รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - waanbotan_

หน้า: [1] 2 3 ... 6
1
ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การเดินหน้าอย่างยั่งยืนไม่ได้หมายถึงแค่การสร้างผลกำไร แต่ยังรวมถึงการคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ จึงมีบทบาทสำคัญในการเป็นแหล่งเงินทุนที่ช่วย "ต่อลมหายใจ" ให้ธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง KTC ที่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลาย ทั้งเพื่อการ ต่อยอดธุรกิจ และเพื่อการ รักษ์สิ่งแวดล้อม วันนี้เราจะมาดูกันว่าสินเชื่อเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนธุรกิจของคุณได้อย่างไร

KTC กับบทบาทในการสนับสนุนธุรกิจและสิ่งแวดล้อม

ภาครัฐ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้การสนับสนุนภาคเอกชนในการดำเนินกิจการที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น โรงพยาบาล โรงแรม หรือภาคอุตสาหกรรม ให้มีเงินทุนสำหรับก่อสร้าง ปรับปรุงระบบ หรือจัดหาอุปกรณ์กำจัดของเสียและควบคุมมลพิษตามกฎหมาย สถาบันการเงินอย่าง KTC ก็ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนภาคเอกชนในการประกอบกิจการที่มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
KTC มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่โดดเด่นเพื่อทั้งสองวัตถุประสงค์หลัก:
1. สินเชื่อต่อยอดธุรกิจ: ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคง
KTC เสนอสินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโต ฟื้นตัว และบริหารจัดการสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ:
สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ: หากธุรกิจของคุณกำลังประสบปัญหาและต้องการเงินทุนเพื่อพลิกฟื้น สินเชื่อนี้มีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานถึง 10 ปี ช่วยให้คุณมีเวลาในการปรับตัวและวางแผนได้ดีขึ้น
สินเชื่อคู่ค้าพารวย: ช่วยให้ธุรกิจมีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบ ทำให้คุณมีของพร้อมขายได้ก่อน แล้วจึงค่อยชำระเงินทีหลัง ช่วยให้กระแสเงินสดในธุรกิจไหลลื่น
สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง: เพื่อช่วยให้ธุรกิจมีเงินสดหมุนเวียนเพียงพอต่อการดำเนินงานประจำวัน ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่เพียง 4% ต่อปี ทำให้คุณสามารถบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินได้อย่างแม่นยำ
2. สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม: ลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
KTC ตระหนักถึงความสำคัญของการทำธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม จึงได้พัฒนา สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม ขึ้นมาโดยเฉพาะ:
สินเชื่อเพื่อการบำบัดมลพิษ: เป็นสินเชื่อที่มอบให้กับธุรกิจที่ต้องการเงินทุนเพื่อลงทุนในระบบหรืออุปกรณ์ในการบำบัดมลพิษที่เกิดจากการดำเนินงานของตนเอง หรือสำหรับธุรกิจที่รับจัดสร้างระบบบำบัดมลพิษให้แก่ผู้อื่น สินเชื่อนี้มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษเพียง 2% และให้ระยะเวลาผ่อนชำระยาวนานถึง 7 ปี โดยที่ ไม่ต้องชำระเงินต้นในช่วงแรก ทำให้ธุรกิจมีสภาพคล่องในการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างเต็มที่
สินเชื่ออื่นๆ ที่ช่วย "ต่อลมหายใจ" ให้ธุรกิจ
นอกจากสินเชื่อที่กล่าวมาข้างต้น KTC ยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่ออื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจและชีวิตของผู้ประกอบการ:
สินเชื่อขยายธุรกิจ: เพื่อสนับสนุนการเติบโตของกิจการ โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 3 เท่าของมูลค่าหลักประกัน และผ่อนชำระได้นานถึง 7 ปี
สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง (เงินหมุนเวียน): ช่วยให้ธุรกิจมีเงินสดหมุนเวียนสำหรับค่าใช้จ่ายประจำวัน ด้วยวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท และอัตราดอกเบี้ยคงที่ในช่วง 2 ปีแรก
สินเชื่อระยะยาว: สำหรับการลงทุนที่ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก และต้องการระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานถึง 48 เดือน
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล: แม้จะไม่ใช่สินเชื่อเพื่อธุรกิจโดยตรง แต่ก็มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการในยามฉุกเฉิน เช่น ค่ารักษาพยาบาล เพราะสุขภาพของผู้ดำเนินธุรกิจที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ไปต่อได้

ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการเงิน ล้วนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการประกอบกิจการเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม โดยเฉพาะบทบาทในการช่วย "ต่อลมหายใจ" ให้ธุรกิจผ่านสินเชื่อประเภทต่างๆ  เช่น สินเชื่อชนิดหมุนเวียน สินเชื่อธุรกิจ od ไม่ว่าจะเป็นการต่อยอดธุรกิจ กู้เงินมาเปิดร้าน หรือการลงทุนเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ก็ล้วนเป็นไปเพื่อการบริการและสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนและสังคมโดยรวม



2
เมื่อคุณต้องโอนเงินไปต่างประเทศ ไม่เพียงแค่ต้องรู้จัก SWIFT Code โอนเงินต่างประเทศ กรุงไทยเท่านั้น แต่ “ค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างประเทศ  กรุงไทย” ก็เป็นอีกสิ่งที่ควรทำความเข้าใจ เพราะแต่ละธนาคาร แต่ละประเทศ และแม้แต่แต่ละสกุลเงินก็มีอัตราที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเมื่อโอนเงินไปยุโรปที่มักเสียค่าธรรมเนียมสูงกว่าเอเชีย
ค่าธรรมเนียมโอนเงินแบบ swift code  กรุงไทย  มีอะไรบ้าง?
ค่าธรรมเนียมของธนาคารผู้ส่ง: โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 300–500 บาทต่อรายการ


ค่าธรรมเนียมธนาคารตัวกลาง: หากไม่มีบัญชีตรงกันระหว่างธนาคารผู้โอนและผู้รับ เงินจะต้องผ่านธนาคารตัวกลางที่เก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม


ค่าธรรมเนียมธนาคารผู้รับ: บางธนาคารในต่างประเทศอาจหักค่าธรรมเนียมก่อนโอนเข้าบัญชีผู้รับ


ทำไมโอนเงินไปต่างประเทศ swift code   กรุงไทยไปยุโรปถึงแพง?
💶 สกุลเงินยูโรมีการควบคุมและตรวจสอบธุรกรรมสูง


🇪🇺 ธนาคารในยุโรปมักมีค่าธรรมเนียมการรับเงินจากต่างประเทศสูงกว่าธนาคารในเอเชีย


🔄 เรทการแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศมีต้นทุนมากกว่า


🧾 ความละเอียดในการตรวจสอบ AML/KYC มากกว่าในบางประเทศ


วิธีลดค่าธรรมเนียม
เลือกโอนผ่าน Mobile App แทนการไปธนาคาร


ตรวจสอบว่าใช้ธนาคารที่มีพันธมิตรกับธนาคารปลายทางหรือไม่


โอนเป็นจำนวนมากในครั้งเดียว แทนที่จะโอนหลายครั้ง



3
กองทุนรวมไม่ได้มีเพียงประเภทเดียว แต่มีหลายรูปแบบที่ออกแบบมาให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนที่ต่างกัน หากคุณกำลังเริ่มต้นและอยากรู้ว่าแบบไหนเหมาะกับคุณ มาดูภาพรวมของแต่ละประเภทกัน
1. กองทุนรวมตลาดเงิน
ลงทุนในเงินฝากหรือพันธบัตรระยะสั้น มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาเงินต้นให้ปลอดภัยสูงสุด
2. กองทุนรวมตราสารหนี้
ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือบริษัทเอกชน มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง ให้ผลตอบแทนสูงกว่าฝากเงินเล็กน้อย
3. กองทุนรวมผสม
ลงทุนทั้งหุ้นและตราสารหนี้ กระจายความเสี่ยงได้ดี เหมาะกับคนที่ต้องการลงทุนแบบสมดุล ไม่เน้นกำไรสูงแต่ก็ไม่ต้องการความผันผวนมาก
4. กองทุนรวมตราสารทุน (หุ้น)
ลงทุนในหุ้นต่าง ๆ มีความเสี่ยงสูง แต่มีโอกาสให้ผลตอบแทนมาก เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้และลงทุนในระยะยาว
5. กองทุนรวมต่างประเทศ
ลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก ช่วยกระจายความเสี่ยงจากตลาดไทย แต่มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
6. กองทุนรวมทรัพย์สินทางเลือก
ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ มีความเสี่ยงสูง เหมาะกับการลงทุนระยะยาวที่ต้องการผลตอบแทนเฉพาะทาง
7. กองทุน SSF และ RMF
SSF: ส่งเสริมการออมระยะยาว 10 ปี ได้สิทธิลดหย่อนภาษี


RMF: ลงทุนเพื่อเกษียณ ขายได้เมื่ออายุครบ 55 ปี และลงทุนมาอย่างน้อย 5 ปี ได้สิทธิลดหย่อนภาษีด้วย



จะเลือกกองทุนแบบไหนดี?
ให้เริ่มจากการประเมินตัวเองว่า...
รับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน?


ต้องการผลตอบแทนแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือพร้อมรับความผันผวนเพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้น?


มีเป้าหมายระยะสั้นหรือระยะยาว?


การเข้าใจการซื้อกองทุน ลงทุนกองทุนรวมแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือซื้อหุ้น DR
จะช่วยให้คุณลงทุนได้อย่างมีเป้าหมาย และไม่ตัดสินใจพลาดเพราะความเข้าใจผิด



4
ในโลกธุรกิจ SME การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สินเชื่อหลักๆ ที่ผู้ประกอบการควรรู้จักคือ สินเชื่อเงินก้อน (Loan) และ สินเชื่อ OD (Overdraft) หรือที่เรียกว่าเงินเบิกเกินบัญชี การทำความเข้าใจความแตกต่างของสินเชื่อทั้งสองประเภทนี้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเครื่องมือทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

Overdraft (OD) คืออะไร?
Overdraft (OD) คือ เงินหมุน หรือ เงินเบิกเกินบัญชี ที่ธนาคารให้กู้ยืม โดยธนาคารจะตั้งวงเงินกู้ไว้ใน บัญชีกระแสรายวัน (Current Account) ของคุณ คุณสามารถเบิกเงินจากวงเงินนี้ไปใช้ได้ตามความจำเป็น จะเบิกหมดทั้งก้อนหรือทยอยเบิกก็ได้ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้เงินนั้น ๆ
จุดเด่นสำคัญของสินเชื่อ OD คือ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเฉพาะยอดเงินที่คุณเบิกออกมาใช้จริงเท่านั้น เงินส่วนที่เหลือในวงเงินที่ยังไม่ได้ใช้จะยังไม่ถูกคิดดอกเบี้ย และเมื่อคุณนำเงินมาคืนในบัญชี ดอกเบี้ยก็จะหยุดเดินทันที ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการใช้เงินหมุนเวียนระยะสั้นๆ
เงินกู้ทั่วไป (Loan) คืออะไร?
เงินกู้ทั่วไป (Loan) เป็นสินเชื่อที่ให้ในลักษณะของ เงินก้อน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเงินกู้ ระยะยาว และมักจะต้องมี หลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น ที่ดิน บ้าน หรือบัญชีเงินฝากประจำ หรืออาจมีบุคคล/นิติบุคคลค้ำประกัน การคิดดอกเบี้ยจะเป็นแบบ ลดต้นลดดอก โดยผู้กู้จะต้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวดๆ ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจนครบตามระยะเวลาที่ตกลงกัน

บทความที่ 1: OD vs. เงินกู้ทั่วไป: เลือกสินเชื่อแบบไหนที่ใช่สำหรับธุรกิจ SME ของคุณ?
ในโลกธุรกิจ SME การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สินเชื่อหลักๆ ที่ผู้ประกอบการควรรู้จักคือ สินเชื่อเงินก้อน (Loan) และ สินเชื่อ OD (Overdraft) หรือที่เรียกว่าเงินเบิกเกินบัญชี การทำความเข้าใจความแตกต่างของสินเชื่อทั้งสองประเภทนี้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเครื่องมือทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
Overdraft (OD) คืออะไร?
Overdraft (OD) คือ เงินหมุน หรือ เงินเบิกเกินบัญชี ที่ธนาคารให้กู้ยืม โดยธนาคารจะตั้งวงเงินกู้ไว้ใน บัญชีกระแสรายวัน (Current Account) ของคุณ คุณสามารถเบิกเงินจากวงเงินนี้ไปใช้ได้ตามความจำเป็น จะเบิกหมดทั้งก้อนหรือทยอยเบิกก็ได้ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้เงินนั้น ๆ
จุดเด่นสำคัญของสินเชื่อ OD คือ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเฉพาะยอดเงินที่คุณเบิกออกมาใช้จริงเท่านั้น เงินส่วนที่เหลือในวงเงินที่ยังไม่ได้ใช้จะยังไม่ถูกคิดดอกเบี้ย และเมื่อคุณนำเงินมาคืนในบัญชี ดอกเบี้ยก็จะหยุดเดินทันที ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการใช้เงินหมุนเวียนระยะสั้นๆ
เงินกู้ทั่วไป (Loan) คืออะไร?
เงินกู้ทั่วไป (Loan) เป็นสินเชื่อที่ให้ในลักษณะของ เงินก้อน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเงินกู้ ระยะยาว และมักจะต้องมี หลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น ที่ดิน บ้าน หรือบัญชีเงินฝากประจำ หรืออาจมีบุคคล/นิติบุคคลค้ำประกัน การคิดดอกเบี้ยจะเป็นแบบ ลดต้นลดดอก โดยผู้กู้จะต้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวดๆ ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจนครบตามระยะเวลาที่ตกลงกัน

เลือกแบบไหนดี?
สินเชื่อ OD เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการเงินทุน หรือต้องการเงินเร่งด่วนเพื่อเสริมสภาพคล่องในระยะเวลาสั้นๆ เช่น การซื้อวัตถุดิบเร่งด่วน, การจ่ายเงินเดือนพนักงาน, หรือรองรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝัน

สินเชื่อเงินก้อนทั่วไป เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเงินลงทุนจำนวนมากในระยะยาว โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่คงที่ และสามารถวางแผนการชำระเงินเป็นงวดๆ ได้ เช่น กู้เงินเปิดร้าน กู้เงินไปลงทุนธุรกิจใหม่, ซื้อเครื่องจักร, หรือขยายกิจการ

การเลือกใช้สินเชื่อหมุนเวียนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ ความต้องการและลักษณะของธุรกิจ ของคุณเป็นหลัก การเข้าใจความแตกต่างของสินเชื่อทั้งสองประเภทนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ



5
หนี้นอกระบบเป็นเหมือนวงจรอุบาทว์ที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยติดกับดักทางการเงินแบบไม่รู้ตัว แม้จะเริ่มจากความจำเป็น แต่ท้ายที่สุดกลับต้องเผชิญกับภาระดอกเบี้ยที่สูงเกินรับไหว ถ้าคุณกำลังหาทางออก บทความนี้จะแนะนำแหล่งเงินกู้ที่ปลอดภัย ซึ่งสามารถนำมาใช้ปิดหนี้นอกระบบได้อย่างมั่นใจ

หนี้นอกระบบส่งผลอย่างไร?
เจ้าหนี้นอกระบบส่วนใหญ่มักคิดดอกเบี้ยสูงและเรียกเก็บเงินในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม เช่น ให้คืนเงินรายวัน คิดดอกเบี้ยรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นภาระหนักสำหรับผู้กู้ในระยะยาว การหันมาใช้บริการจากแหล่งเงินกู้ที่เชื่อถือได้ จึงเป็นการ “ปลดล็อกเป็นหนี้เสีย” จากปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีปลดหนี้นอกระบบ แหล่งเงินกู้ที่ควรพิจารณา
ธนาคารและไฟแนนซ์ที่ได้รับอนุญาต
 ให้บริการเงินกู้ที่อยู่ภายใต้ข้อบังคับทางกฎหมาย ดอกเบี้ยไม่เกินเพดาน มีเงื่อนไขชัดเจน และไม่กดดัน

สหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยน
 ทางเลือกที่มีความยืดหยุ่นในการชำระหนี้ และดอกเบี้ยต่ำกว่าสถาบันทั่วไป

กลุ่มการเงินชุมชนหรือองค์กรเพื่อสังคม
 องค์กรเหล่านี้ให้ความช่วยเหลือในเชิงมนุษยธรรมมากกว่ากำไร ช่วยให้ผู้กู้กลับมาเข้าระบบได้อีกครั้ง

แอปเงินกู้ที่จดทะเบียนและมีรีวิวจริง
 เทคโนโลยีการเงินในปัจจุบันเปิดทางให้กู้เงินผ่านแอปได้สะดวก แค่ต้องเลือกแพลตฟอร์มที่ถูกกฎหมาย และตรวจสอบประวัติให้ดี

เคล็ดลับในการกู้สินเชื่อปิดหนี้นอกระบบอย่างปลอดภัย
  • เปรียบเทียบหลายแหล่งก่อนตัดสินใจ
    หลีกเลี่ยงการวางบัตรประชาชนหรือบัญชีธนาคารกับผู้ให้กู้ที่ไม่โปร่งใส
    ถ้ามีข้อสงสัยควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินก่อนเซ็นสัญญา


หนี้นอกระบบอาจเริ่มต้นง่าย แต่จบลงด้วยความทุกข์ระยะยาว เป็นหนี้นอกระบบทําไงดี เลือกแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมาย ปลอดภัย และมีข้อมูลชัดเจน คือกุญแจสำคัญที่จะพาคุณกลับสู่ชีวิตการเงินที่มั่นคงอีกครั้ง



6
ในยุคที่การลงทุนสามารถทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว หุ้นต่างประเทศก็กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนชาวไทย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการโอกาสในการเติบโตของเงินลงทุนจากตลาดทุนระดับโลก แต่ก่อนจะเริ่มลงทุนในหุ้นต่างประเทศ มีเรื่องสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจเพื่อบริหารความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งแรกที่นักลงทุนกองทุนต้องรู้คือ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การลงทุนในหุ้นต่างประเทศต้องใช้เงินสกุลอื่น ซึ่งอาจส่งผลให้มูลค่าการลงทุนผันผวนตามอัตราแลกเปลี่ยน นักลงทุนจึงควรศึกษาวิธีบริหารความเสี่ยงจากค่าเงิน และเข้าใจว่าผลตอบแทนจากหุ้นอาจไม่ใช่แค่ราคาหุ้นเท่านั้น แต่รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินด้วย

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญคือค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งการโอนเงิน ค่าธรรมเนียมซื้อขาย และภาษีที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละประเทศ นักลงทุนควรคำนวณค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นต้นทุนในการตัดสินใจลงทุน

นอกจากนี้ ยังต้องรู้ช่วงเวลาทำการของตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งมักไม่ตรงกับเวลาทำการในประเทศไทย รวมถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่อาจส่งผลต่อการวางแผนซื้อขาย
สิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือการทำความเข้าใจกฎระเบียบของแต่ละประเทศที่เข้าไปลงทุน เพราะกฎเกณฑ์และข้อจำกัดของแต่ละตลาดมีความแตกต่างกัน

แม้การลงทุนหุ้นต่างประเทศจะมีความเสี่ยง แต่ก็เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงบริษัทชั้นนำของโลกได้ หากเตรียมตัวอย่างรอบคอบ ศึกษาให้เข้าใจ และเลือกวิธีลงทุนที่เหมาะสม เช่นdca คืออะไร กองทุน ssf เงื่อนไข ก็สามารถสร้างโอกาสเติบโตทางการเงินจากตลาดหุ้นต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ



7
การเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ก็อาจมาพร้อมความกังวลว่าจะลืมของสำคัญหรือเตรียมตัวไม่พร้อม ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! บทความนี้ได้รวบรวม เช็กลิสต์สิ่งของจำเป็น ที่คุณต้องมีติดกระเป๋า เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสบายใจ ไม่ว่าจะไปประเทศไหนก็หายห่วง

สิ่งที่ต้องมีติดกระเป๋าเดินทางเมื่อไปต่างประเทศ
เอกสารสำคัญห้ามขาด

พาสปอร์ต: ตรวจสอบวันหมดอายุให้ดีว่าเหลือมากกว่า 6 เดือนก่อนวันเดินทางเสมอ
ตั๋วเครื่องบิน: เตรียมทั้งแบบ hard copy และ soft copy ในมือถือ
วัคซีนพาสปอร์ต (ถ้าจำเป็น): สำหรับบางประเทศที่ยังคงต้องใช้เอกสารนี้เพื่อยืนยันการฉีดวัคซีนก่อนขึ้นเครื่องบิน
เอกสารจองที่พัก: เตรียมไว้ให้พร้อม เพื่อความสะดวกในการเช็กอิน

เสื้อผ้าและของใช้จำเป็น

เสื้อผ้า: ศึกษาฤดูกาลของประเทศปลายทางที่คุณจะไป เพื่อจัดเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสม ไม่ว่าจะหนาวจัด ร้อนจัด หรือฝนตก
ของใช้ส่วนตัว: แชมพู ยาสีฟัน ครีมบำรุงผิว พกไปเพียงเล็กน้อยสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินหรือระหว่างเดินทาง ส่วนของใช้ที่เหลือสามารถใช้บริการของโรงแรมได้เลย เพราะส่วนใหญ่โรงแรมมักมีเตรียมไว้ให้

รองเท้าคู่โปรดสำหรับทุกโอกาส
ไม่ว่าจะเป็นทริปเที่ยวสบาย ๆ หรือทริปทำงาน ก็ควรมี รองเท้าลำลอง ที่ใส่สบายสักคู่ติดกระเป๋าไว้ เพื่อให้คุณได้เดินเล่น พักผ่อน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัว

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และหัวแปลง
อะแดปเตอร์/หัวแปรง (Universal Adapter): สิ่งนี้สำคัญมาก! ตรวจสอบประเภทปลั๊กไฟของประเทศปลายทางที่คุณจะไป (เช่น Type A, B, C, G, I ฯลฯ) เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่กล้อง โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างไม่มีสะดุด

เตรียมเงินสดและบัตรให้พร้อม

เงินสดสกุลท้องถิ่น: พกติดกระเป๋าไปบ้างเล็กน้อย สำหรับการใช้จ่ายเร่งด่วนที่ไม่สามารถใช้บัตรได้ เช่น ค่ารถสาธารณะเล็กน้อย หรือร้านค้าบางแห่ง
บัตรเครดิต/บัตรเดบิต: เพื่อความสะดวกสบายในการใช้จ่ายส่วนใหญ่ และปลอดภัยกว่าการพกเงินสดจำนวนมาก

สิ่งสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมก่อนบินลัดฟ้า
เช็กสภาพอากาศ: ไปต่างประเทศ กรุงไทย แนะนำให้เช็กพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับลม ฝน หรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน
จองที่พักล่วงหน้า: โดยเฉพาะช่วงไฮซีซันของประเทศนั้น ๆ การจองที่พักล่วงหน้าจะช่วยให้คุณมั่นใจว่ามีที่พักแน่นอน และได้ที่พักที่ตรงใจ ไม่ต้องไปหาเอาดาบหน้า
ซื้อประกันการเดินทาง: นี่คือสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม! ประกันการเดินทาง จะช่วยคุ้มครองคุณตลอดทริป ไม่ว่าจะเป็นกรณีสัมภาระสูญหาย เจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุในต่างประเทศ หรือแม้แต่กรณีร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต ประกันจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายมหาศาล ทำให้คุณอุ่นใจตลอดการเดินทาง

เพียงเท่านี้ เที่ยวต่างประเทศต้องเตรียมอะไรบ้างของคุณก็จะราบรื่นและเต็มไปด้วยความทรงจำดี ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น หรือดูข้อมูลสิ่งที่ต้องเตรียมไปต่างประเทศ ได้ที่ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1647



8
การมีคอนโดเป็นของตัวเองคือความฝันของคนทำงานยุคใหม่ โดยเฉพาะในเมืองที่การเดินทางสะดวกและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ แต่หลายคนยังลังเล เพราะกังวลว่ารายได้ต่อเดือนอาจไม่พอผ่อน ถ้าคุณมีงบ “ผ่อนคอนโดเดือนละ 5,000 บาท” คำถามคือ ควรซื้อคอนโดราคาเท่าไหร่ถึงจะผ่อนไหว?

คำนวณง่าย ๆ ด้วยสูตร ‘ล้านละ 7,000’
โดยทั่วไป เราสามารถประเมินค่างวดผ่อนคอนโดได้แบบคร่าว ๆ ว่า:
คอนโดราคา 1 ล้านบาท = ผ่อนประมาณเดือนละ 7,000 บาท
ดังนั้น หากคุณต้องการผ่อนเดือนละ 5,000 บาท ก็สามารถใช้สูตรนี้คำนวณย้อนกลับได้ดังนี้:
(1,000,000 x 5,000) ÷ 7,000 = 714,285 บาท
ซึ่งแปลว่า หากต้องการผ่อนคอนโดเดือนละ 5000 บาท ควรเลือกคอนโดที่มีราคาไม่เกินประมาณ 700,000 บาท หรือใครอยากผ่อนคอนโดเดือนละ 3000 บาทก็คำนวณได้เลย

ต้องเตรียมอะไรอีกบ้าง?
อย่าลืมว่าแม้ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้ แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุม 100% ของราคาคอนโด ธนาคารมักให้กู้ประมาณ 80% – 90% เท่านั้น ดังนั้นคุณควรมีเงินเก็บไว้สำหรับ:

เงินดาวน์
ค่าจองและค่าทำสัญญา
ค่าจดจำนอง
ค่าโอนกรรมสิทธิ์
ค่าตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์

หากเตรียมตัวดีและวางแผนการเงินให้รอบคอบ การมีคอนโดสักห้องก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมสำหรับคนที่มีงบผ่อนคอนโด 5,000 บาทต่อเดือน และทำให้บ้านปลอดภาระ คืออะไร



9
สำหรับผู้ที่อยากออมเงินแบบสบายใจ ไม่ต้องเสี่ยงกับการลงทุนในภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน การเลือก “เงินฝากประจำปลอดภาษี” อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่างยิ่ง เพราะวิธีเปิดบัญชีทางออนไลน์นอกจากจะช่วยสร้างวินัยในการออมเงินแล้ว ยังให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป และไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยอีกด้วย

เปิดบัญชีออนไลน์ แบบเงินฝากประจำปลอดภาษีมีลักษณะคล้ายการผ่อนเงินให้กับตัวเอง ผู้ฝากจะต้องเปิดบัญชีโดยกำหนดเงินฝากรายเดือนเท่ากันตลอดอายุสัญญา เช่น ฝากเดือนละ 1,000 บาท ทุกเดือนจนครบ 24 เดือน ซึ่งเมื่อครบกำหนดจะได้รับเงินต้นรวมกับดอกเบี้ยเต็มจำนวน ถือเป็นบัญชีเงินฝากที่ได้ดอกเบี้ยสูงโดยไม่ต้องถูกหักภาษี

ความพิเศษของบัญชีเงินฝากประเภทนี้คือความชัดเจนและปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด อีกทั้งยังสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ง่าย เช่น ใช้เป็นเงินก้อนสำหรับท่องเที่ยว การศึกษา หรือลงทุนต่อในอนาคต

หลายธนาคารในประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำปลอดภาษีที่น่าสนใจ อาทิ บัญชีจากธนาคารกรุงไทยที่ให้อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาฝาก หรือบัญชีจากธนาคารยูโอบีที่แถมประกันอุบัติเหตุให้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีบัญชีจากธนาคารไทยเครดิต ไอซีบีซี และออมสินที่เน้นเงื่อนไขไม่ยุ่งยาก เหมาะกับผู้เริ่มต้นออมเงินทุกคน

แม้บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงอัตราดอกเบี้ยจะไม่ได้สูงมากเท่าการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวม แต่สำหรับคนที่ต้องการความมั่นคงและรับเงินก้อนแบบไม่ต้องเสี่ยง เงินฝากประจำปลอดภาษียังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน



10
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจรายย่อยหรือกำลังวางแผนเปิดร้านใหม่ การตั้งชื่อร้านคือก้าวแรกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะชื่อร้านเปรียบเสมือนใบหน้าของแบรนด์ ยิ่งชัดเจน ยิ่งน่าจดจำ โอกาสขายดีก็ยิ่งเพิ่มขึ้น มาดู 7 เคล็ดลับในการตั้งชื่อร้านให้ปัง พร้อมดึงดูดลูกค้าได้ทันที

1. ตั้งชื่อร้านมงคลให้ตรงกับประเภทธุรกิจ
 ชื่อร้านควรบ่งบอกประเภทสินค้าและบริการได้ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้ารู้ทันทีว่าร้านของคุณขายอะไร
2. เลือกความหมายดี มีพลังบวก
 ชื่อที่มีความหมายดีจะช่วยเสริมความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ เช่น ชื่อที่สื่อถึงความมั่งคั่ง ความสำเร็จ หรือความเจริญ
3. หลีกเลี่ยงชื่อที่ยาวเกินไป
 ชื่อควรสั้น กระชับ และง่ายต่อการจำ ยิ่งเรียกง่าย ยิ่งติดหู โอกาสที่ลูกค้าจะพูดถึงหรือค้นหาก็ยิ่งสูง
4. ใช้ตัวเลขมงคลเสริมพลัง
 บางร้านนิยมใส่เลขมงคล เช่น 28, 87 หรือ 62 ซึ่งมีความหมายดีในทางโหราศาสตร์ เช่น การมีโชค เงินก้อนใหญ่ หรือวาสนาดี
5. อย่าใช้คำย่อ
 คำย่ออาจทำให้สับสนกับร้านอื่น และให้ความรู้สึกถึงการย่อตัว ไม่เหมาะกับธุรกิจที่หวังเติบโตในระยะยาว
6. สะกดง่าย อ่านง่าย
ตั้งชื่อร้านค้าให้รวย หลีกเลี่ยงการใช้คำแปลกหรือคำที่เขียนยาก เพราะจะเกิดปัญหาทั้งในการค้นหา การจดทะเบียน หรือการพิมพ์ในเอกสารสำคัญ
7. พิจารณาหลักโหราศาสตร์เพิ่มเติม
 เจ้าของร้านหลายรายนิยมพิจารณาวันเดือนปีเกิด หรือตัวอักษรที่เป็นมงคลตามดวงชะตาเพื่อใช้ในการตั้งชื่อร้าน เสริมความมั่นใจและแรงสนับสนุนด้านจิตใจในการทำธุรกิจ

ชื่อบริษัทมงคล ชื่อร้านที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกค้าจดจำ ยังช่วยเสริมความเชื่อมั่นของ
เจ้าของร้านเองอีกด้วย หากคุณต้องการเริ่มต้นธุรกิจให้แข็งแรง อย่าลืมเริ่มที่ชื่อที่ใช่ และหากต้องการแหล่งเงินทุนเสริมสภาพคล่อง ยังมีสินเชื่อสำหรับแม่ค้าจากสถาบันการเงินที่พร้อมสนับสนุนคุณทุกก้าวของการเติบโต



11
กู้เงินนอกระบบอาจเริ่มจากความจำเป็นชั่วคราว แต่กลับกลายเป็นภาระระยะยาวที่กัดกินทั้งการเงินและจิตใจ หากคุณอยู่ในสถานการณ์นี้ การเจรจากับเจ้าหนี้อาจเป็นทางออกที่ดีอย่างคาดไม่ถึง เพราะไม่ใช่ทุกเจ้าหนี้ที่ใจแข็งเกินพูดคุย ขอเพียงคุณมีแผน มีท่าที และมีความจริงใจ บางครั้งเจ้าหนี้เองก็อยากได้เงินคืนโดยไม่ต้องตามทวงให้เหนื่อยเช่นกัน

1. เริ่มจากรู้จักสถานการณ์ของตัวเองให้ดี
คุณควรรู้ว่าคุณมีหนี้อยู่เท่าไร ดอกเบี้ยเป็นอย่างไร และคุณสามารถจ่ายไหวเดือนละเท่าไร การเข้าใจความสามารถของตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาที่ดี
2. เตรียมข้อมูลให้พร้อม
รวมรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบแจ้งหนี้ รายการรายได้รายจ่าย สลิปเงินเดือน หรือหลักฐานการชำระหนี้ที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าหนี้เชื่อว่าคุณตั้งใจแก้ปัญหา ไม่ใช่แค่ “ขอไปงั้น ๆ”
3. สื่อสารด้วยความสุภาพและตรงไปตรงมา
การพูดด้วยความเคารพและเข้าใจอีกฝ่ายจะช่วยเปิดใจให้การเจรจาเป็นไปในเชิงบวก หลีกเลี่ยงการโต้เถียงหรือกล่าวโทษเจ้าหนี้ เพราะสิ่งเหล่านั้นจะปิดโอกาสการต่อรองทันที
4. เสนอทางเลือกที่เจ้าหนี้พอรับได้
อาจเป็นการขอลดดอกเบี้ย ขอลดเงินต้นบางส่วน หรือขอผ่อนจ่ายใหม่ให้เหมาะกับความสามารถของคุณ ทางเลือกที่เหมาะสมจะทำให้เจ้าหนี้มีแนวโน้มยอมรับมากขึ้น
5. ทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร
เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ ควรมีการทำหนังสือสัญญาชัดเจน เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในภายหลัง

การเจรจาเพื่อลดหนี้นอกระบบอาจดูยาก แต่ถ้าคุณเตรียมตัวดีและตั้งใจจริง โอกาสสำเร็จมีอยู่ไม่น้อย หนี้ก้อนใหญ่ที่คุณคิดว่าไม่มีทางหลุดพ้น อาจถูกแบ่งเบาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แค่เริ่มลงมือ! แต่ถ้ากำลังมองหาวิธีขอกู้เงินสินเชื่อนอกระบบ สามารถติดต่อกับธนาคารปรึกษาขอสินเชื่อเงินกู้นอกระบบได้เลย



12
อยากใช้ พร้อมเพย์ เพื่อให้การโอนเงินเป็นเรื่องง่าย แต่ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร? พร้อมเพย์คืออะไร มาดูวิธีสมัครง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้ภายในไม่กี่นาที

✅ ขั้นตอนที่ 1: เตรียมเอกสารให้พร้อม
ไปที่ธนาคารหรือใช้แอป Mobile Banking โดยเตรียม:
โทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งแอปธนาคาร
สมุดบัญชีธนาคาร
บัตรประชาชน (ใช้ยืนยันตัวตน)

✅ ขั้นตอนที่ 2: สมัครผ่านแอป Mobile Banking
สามารถสมัครด้วยตนเองผ่านแอปได้ทันที กรอกข้อมูลไม่กี่ช่อง ใช้เวลาไม่นาน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเสียเวลา และยังเลือกได้ว่าจะผูกเบอร์โทรศัพท์ไหน (ในกรณีที่มีหลายเบอร์)
หากในภายหลังต้องการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับพร้อมเพย์ ก็สามารถทำผ่านแอปได้เองเช่นกัน

✅ ขั้นตอนที่ 3: ทำความเข้าใจค่าธรรมเนียม
แม้ว่าพร้อมเพย์จะช่วยลดค่าธรรมเนียมได้มาก แต่ก็ยังมีค่าธรรมเนียมในบางกรณี เช่น:
ยอดโอน 5,000–30,000 บาท: ค่าธรรมเนียม 2 บาท
ยอดโอน 30,000–100,000 บาท: ค่าธรรมเนียม 5 บาท

แต่เมื่อเทียบกับค่าธรรมเนียมของการโอนเงินผ่านบัญชีแบบเดิมที่รวมอยู่ในค่ารายปีของบัตร ATM แล้ว พร้อมเพย์ก็ยังถือว่าคุ้มกว่าในระยะยาว พร้อมเพย์ถถือเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่น่าสนใจไม่แพ้กับการเติมเงินค่ามือถือ หรือจ่ายบิลผ่านแอปพลิเคชันธนาคารเลย



13
ถ้าคุณกำลังมองหาประกันชีวิตที่ให้มากกว่าแค่ความคุ้มครอง Unit Link อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเป็นประกันชีวิตที่ผสมผสานกับการลงทุนในกองทุนรวม ช่วยให้คุณสามารถบริหารความคุ้มครองไปพร้อมกับโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนได้ในคราวเดียว

Unit Link คืออะไร?
Unit Link หรือประกันชีวิตควบการลงทุน คือประกันที่แบ่งเบี้ยประกันออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งใช้สำหรับความคุ้มครองชีวิต อีกส่วนหนึ่งจะถูกนำไปลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งคุณสามารถเลือกกองทุนและปรับพอร์ตการลงทุนได้ตามต้องการ หากกองทุนที่คุณเลือกให้ผลตอบแทนดี มูลค่าในกรมธรรม์ก็จะเติบโตไปด้วย แต่ในทางกลับกัน หากตลาดผันผวนก็อาจทำให้คุณขาดทุนได้เช่นกัน

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า Unit Link เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ และพร้อมติดตามภาวะตลาดอย่างสม่ำเสมอ

ประเภทของ Unit Link มีอะไรบ้าง

Unit Link มีสองรูปแบบหลักที่คุณสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของการเงินและเป้าหมายชีวิตของคุณ

แบบแรกคือ การจ่ายเบี้ยครั้งเดียว เหมาะกับคนที่ต้องการนำเงินก้อนมาลงทุนพร้อมกับถือประกันชีวิตในเวลาเดียวกัน โดยรูปแบบนี้จะให้ความคุ้มครองชีวิตไม่สูงนัก เพราะเน้นที่ผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่า

แบบที่สองคือ การจ่ายเบี้ยเป็นงวด เช่น รายเดือน รายปี ฯลฯ ซึ่งจะเน้นความคุ้มครองชีวิตมากกว่า และสามารถเพิ่มหรือลดทุนประกันชีวิตได้ตามต้องการ เหมาะกับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินระยะยาวอย่างยืดหยุ่น
ข้อแตกต่างจากประกันชีวิตแบบเดิม
Unit Link แตกต่างจากประกันชีวิตแบบดั้งเดิมในหลายด้าน เช่น
ผลตอบแทนไม่การันตี เพราะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุน


ผู้เอาประกันมีสิทธิ์เลือกและจัดพอร์ตการลงทุนเอง


มีความยืดหยุ่นสูง สามารถถอนเงินบางส่วนหรือหยุดจ่ายเบี้ยชั่วคราวได้


แสดงค่าใช้จ่ายในกรมธรรม์ชัดเจน ทั้งค่าความคุ้มครอง ค่าบริหารจัดการ ฯลฯ


การลดหย่อนภาษีทำได้เฉพาะในส่วนที่เป็นเบี้ยประกันชีวิต ไม่รวมส่วนที่นำไปลงทุน


Unit linked เหมาะกับใคร?
หากคุณเป็นคนที่สนใจการวางแผนการเงิน มีความรู้หรือพร้อมเรียนรู้เรื่องการลงทุน และยอมรับความเสี่ยงได้ Unit Link คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสร้างผลตอบแทนระยะยาว พร้อมกับความคุ้มครองชีวิตที่ปรับเปลี่ยนได้ตามจังหวะของชีวิต
แต่ถ้าคุณไม่ถนัดเรื่องการลงทุน ต้องการความแน่นอน หรือไม่ต้องการติดตามภาวะตลาด การเลือกทำประกันแบบอื่น เช่น ประกันชีวิตชนิดออมทรัพย์ ประกันสำหรับผู้สูงอายุ ประกันบำนาญ หรือประกันตลอดชีพ อาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสมกว่า



14
หลายคนอาจมองว่าการฝากเงินในธนาคารให้ผลตอบแทนน้อยกว่าการลงทุน แต่รู้หรือไม่ว่า “บัญชีเงินฝากปลอดภาษี” คืออีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินอย่างมีระบบและได้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป ที่สำคัญคือผลตอบแทนทั้งหมดไม่ถูกหักภาษี

บัญชีประเภทนี้มีหลักการง่าย ๆ คือ ผู้ฝากจะต้องฝากเงินเป็นจำนวนที่เท่ากันในแต่ละเดือน เช่น เดือนละ 1,000 – 25,000 บาท ตามระยะเวลาที่ตกลงไว้กับธนาคาร เช่น 12 เดือน 24 เดือน 36 เดือน หรือ 48 เดือน เมื่อครบกำหนดระยะเวลา ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยเต็มจำนวน โดยไม่มีการหักภาษีใด ๆ ทั้งสิ้น

เงื่อนไขสำคัญของบัญชีประเภทนี้มีหลายข้อที่ต้องทำความเข้าใจ เช่น
หนึ่งคนสามารถเปิดได้เพียง 1 บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงเท่านั้น


- ต้องฝากเงินเดือนละครั้งเป็นจำนวนเงินเท่ากันตลอดระยะเวลา
- หากขาดฝากเกิน 2 ครั้งจะหมดสิทธิ์รับดอกเบี้ย
- ไม่สามารถถอนเงินก่อนครบกำหนดได้ หากจำเป็นต้องถอนจะต้องปิดบัญชีทันที และอาจไม่ได้รับดอกเบี้ยที่สะสมไว้
- วงเงินฝากรวมสูงสุดไม่เกิน 600,000 บาท

ก่อนที่จะเปิดบัญชีออนไลน์ ให้ศึกษาให้ดีเพราะหลายธนาคารเสนออัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ เช่น ธนาคารกรุงไทยเสนออัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวที่เพิ่มจากเงินฝากประจำอีก 0.75% - 1% ธนาคารไทยพาณิชย์มีบัญชีแบบไม่มีสมุดฝาก (E-Passbook) ที่ให้ดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงสุดถึง 1.6% ขึ้นอยู่กับระยะเวลา และธนาคารออมสินก็เปิดโอกาสให้เด็กอายุ 7 ปีขึ้นไปสามารถมีบัญชีร่วมกับผู้ปกครองได้เช่นกัน

แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่บัญชีเงินฝากปลอดภาษีเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกวินัยการออม และวางแผนการเงินระยะยาวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาษีจากดอกเบี้ยที่ได้รับ และยังถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง

ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี ควรศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน และเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยเปิดบัญชีคู่อัตราดอกเบี้ยสูงของแต่ละธนาคาร เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดจากเงินออมของคุณ



15
มนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจเคยคิดว่าเรื่อง “เกษียณอายุ” ยังอยู่ไกลตัว แต่ความจริงแล้วทุกวันที่เราทำงานคือโอกาสทองในการวางรากฐานเพื่ออนาคต หากเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ ชีวิตหลังเกษียณก็จะไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป

มาดู 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณวางแผนเกษียณได้อย่างมั่นคงและมีเงินใช้แบบไม่พึ่งลูกหลาน

1. กำหนดเป้าหมายอายุเกษียณให้ชัดเจน
สิ่งแรกที่ควรทำคือกำหนดว่าอยากเกษียณเมื่อไร และคาดว่าจะมีอายุถึงกี่ปี เช่น หากคุณอายุ 30 ปี และตั้งใจจะเกษียณตอนอายุ 60 ปี โดยคาดว่าอาจมีอายุถึง 85 ปี นั่นหมายความว่าคุณมีเวลาเก็บเงินอีก 30 ปี และต้องเตรียมเงินไว้ใช้หลังเกษียณอีก 25 ปี
2. คำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องมีหลังเกษียณ
ลองประเมินว่าในแต่ละเดือนหลังเกษียณ คุณจะใช้เงินเท่าไร โดยอาจตั้งไว้ว่าประมาณ 70% ของค่าใช้จ่ายปัจจุบันก็เพียงพอ เช่น หากตอนนี้ใช้เดือนละ 20,000 บาท หลังเกษียณอาจเหลือเดือนละ 14,000 บาท หรือปีละ 168,000 บาท ถ้าคิดใช้จ่ายไปอีก 25 ปีหลังเกษียณ เท่ากับต้องมีเงินสะสมไว้อย่างน้อย 4.2 ล้านบาท (ยังไม่รวมอัตราเงินเฟ้อ)
3. เช็กเงินออมที่มีอยู่
ลองรวบรวมเงินออมที่คุณมี ไม่ว่าจะเป็นเงินฝากในบัญชี, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, ประกันสะสมทรัพย์ หรือการลงทุนต่าง ๆ เพื่อดูว่าตอนนี้มีเงินในมือเท่าไร และยังขาดอีกกี่บาทจึงจะถึงเป้าหมาย
4. วางแผนลงทุนเพื่อเสริมเงินออม
การออมเงินอย่างเดียวอาจไม่พอ ต้องเสริมด้วยการลงทุนเพื่อให้เงินเติบโต เช่น กองทุน RMF, SSF, หุ้น หรือประกันบำนาญ ทั้งนี้ควรเลือกลงทุนให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ และอย่าลืมกระจายความเสี่ยงเพื่อความปลอดภัยของเงินในระยะยาว
5. ทบทวนและปรับแผนทุกปี
แผนเกษียณที่ดีควรปรับตามสถานการณ์จริง เช่น รายได้ที่เพิ่มขึ้น ค่าครองชีพที่เปลี่ยนไป หรือมีภาระใหม่เข้ามา การเช็กแผนทุกปีจะช่วยให้เป้าหมายเกษียณไม่คลาดเคลื่อน

การเตรียมความพร้อมด้านการเงินตั้งแต่วันนี้ ลดหย่อนภาษี รีไฟแนนซ์บ้านคือ กรุงไทยจะเป็นรากฐานที่ทำให้ชีวิตหลังเกษียณของคุณเต็มไปด้วยอิสรภาพ ไม่เป็นหนี้นอกระบบ และความสุขอย่างแท้จริง ดูขั้นตอนการวางแผนเกษียณฉบับมนุษย์เงินเดือน ที่ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1666




หน้า: [1] 2 3 ... 6