รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Jirasak2708 ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2016, 04:03:26 PM

หัวข้อ: เบต้า-กลูแคน (Beta Glucan) คืออะไร มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: Jirasak2708 ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2016, 04:03:26 PM
เบต้า-กลูแคน (Beta Glucan) คืออะไร มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร
(http://www.taladnadonline.com/image06/beta-glucan_ar.jpg)
เบต้า-กลูแคน (http://www.taladnadonline.com/index.php?route=content/articleview&article_id=148) (Beta Glucan) กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรค ลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
เบต้า-กลูแคน คือ สารประกอบประเภทน้ำตาลหลายโมเลกุล หรือที่เรียกว่า โพลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide)ชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติเป็นใยอาหาร (Fiber) ที่ช่วยในระบบการย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย เบต้ากลูแคน ประกอบขึ้นจากน้ำตาลกลูโคส ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว กลูแคนหรือน้ำตาลกลูโคสนั้น แบ่งออกเป็น อัลฟา-กลูแคน และเบต้า-กลูแคน
เบต้า-กลูแคน (BETA GLUCAN) มีคุณสมบัติมหัศจรรย์ที่สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกายใช้ป้องกันโรคติดเชื้อจากจุลชีพต่างๆ ทั้งยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่สำคัญ คือ ลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สำหรับประโยชน์ที่เหนือกว่าสารอาหารอื่นๆ คือ สรรพคุณในการป้องกันและต้านเซลล์มะเร็ง เมื่อร่างกายได้รับเบต้า-กลูแคน เม็ดเลือดขาวจะถูกกระตุ้นให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เบต้า-กลูแคน จะถูกย่อยที่บริเวณผนังลำไส้เล็กส่วน lleum ที่เรียกว่า Peyer's Patches โดย เซลล์มาโครฟาส หรือ เซลล์ต่อสู้โรค ให้กลายเป็นแท่ง (fragment) เล็กๆ ของ เบต้า-1, 3/1, 6-D-glucan Polysaccharide จะไปจับกับ Receptor ของ Neutrophils (เซลล์เม็ดเลือด ขาวที่คอยกำจัดเชื้อโรค) ซึ่งจะทำให้ Neutrophils มีความจำเพาะเจาะจงกับเชื้อโรคมากขึ้น เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา และจับกับสิ่งแปลกปลอมเพื่อทำลายสิ่งแปลกปลอมในร่างกายได้เร็วขึ้น
ปัจจุบัน เบต้า-กลูแคน มีการศึกษากันอย่างแพร่หลาย แต่การศึกษาครั้งแรกเริ่มขึ้นใน ทศวรรษที่ 40 เมื่อ Louis Pillemer ศึกษา Zymosan ซึ่งเตรียมได้จากผนังเซลล์ของยีสต์ ที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นยาที่ออกฤทธิ์ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน (http://taladnadonline.blogspot.com/2015/09/beta-glucan.html) แต่ในขณะนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า โปรตีน ไขมัน น้ำตาลเชิงซ้อน หรือองค์ประกอบใดของ Zymosan ที่สามารถออกฤทธิ์ต่อ ระบบภูมิคุ้มกันได้
หลังจากนั้น ราวทศวรรษที่ 50 Nicholas DiLuzio จากมหาวิทยาลัย Tulane ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิจัยเพิ่มเติมจนพบว่า สารที่มีผลต่อการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันใน Zymosan ที่จริงแล้ว คือ เบต้า-กลูแคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Beta-1,3-D-glucan ซึ่งเป็น โพลิ แซ็กคาไรด์สายยาวของน้ำตาลกลูโคส ที่เชื่อมต่อกันด้วย glycoside lingkage ตรงโมเลกุลของออกซิเจนที่ตำแหน่ง C1 กับ hydroxyl ที่ตำแหน่ง C3 ของอีกกลุ่มหนึ่ง
ผลงานดังกล่าว จุดประกายให้นักวิทยาศาสตร์เริ่มศึกษาถึงความสามารถในการกระตุ้น ระบบภูมิคุ้มกัน ของ เบต้า-กลูแคน เรื่อยมาจนก้าวเข้าสู่ยุคปี 80 Joyce K. Czop จากมหาวิทยาลัย Harvard ได้ค้นพบตัวรับที่จำเพาะต่อเบต้า-กลูแคนบนผิวเซลล์ของ Macrophage โดยตัวรับดังกล่าว เป็นกลุ่มของโปรตีนที่มีขนาดประมาณ 1 ไมครอน ซึ่งจะพบอยู่บนผิวเซลล์ Macrophage ตั้งแต่เริ่มสร้างจากไขกระดูกจนตาย
Joyce K. Czop อธิบายว่า เมื่อสาย α-Helix ซึ่งเป็นโครงสร้างสามมิติของ เบต้า-กลูแคน ที่ประกอบไปด้วยน้ำตาลประมาณ 7 หน่วยเข้าไปจับที่ตัวรับบนผิวเซลล์ ก็จะไปกระตุ้นเซลล์ Macrophage ให้อยู่ในสภาวะตื่นตัว เพื่อทำหน้าที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต่อไปแต่ในภาวะปกติ แล้วเซลล์ Macrophage ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในสภาวะสงบ ซึ่งหมายความว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ต่างๆ ของร่างกายจะไม่ทำงานจนกว่าจะตรวจพบสิ่งแปลกปลอมจากภายนอก ที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น แบคทีเรีย, ไวรัส, เชื้อรา หรือสารเคมี ต่างๆ แต่หากร่างกายของเราได้รับเบต้า-กลูแคนอยู่เป็น ประจำแล้ว เบต้า-กลูแคน เหล่านี้ก็จะคอยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ มาโครฟาสจ์ (Macrophage) ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา ซึ่งกระบวนการในการกระตุ้นเซลล์ มาโครฟาสจ์ (Macrophage) ของเบต้ากลูแคน นั้นมีอยู่หลายทาง เช่น
- กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาว มาโครฟาสจ์ (Macrophage) ให้อยู่ในสภาวะที่เตรียมพร้อม และตื่นตัวอยู่เสมอ
- ควบคุมการหลั่ง cytokines เช่น interleukins เพื่อกระตุ้นการสื่อสารระหว่างเซลล์ต่างๆ ในระบบภูมิคุ้มกัน
- กระตุ้นการหลั่ง colony-stimulating factors เพื่อเพิ่มปริมาณการสร้างและการเจริญเติบโตของเม็ดเลือดขาว เช่น Neutrophils และ Eosinophils จากไขกระดูก
กระบวนการเหล่านี้ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ เซลล์ Macrophage ในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้ามาสู่ร่างกายนั่นเอง และจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกายในด้านต่างๆ ดังนี้
- ต้านเซลล์มะเร็ง ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งต่างๆ
- บรรเทาอาหาร และฟื้นตัวได้เร็วหลังจากทำเคมีบำบัด
- ลดอาการภูมิแพ้และไข้หวัด
- บรรเทาการติดเชื้อ และการอักเสบจากเชื้อชนิดต่างๆ
- ช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น
เบต้า-กลูแคน สามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้ จากการศึกษาของ Peter W. Mansell ในคนไข้ที่เป็นมะเร็งผิวหนัง 9 ราย พบว่าขนาดของเซลล์มะเร็งที่ผิวหนังของคนไข้ ลดลง เมื่อได้รับการฉีด เบต้ากลูแคน เข้าไปรวมกับผลการทดลองจากการฉายรังสีในระดับที่ เป็นอันตรายให้แก่หนูที่ได้รับ เบต้า-กลูแคน เป็นประจำ พบว่า 70% ของหนูทั้งหมดที่ทำการ ทดลองไม่ได้รับอันตรายจากผลของรังสี ซึ่งข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ของ เบต้า-กลูแคน ได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีถึงผลของ เบต้า-กลูแคน ที่มีต่อการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ผ่านทาง เซลล์ Macrophage อย่างไรก็ตาม กลไกการลำเลียง เบต้ากลูแคน เข้าสู่ร่างกายยังไม่เป็นที่ทราบชัดเจน โดยสันนิษฐานว่า การลำเลียงดังกล่าวนั้น น่าจะเกิดขึ้นที่ Microfold ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์เนื้อเยื่อบุผิว ที่ดัดแปลงไปทำหน้าที่พิเศษที่เรียกว่า M-cell โดยเซลล์เหล่านี้จะ พบอยู่ภายใน Peyer’s patches ของต่อมน้ำเหลืองตามทางเดินอาหาร หลังจากที่ เบต้ากลูแคน ถูกนำเข้าสู่ M-cell แล้ว M-cell ก็จะส่งต่อเบต้ากลูแคนให้กับเซลล์ Macrophage อีกที
เบต้า-กลูแคน นอกจากจะใช้ทำเป็นอาหารเสริมสุขภาพแล้ว ยังมีการนำไปใช้ในเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางจำพวกครีมกันแดดได้อีกด้วย เบต้ากลูแคน สามารถกระตุ้นให้แผลหายเร็ว ขึ้น โดยจะไปเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้าง collagen ของเซลล์ผิวหนัง ลดการเกิดอนุมูลอิสระ และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ Langerhans ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่ นำเสนอสิ่งแปลกปลอม ให้แก่เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน คล้ายๆกับเซลล์ Macrophage โดยกระบวนการเหล่านี้ จะมีผลทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ลดริ้วรอย และชะลอความแก่ของเซลล์ผิวหนังให้ช้าลง
แหล่งที่พบ เบต้า-กลูแคน ในธรรมชาติ พบได้ในพืชบางชนิด เช่น เห็ด ผักสมุนไพรต่างๆ เช่น ว่านหางจระเข้ม, โสม, ข้าวโอ๊ต, ชะเอมเทศ, ยีสต์ (ยีสต์ดำ ยีสต์ ขนมปัง), ข้าวบาร์เลย์ , สาหร่าย และราเส้นใย เป็นต้น สำหรับ เบต้า-กลูแคน จากยีสต์ดำ เกิด จากการเพาะเลี้ยงยีสต์ดำโดยเฉพาะ ซึ่งตัวยีสต์ดำ จะสร้างใยอาหารเบต้า-กลูแคน บริสุทธิ์ที่มี โครงสร้างเป็น เบต้า-1, 3/1, 6-D-glucan (แปลว่า มีตำแหน่งเชื่อมต่อหลักที่ตำแหน่ง 1 และ 3 ของโมเลกุล และมีตำแหน่งเชื่อมต่อรองที่ตำแหน่ง 1 และ 6 ของโมเลกุล)
คุณประโยชน์ของเบต้ากลูแคน ดีที่สุด
– กระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันในทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และปรับระดับการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย เรื่องภูมิแพ้ถือว่าเห็นผลชัดมากๆ
– มีการนำเอาเบต้ากลูแคนมาใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ในต่างประเทศ และพบว่าจำนวนเซลล์มะเร็งลดลงเมื่อได้รับเบต้ากลูแคน
– กระตุ้นให้แผลหายเร็ว โดยจะไปเพิ่มประสิทธิภาพของการเพิ่ม collagen ให้กับบริเวณเนื้อเยื่อที่เป็นแผล
– เพิ่มการสร้างและการเจริญเติบโตของเม็ดเลือดขาว
– ลดผลข้างเคียงของเคมีบำบัด เช่น การฉายแสง
– ปรับการทำงานของภูมิต้านทานที่ผิดปกติ เช่น ภูมิแพ้
– ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ฟื้นฟูตับอ่อน
– ช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลในเลือด
– ลดอาการปวดตามข้อ ไขข้ออักเสบ
– ลดการอักเสบ การติดเชื้อแทรกซ้อน
– บรรเทาอาการท้องผูก ช่วยระบบขับถ่าย
– รักษาความชุ่มชื้น ฟื้นฟูสภาพผิว ลบเลือนริ้วรอย
เบต้ากลูแคน กับโรคเบาหวาน
เบต้ากลูแคนผลดี โรคเบาหวานในเรื่องการฟื้นฟูการทำงานของตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนสามารถกลับมาผลิตอินซูลินได้หรือได้มากกว่าเก่า นอกจากนี้เบต้ากลูแคนยังช่วยลดความหนืดของไยอาหารทำให้การดูดซึมอาหารใน เลือดช้าลง
เบต้ากลูแคน กับโรคผิวหนัง
โดยเบต้ากลูแคนมีสรรพคุณ กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว ชื่อ Langerhans Cell ซึ่งเป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันสำหรับผิวหนัง ให้ออกมาเก็บกินสิ่งแปลกปลอมรวมทั้งป้องกันการติดเชื้อ โดยจะผลิตสารคัดหลั่งที่มีประโยชนืต่อผิวหนัง เช่น ชะลอความแก่ เป็นต้น
เบต้ากลูแคน กับโรคข้ออักเสบ
เบต้ากลูแคน มีสรรพคุณช่วยในการกระตุ้นการทำงานของแมคโครฟาจ โดยทำให้แมคโครฟาจสามารถทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบของเชื้อ โรคในข้อได้ นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบควรควบคุมน้ำหนัก และพิจารณาเรื่องอาหารที่รับประทานรวมถึงการออกกำลังกาย อีกด้วย และนอกจากนี้ เบต้ากลูแคนจะช่วยสร้างน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ เพื่อป้องกันการกระแทกและการเสียดสีที่มากไปของข้อกระดูก
เบต้ากลูแคน กับโรคกรดไหลย้อน
เบต้ากลูแคน มีสรรพคุณสามารถช่วยลดภาวะกรดไหลย้อน โดยเบต้ากลูแคนจะไปจับกรดเกลือในกระเพาะอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้กรดไหลย้อนขึ้นมาที่บริเวณหลอดอาหาร และมีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อ H. pylori ที่สามารถเจริญและทนสภาวะกรดในกระเพาะอาหารอันเป็นสาเหตุของการติดเชื้อนำไป สู่โรคกระเพาะอาหารอักเสบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร
เบต้ากลูแคน กับโรคมะเร็ง
เบต้ากลูแคน สรรพคุณจะไปกระตุ้นและเพิ่มพลังให้เม็ดเลือดขาว โดยจะลอยไปตามกระแสเลือด ซึ่งเมื่อพบเซลล์มะเร็งก็จะเกาะติดเป็นเป้าให้เม็ดเลือดขาวเข้าไปโจมตีทำลาย
และนอกจากนี้เบต้ากลูแคนยังเสริมในการใช้ยาคีโมได้ผลดียิ่งขึ้น ในการแพทย์แผนปัจจุบันกับการรักษาโรคมะเร็ง จะใช้การผ่าตัด ฉีดยาคีโม และการฉายรังสีทำลายมะเร็งรวมกัน ยาคีโมจะทำให้จำนวนเม็ดโลหิตขาวในเลือดลดจำนวนต่ำกว่าปกติ จึงทำให้เกิดความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อโรคสารพัดได้โดยง่าย เพราะมีภูมิต้านทานต่ำหรือบกพร่องซึ่งสถานะเท่ากับคนเป็นเอดส์ แต่การกินเบต้ากลูแคนจะเสริมไม่ให้เกิดปัญหาเม็ดโลหิตขาวบกพร่อง จึงเสริมในการทำลายเซลล์มะเร็งได้มากกว่าแต่ละอย่างรวมกัน
เบต้ากลูแคนป้องกันอันตรายจากรังสีบำบัดมะเร็ง โดยจะช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนจากรังสีและยังเสริมภูมิต้านทานอีกด้วยซึ่ง เรียกว่าเกิดผลประโยชน์ข้างเคียง
เบต้ากลูแคน มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณภาพสูงเหนือกว่าวิตามินอีและวิตตามินซี ดังนั้นการใช้เบต้ากลูแคนควบคู่กับวิตามินซีจะทำให้เกิดผลดีกว่าการใช้เพียงลำพัง

ที่มา : http://taladnadonline.blogspot.com/2015/09/beta-glucan.html (http://taladnadonline.blogspot.com/2015/09/beta-glucan.html)

Tags : เบต้า-กลูแคน,Beta Glucan,กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน