สมุนไพรพญายอชื่อสมุนไพร พญายอชื่อวิทยาศาสตร์ Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindauชื่อวงศ์ ACANTHACEAEชื่อพ้อง Clinacanthus burmanni  Neesชื่ออังกฤษ ไม่มีชื่อท้องถิ่นผักมันไก่  ผักลิ้นเขียด  พญาปล้องคำ  พญาข้อดำ พญายอ  โพะโซ่จาง  เสมหะพังพอนตัวเมีย
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์          ไม้พุ่มรอคอยเลื้อย ลำต้นและก็กิ่งก้านหมดจดวาว สูงได้ถึง 3 เมตร ใบลำพังออกเรียงตรงกันข้าม รูปขอบขนานหรือขอบขนานแกมใบหอก กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 7-9 เซ็นติเมตร โคนใบมน ปลายใบแหลม ก้านใบยาว 0.5 เซ็นต์ ดอกเป็นช่อ ออกเป็นกระจุกที่ปลายยอด กลีบดอกไม้สีส้มแดงเชื่อมชิดกันเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น 2 ปาก ยาว 3-4 ซม. ไม่ติดฝัก
ส่วนที่ใช้เป็นยาและสรรพคุณ-ส่วนใบ รักษาอาการเพราะแมลงกัดต่อยแล้วก็โรคเริม
สารสำคัญที่ออกฤทธิ์สารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ลดการอักเสบ สารกลุ่ม monoglycosyl diglycerides เช่น 1,2-O-dilinolenoyl-3-O-b-d-glucopyranosyl-sn-glycerol รวมทั้งสารกรุ๊ป glycoglycerolipids จากใบ  มีฤทธิ์ยั้งเชื้อไวรัสเริม
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์ลดการอักเสบ       เมื่อป้อนสารสกัดจากใบด้วยเอ็นบิวทานอลให้หนูแรท  หรือฉีดสารสกัดด้วยน้ำจากใบเข้าท้องของหนูแรท  จะลดการอักเสบของข้อเท้าหนูแรทที่ทำให้บวมด้วยสารคาราจีแนน (carrageenan) ได้   ตำรับยาที่มีพญายอปริมาณร้อยละ 5  ใน cold cream รวมทั้งสารสกัดด้วยเอทานอลจากใบ เมื่อเอามาทาเฉพาะที่ให้หนูแรท จะสามารถลดการอักเสบเรื้อรังได้  แต่เมื่อใช้สารสกัดด้วยนเอ็นบิวทานอลทาที่ผิวหนังจะไม่ได้เรื่อง
ฤทธิ์ลดอาการปวด                 เมื่อให้หนูเม้าส์กินสารสกัดด้วยเอ็นบิวทานอลจากใบ จะลดความเจ็บปวดของหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้ปวดด้วยกรดอะซีตำหนิค  ขึ้นรถสกัดความแรง 90 มก./กก. จะมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับเฟนนิวบิวทาโซนขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโล (5)  ส่วนสารสกัดด้วยคลอโรฟอร์ม (2)  สารสกัดด้วยน้ำ และก็สารสกัดด้วยเอทานอล 50% จากใบ (3) ไม่มีผลลดความเจ็บปวด
ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสเชื้อไวรัสเริม       พญายอสารสกัดด้วยเฮกเซน บิวทานอล แล้วก็เอทิลอะสิเตทจากใบ มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อไวรัสเชื้อเริม HSV-1  และเมื่อนำไปทำเป็นตำรับเจลโดยใช้สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้นจำนวนร้อยละ 4 และใช้ carbopol 940 เป็นสารก่อเจล  พบว่า มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัสก้าวหน้าและไม่เป็นพิษต่อเซลล์  ในระหว่างที่เมื่อใช้สารก่อเจล poloxamer 407 จะมีพิษต่อเซลล์
                 จากรายงานการรักษาคนเจ็บโรคเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์จำพวกเป็นซ้ำด้วยยาจากสารสกัด
พญายอ เปรียบเทียบกับยา acyclovir  และยาหลอก  โดยให้คนไข้ทายาวันละ 4 ครั้ง ตรงเวลา 6 วัน พบว่าไม่ได้ต่างอะไรในระยะเวลาการตกสะเก็ดของแผลผู้เจ็บป่วยที่ใช้ยาจากสารสกัดใบพญายอรวมทั้งยา acyclovir   โดยแผลจะเป็นสะเก็ดข้างใน 3 วัน และก็หายสนิทภายใน 7 วัน ซึ่งผิดแผกแตกต่างกับยาหลอกอย่างเป็นจริงเป็นจัง ยาที่สกัดจากใบพญายอไม่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ระคาย ในขณะ acyclovir ทำให้แสบ   นอกจากนี้มีการใช้ยาที่ทำจาก
พญายอ ในคนป่วยโรคเริม งูสวัด รวมทั้งแผลอักเสบในปาก พบว่าสามารถรักษาแผลแล้วก็ลดการอักเสบเจริญ   
เชื้อไวรัส Varicella zoster                 สารสกัดจากใบ
พญายอออกฤทธิ์ทำลายไวรัส Varicella zoster ที่เป็นสาเหตุโรคงูสวัดและอีสุกอีใสได้โดยตรงก่อนที่จะเชื้อไวรัสจะเข้าสู่เซลล์
จากรายงานการดูแลรักษาคนเจ็บโรคงูสวัดด้วยยาจากสารสกัดใบพญายอเปรียบเทียบกับยาหลอก  โดยให้ป้ายยาวันละ 5 ครั้ง เป็นเวลา 7-14 วัน จวบจนกระทั่งแผลจะหาย  พบว่าคนไข้ที่รักษาด้วยสารสกัดจากใบพญายอ แล้วมีแผลตกสะเก็ดข้างใน 3 วัน และก็หายด้านใน 7-10 วัน จะมีหลายชิ้นกว่ากลุ่มหวานใจษาด้วยยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับความเจ็บปวดลดน้อยลงเร็วกว่ากรุ๊ปยาหลอก และไม่เจอผลข้างเคียงใดๆ
อาการข้างเคียงความเป็นพิษทั่วๆไปและก็ต่อระบบขยายพันธุ์การทดสอบความเป็นพิษเมื่อป้อนสารสกัดด้วยเอ็นบิวทานอลจากใบให้หนูเม้าส์ พบว่าเป็นพิษน้อย แต่มีพิษปานกลางเมื่อฉีดเข้าท้อง  ส่วนสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1.3 กรัม/กก. (หรือเทียบเท่าใบแห้ง 5.44 กรัม/กิโลกรัม) เมื่อป้อนเข้าทางปากหรือฉีดเข้าท้องหนูเม้าส์ ไม่นำไปสู่อาการพิษอะไรก็ตาม
การเรียนพิษพญายอครึ่งเรื้อรัง พบว่าเมื่อป้อนหนูแรทด้วยสารสกัดเอ็นบิวทานอลจากใบขนาด 270 มิลลิกรัม/กิโลกรัม รวมทั้ง 540 มิลลิกรัม/กิโล ทุกวี่วัน นาน 6 สัปดาห์ พบว่าไม่เป็นผลต่อการเจริญเติบโต แต่ว่าน้ำหนักต่อมธัยมัเศร้าใจลง ตอนที่น้ำหนักตับมากขึ้น ไม่พบความผิดปกติต่ออวัยวะอื่น และไม่เจออาการไม่ปรารถนาอะไรก็แล้วแต่ หนูแรทที่กินสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1 กรัม/โล ทุกเมื่อเชื่อวันนาน 90 วัน พบว่าการกินอาหารของกลุ่มที่ได้รับสารสกัดรวมทั้งกลุ่มควบคุมไม่ต่างกัน แม้กระนั้นน้ำหนักของหนูเพศผู้ที่ได้สารสกัดขนาด 1.0 กรัม/กิโล ต่ำยิ่งกว่า
พญายอกลุ่มควบคุม  เกร็ดเลือดของหนูแรททั้งคู่เพศสูงขึ้นมากยิ่งกว่า แล้วก็ครีอาตินินต่ำยิ่งกว่ากรุ๊ปควบคุม  แม้กระนั้นไม่พบความผิดปกติด้านจุลพยาธิวิทยาของอวัยวะภายใน และพยาธิภาวะด้านนอก
http://www.disthai.com/