รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: 5 สาเหตุที่ทำให้เจ้าของกิจการขอสินเชื่อเงินด่วนไม่ผ่าน  (อ่าน 57 ครั้ง)

easycashflows

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
    • ดูรายละเอียด



ลองนึกภาพเจ้าของกิจการรายเล็ก ที่เพิ่งได้โอกาสปิดดีลกับลูกค้ารายใหญ่ แต่ติดตรงที่ต้องสำรองเงินหมุนก่อนรับเงินสดจริง หลายคนเลือกตรงไปหา “สินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็ว” เพราะคิดว่าน่าจะตอบโจทย์ทันใจ แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นการถูกปฏิเสธ! คำถามคือ…เกิดจากอะไร?

ในฐานะที่ปรึกษาด้านสินเชื่อธุรกิจ ผมจะเล่าให้ฟังถึง 5 สาเหตุสำคัญที่ทำให้ SME ไทยขอสินเชื่อไม่ผ่าน พร้อมแนวทางแก้ไขแบบใช้ได้จริง เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึง สินเชื่อsme
, สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก และสินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณในปี 2568

1. ประวัติเครดิตบูโรไม่ดี

ลองคิดดูว่า ถ้าคุณเคยผิดนัดชำระหนี้ บัตรเครดิตค้าง หรือมีประวัติถูกฟ้องร้อง ธนาคารย่อมมองว่าคุณเป็นลูกหนี้ที่ “เสี่ยงสูง” การถูกปฏิเสธจึงแทบจะเป็นเรื่องแน่นอน

แนวทางแก้: ตรวจเครดิตบูโรล่วงหน้าทุกครั้งก่อนยื่นกู้ หากมีหนี้เสียควรรีบเคลียร์และสร้างพฤติกรรมใหม่ เช่น ชำระตรงเวลาต่อเนื่องอย่างน้อย 6–12 เดือน เพื่อฟื้นเครดิต ก่อนยื่นขอสินเชื่อธุรกิจใหม่

2. เอกสารทางการเงินไม่ครบหรือน่าเชื่อถือต่ำ

ธนาคารไม่ปล่อยกู้จาก “คำพูด” พวกเขาต้องการหลักฐานทางการเงิน เช่น งบการเงินย้อนหลัง รายการเดินบัญชี แผนธุรกิจที่เห็นกระแสเงินสดชัดเจน หากขาดหรือข้อมูลไม่สอดคล้องกัน ธนาคารจะมองว่าเสี่ยงต่อการผิดนัด

แนวทางแก้:

จัดเตรียมงบการเงินย้อนหลัง 1–2 ปี

แนบ Statement ธนาคาร 6 เดือนล่าสุด

จัดทำแผนธุรกิจพร้อมตัวเลขรายได้-ค่าใช้จ่าย

เสริมด้วยใบเสร็จหรือสัญญาลูกค้าเพื่อสร้างความมั่นใจ

3. ภาระหนี้สูงเกินไป

หลายธุรกิจมีสินเชื่อเดิมอยู่แล้ว ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต หรือกู้รถ กู้บ้าน พอรวมภาระหนี้ทั้งหมด กลายเป็นว่า DTI (Debt-to-Income) หรือ DSCR (Debt Service Coverage Ratio) สูงเกิน 40–50% ซึ่งธนาคารถือว่า “เกินกำลังจ่าย”

แนวทางแก้:
ก่อนยื่นกู้ใหม่ ควรรีไฟแนนซ์หนี้เดิม ลดดอกเบี้ย และพยายามจัดการหนี้ให้เหลือภาระไม่เกิน 30–40% ของรายได้รวม เพื่อแสดงศักยภาพการชำระที่ชัดเจน

4. ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือผู้ค้ำไม่แข็งแรง

แม้ปัจจุบันมี สินเชื่อธุรกิจSMEไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
 แต่ในหลายกรณี สถาบันการเงินยังมองหาหลักประกันเพื่อความมั่นใจ หากไม่มี ธนาคารอาจลังเล หรืออนุมัติวงเงินต่ำ

แนวทางแก้:

ใช้โครงการค้ำประกันของ บสย. ที่ในปี 2568 มีวงเงินค้ำกว่า 150,000 ล้านบาท

หาผู้ค้ำที่มีฐานะการเงินดี

หากมีที่ดิน อาคาร หรือเครื่องจักร ควรใช้เป็นหลักประกันบางส่วนเพื่อเพิ่มโอกาสอนุมัติ

5. ธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมที่เสี่ยงสูง

ปี 2568 หลายอุตสาหกรรมผันผวนหนัก เช่น นำเข้าเทคโนโลยีเก่า หรือธุรกิจที่พึ่งพา Demand ชั่วคราว ธนาคารจึงเข้มงวดเป็นพิเศษ

แนวทางแก้:

นำเสนอแผนธุรกิจที่มีตัวเลขจริงรองรับ

แนบสัญญาลูกค้า คำสั่งซื้อ หรือพันธมิตรธุรกิจที่มั่นคง

แสดงให้เห็นว่าธุรกิจแม้อยู่ในอุตสาหกรรมเสี่ยง แต่คุณมี “กลยุทธ์ลดความเสี่ยง” ที่ชัดเจน

🔍 เมื่อไรควรเลือก สินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์ 2568


สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่มีทรัพย์สินใหญ่ เช่น ที่ดินหรืออาคาร แต่มีแผนธุรกิจที่ชัดเจนและต้องการเงินทุนหมุนในปี 2568 สินเชื่อประเภทนี้ถือว่าตอบโจทย์ โดยหลายธนาคารร่วมกับ บสย. ปล่อยกู้วงเงินสูงถึง 5–10 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 6–7% ต่อปี (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข)

นี่จึงเป็นโอกาสของ SME ไทย ที่จะใช้เครดิตธุรกิจและแผนงานที่แข็งแรง แทนการพึ่งหลักทรัพย์ค้ำเพียงอย่างเดียว

📝 สรุปสำคัญ

5 สาเหตุที่ทำให้ SME ขอสินเชื่อเงินด่วนไม่ผ่าน ได้แก่

เครดิตบูโรไม่ดี

เอกสารไม่ครบ

ภาระหนี้สูง

ไม่มีหลักประกัน

ธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมเสี่ยง

หากคุณเตรียมพร้อม ปรับเครดิตให้ดี จัดเอกสารให้ครบ ลดภาระหนี้ และมีแผนธุรกิจที่แข็งแรง โอกาสเข้าถึงสินเชื่อธุรกิจที่เหมาะสมก็อยู่ไม่ไกล

📌 Call to Action

ถ้าคุณกำลังวางแผนยื่นขอสินเชื่อ และไม่อยากเจอ “คำว่าไม่ผ่าน” อีกต่อไป
แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อธุรกิจ ที่สามารถช่วยคุณประเมินสถานการณ์และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับธุรกิจมากที่สุด
👉 ดูรายละเอียดบทความเพิ่มเติม5 สาเหตุที่ทำให้เจ้าของกิจการขอสินเชื่อเงินด่วนไม่ผ่าน
บันทึกการเข้า