประกัน
ธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมเสี่ยง
หากคุณเตรียมพร้อม ปรับเครดิตให้ดี จัดเอกสารให้ครบ ลดภาระหนี้ และมีแผนธุรกิจที่แข็งแรง โอกาสเข้าถึงสินเชื่อธุรกิจที่เหมาะสมก็อยู่ไม่ไกล
📌 Call to Action
ถ้าคุณกำลังวางแผนยื่นขอสินเชื่อ และไม่อยากเจอ “คำว่าไม่ผ่าน” อีกต่อไป
แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อธุรกิจ ที่สามารถช่วยคุณประเมินสถานการณ์และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับธุรกิจมากที่สุด
👉 ดูรายละเอียดบทความเพิ่มเติม
5 สาเหตุที่ทำให้เจ้าของกิจการขอสินเชื่อเงินด่วนไม่ผ่าน