รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: tawattt005 ที่ พฤษภาคม 11, 2018, 01:26:09 AM

หัวข้อ: โรคมือเท้าปาก - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: tawattt005 ที่ พฤษภาคม 11, 2018, 01:26:09 AM
(https://www.img.in.th/images/9cd86b1b740e69145d8352166d1af692.md.jpg)
โรคมือเท้าปาก  (Hand Foot and Mouth  disease – HFMD)
โรคมือเท้าปาก (http://www.disthai.com/16828313/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81-hand-foot-and-mouth-disease-hfmd) เป็นยังไง โรคมือ-เท้า-ปาก ไม่สบายเป็นผื่นที่ต่อเนื่องกันง่าย แต่มักไม่รุนแรงแล้วก็หายได้เองเป็นส่วนใหญ่ ส่วนน้อยที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ซึ่งโรค มือเท้าปาก เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในเด็กเล็ก โดยเฉพาะตอนหน้าฝน มักเกิดจากไวรัสกรุ๊ป Enterovirus  แม้กระนั้นในแถบร้อนชื้น พบได้มากได้ตลอดปีโดยส่วนมากแล้ว มักพบในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปีแต่ว่าอาจเจอในเด็กอายุมากกว่านี้ก็ได้ และก็แม้มีการกำเนิดโรคในสถานเลี้ยงเด็กหรือในโรงเรียนสำหรับสอนเด็กอนุบาล ก็จะพบผู้เจ็บป่วยเยอะมากๆขึ้นเพราะว่าโรคนี้ระบาดได้ง่าย
                อนึ่งโรคนี้เป็นโรคคนละชนิดกับโรคปากยุ่ยเท้ายุ่ยที่เจอได้ในสัตว์กีบคู่ ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่ติดต่อมาสู่คน นอกจากในกรณีที่คนไปสัมผัสคลุกคลีอยู่กับสัตว์ที่ป่วยหรือผู้ที่ปฏิบัติงานในห้องทดลองเกี่ยวกับโรคในสัตว์กลุ่มนี้ ที่อาจมีรายงานการติดเชื้อได้บ้าง
                ในความเป็นจริงแล้ว โรคมือ เท้า ปาก ว่าไม่ใช่โรคใหม่ แต่รู้จักกันมานานมากกว่า 50 ปีแล้ว  โดยมีประวัติภูมิหลังของโรค ดังนี้



ต่อจากนั้นก็มีรายงานการระบาดจากประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งเชื้อไวรัสที่นำไปสู่กรุ๊ปอาการมือ เท้า ปาก มิได้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากไวรัสชนิดเดียวแต่มีมากกว่า 10 สายพันธุ์
สำหรับเพื่อการระบาดใหญ่ของกลุ่มอาการของโรคมือ เท้า ปาก พบว่ามีรายงานตั้งแต่ พ.ศ.2540-2555 มีดังนี้



สำหรับเหตุการณ์โรคมือเท้าปากในประเทศไทย อ้างอิงข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในปี 2558 มีคนเจ็บทั้งปวง 40,417 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 62.21 ต่อพลเมือง 1 แสนคน และก็มีคนป่วยเสียชีวิต 3 ราย ส่วนในปี 2559 ข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ 28 เดือนมีนาคม 2559 มีผู้ป่วย 8,973 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 13.78 ต่อประชากร 1 แสนคน และยังไม่มีคนเสียชีวิต
ตั้งแต่เริ่มมีการตรวจเจอเชื้อ EV71 ในผู้ป่วยโรค HFMD ในปี2541 ในประเทศไทยก็เริ่มมีการเฝ้าระวังรายงานแล้วก็สืบสวนคนป่วยสงสัยติดโรค EV71 รวมทั้งคุ้มครองปกป้องควบคุมโรคจากนั้นเป็นต้นมา พบว่าผู้ป่วยส่วนมากเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปีรวมทั้งราวกึ่งหนึ่งติดโรค EV71 ที่มีลักษณะอาการไม่ร้ายแรง
ส่วนในด้านรายงานการแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากจากสำนักระบาดวิทยา พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนมกราคม ถึง 1 เมษายน 2559 มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนทั้งยังตามสถานที่เรียนแล้วก็ในชุมชน 8 เรื่อง จากปริมาณคนเจ็บ 22 ราย ดังนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แนะให้โรงเรียนทำตามมาตรการที่กรมควบคุมโรคระบุ เพื่อปกป้องการเกิดโรครวมทั้งการแพร่ระบาดของโรค
สิ่งที่ทำให้เกิดโรคมือเท้าปาก โรคมือเท้าปากมีเหตุมาจากการติดเชื้อกรุ๊ปไวรัสเอนเทอโร (Enterovirus) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันมากมายสาย เป็นต้นว่า ค็อกแซคกีเอและบี (Coxsackie A, B), เชื้อไวรัสเอนเทอโรชนิด 71 (Enterovirus 71 – EV71) ต้นสายปลายเหตุที่พบได้ทั่วไปที่สุดก็คือการระบาดจากการติดเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 16 (Coxsackievirus A 16) ซึ่งอาการชอบไม่รุนแรง และก็คนเจ็บชอบหายได้เองเป็นส่วนใหญ่ ส่วนสาเหตุที่พบได้น้อยและมีลักษณะอาการรุนแรง คือ การติดเชื้อไวรัสเอนเทอโรจำพวก 71 ซึ่งอาจจะทำให้คนป่วยเกิดภาวะแทรกร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ นอกเหนือจากนั้นโรคมือเท้าปากยังอาจกำเนิดได้จากเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 5, 7, 9, 10 และเชื้อไวรัสค็อกแซคกีบีประเภท 2 และ 5 ได้บ้าง
                ซึ่งโรคนี้โดยมากชอบต่อเนื่องกันที่เกิดขึ้นจากด้านการกินอาหาร น้ำกิน การดูดเลียนิ้วมือ หรือของเล่นเด็กที่ปนเปื้อนเชื้อที่ออกมากับอุจจาระ น้ำเหลืองจากตุ่มน้ำที่ผิวหนัง หรือละอองน้ำมูก น้ำลายของคนเจ็บ ส่วนน้อยที่ติดต่อโดยการดมเอาฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายที่คนเจ็บไอหรือจามรด  ซึ่งเมื่อเชื้อไปสู่ร่างกายแล้ว ประมาณ 3-6 วัน ผู้ป่วยจึงจะมีอาการ
ลักษณะของโรคมือเท้าปาก (http://www.disthai.com/16828313/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81-hand-foot-and-mouth-disease-hfmd)  ภายหลังจากติดเชื้อ 3-7 วัน ผู้เจ็บป่วยจะเริ่มแสดงอาการเริ่ม คือ เป็นไข้ตํ่าๆโดยประมาณ 38-39o C และก็มีลักษณะอาการปวดเหมื่อยตามตัวเวลานี้จะมีช่วงเวลา ราวๆ 1-2 วัน แล้วต่อจากนั้นจะเริ่มมีลักษณะอาการเจ็บปาก ตรวจร่างกายจะเจอมีรอยโรคในรอบๆปาก มือและเท้าได้ดังนี้



ปริมาณร้อยละ 80 ของคนป่วยลักษณะของการเจ็บปากจะไม่รุนแรงและก็หายได้เองโดยไม่ต้องรักษาข้างใน 5-10 วัน



อาจเกิดขึ้นพร้อมรอยโรคที่ปาก หรือหลังจากนั้นนิดหน่อยจํานวนตั้งแต่ 2-3 แห้งไปจนกระทั่ง 100 แห่ง เจอ ที่มือหลายครั้งกว่าเท่า ลักษณะเป็นรอยแดงๆบางทีอาจนูนน้อยขนาด 2-10 มิลลิเมตร กึ่งกลางสีเทา บางรอยโรคมี ลักษณะเป็นตุ่มนํ้าใสขอบแดง มีกระจายขนานไปกับแนวของผิวหนังอาจเจ็บหรือไม่ก็ได้หลังจากนั้น 2-3 วัน จะ เริ่มตกสะเก็ด แล้วก็ค่อยๆหายไปด้านใน 7-10 วัน โดยไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลือ
บริเวณอื่นๆที่บางทีอาจพบรอยโรคได้เหมือนกันเป็นก้น แขน ขา และก็อวัยวะสืบพันธุ์ในเด็กแรกเกิดบางทีอาจเจอ กระจายทั่วตัวได้
โดยปกติโรคมือเท้า ปากตลาดว่ามีลักษณะน้อยส่วนมากมักมีเพียงแต่ไข้ครั่นเนื้อครั่นตัวและเจ็บปาก แต่ว่า ในคนไข้บางรายอาจพบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการตำหนิดเชื้อ enterovirus 71 ปัจจัยเสี่ยงต่อ การพบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เป็น



ซึ่งปัจจัยเสี่ยงในข้อ 2 และก็ 3 จากการศึกษาวิจัยที่โรงพยาบาลเด็ก Chang Gung ประเทศไต้หวัน พบว่า ชมรมกับการตำหนิดเชื้อ EV มากยิ่งกว่า Cox A  โดยมักจะทำให้เกิดภาวะแทรก/ทางระบบประสาท ระบบหัวใจ และปอดได้สูง ทำให้คนเจ็บเสียชีวิตอย่างรวดเร็วจากภาวการณ์ปอดบวมน้ำ เลือดออกในปอด รวมทั้งภาวการณ์ช็อก
แต่เชื้อคอกแซคก็เชื้อไวรัส เอ 16 ก็อาจจะเป็นผลให้เกิดภาวะเข้าแทรกเป็น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มห่อหัวใจอักเสบ และก็ภาวการณ์ช็อกได้ แม้กระนั้นพบได้น้อยกว่าจากเชื้อ เอนเทอโรไวรัส 71 มากมาย
ปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมือเท้าปาก

แนวทางการรักษาโรคมือ เท้าปาก การวินิจฉัยโรคมือเท้าปากโดยทั่วไปใช่อาการและอาการแสดงเป็นสําคัญ (clinical diagnosis) โดยแพทย์จะตรวจร่างกายหารอยโรคจําเพาะที่บริเวณมือเท้า ปากร่วมกับมีไข้ ได้แก่  ผู้ป่วยมีไข้ 38 – 39 องศาเซลเซียส  พบจุดนูนแดง ตุ่มน้ำใส หรือ แผลที่เยื่อบุปาก ลิ้น และเหงือก พบจุดแดงราบ ตุ่มนูน หรือตุ่มน้ำที่มือ เท้า ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และแก้มก้น
การตรวจรอยโรคที่ผิวหนัง (cutaneous lesion) ทางพยาธิวิทยา(histology) จะพบเม็ดเลือดขาวชนิด neutrophil และ lymphocyte เพิ่มขึ้น แต่จะไม้พบmultinucleated giant cell หรือ inclusion body 11 สําหรับในกรณีที่ต้องการทราบชนิดของเชื้อไวรัสที่ก้อโรค สามารถทําได้โดยการแยกเชื้อไวรัส หรือตรวจ ร่องรอยการติดเชื้อจากนํ้าเหลือง สําหรับประเทศไทยใช้วิธี micro-neutralization หากพบผู้ป่วยในข่ายสงสัยให้ เก็บตัวอย่างดังนี้



โรคมือเท้าปากไม่มีวัคซีนหรือยาสำหรับรักษาโรคโดยตรง การรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการ เช่นการให้ยาลดไข้ paracetamol หรือให้ยาบ้วนปากเพื่อช่วยลดอาการเจ็บของแผลในช่องปาก ถ้าตุ่มกลายเป็นหนองหรือพุพองก็จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี อะม็อกซีซิลลิน อีริโทรไมซิน เป็นต้น ถ้ามีภาวะขาดน้ำเนื่องจากกินและดื่มไม่ได้ ก็จะให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ก็จำเป็นต้องรับเด็กไว้รักษาในโรงพยาบาลหรือส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ.2539 มีการศึกษาที่ Medical College of Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการทดลองใช้ acyclovir ในการรักษาผู้ป่วยโรคมือเท้า ปาก 13 รายซึ่ง 12 รายเป็นเด็กอายุ 1-5 ปีและอีก 1 รายเป็นผู้ใหญ่ โดยเริ่มใช้ยา acyclovir ภายใน 1-2 วัน หลังเริ่มมีรอยโรคพบว่าอาการของผู้ป่วยดีขึ้น และรอยโรคเปลี่ยนแปลงดี ขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังเริ่มรักษา ได้ให้ acyclovir ต่ออีก 5 วันจนรอยโรคหายไปหมด ผู้ศึกษาเชื่อว่า acyclovir อาจไปยับยั้งเอนไซม์ thymidine kinase ของ Cox A16แต่ก็อาจมีประโยชน์ ด้านอื่นด้วยเช่น อาจทําให้ผู้ป่วยสร้าง interferon เพื่อยับยั้งไวรัสมากขึ้น15 อย่างไรก็ดียังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้ acyclovir ในการ ลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
และหลังจากการติดเชื้อผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสที่ก่อโรค แต่อาจเกิดโรคมือเท้า ปากซํ้าได้จาก enterovirus ตัวอื่นๆ
การติดต่อของโรค มือ เท้า ปาก  โรคมือเท้าปากสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากตุ่มน้ำใส หรือสารคัดหลั่งจากจมูกและปากอันได้แก่ น้ำมูก เสมหะ หรือน้ำลาย นอกจากนี้แล้วไวรัสยังสามารถพบได้ในอุจจาระ โดยไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ตั้งแต่ในระยะแรกที่แสดงอาการโดยช่วงที่มีการแพร่กระจายมากที่สุด คือ สัปดาห์แรกที่ผู้ป่วยมีอาการและอาจจะยังพบได้อีกหลายสัปดาห์ในอุจจาระของผู้ป่วยที่หายจากอาการของโรคแล้ว นอกจากนี้แล้วในผู้ใหญ่อาจจะสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้โดยไม่แสดงอาการใดๆ ซึ่งการได้รับไวรัสอาจเป็นการได้รับโดยตรงเช่นจากการไอหรือจาม หรืออาจจะได้รับไวรัสโดยอ้อมโดยการสัมผัสกับพื้นผิวหรือสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสอยู่ เช่นในสถานรับเลี้ยงเด็กซึ่งอาจมีของเล่นหรือของใช้เด็กที่ปนเปื้อนน้ำลายเนื่องจากเด็กเล็กมักชอบนำสิ่งของเข้าปาก  ดูดเลียนิ้วมือ รวมถึงจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ มือของผู้เลี้ยงดูเด็กที่ไม่สะอาด เป็นต้น  เนื่องจากโรคมือเท้าปากมักพบในเด็กเล็ก ดังนั้นการระบาดมักพบในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือตามโรงเรียนอนุบาล  เชื้อเอนเทอโรไวรัสสามารถทนสภาวะกรดในทางเดินอาหารมนุษย์ได้ และมีชีวิตอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ 2-3วัน
โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเย็นหรือชื้นแฉะเชื้ออาจอยู่ได้เป็นเดือน  นอกจากนี้ การทำลายเชื้อต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม น้ำยาฆ่าเชื้อทั่วๆ ไปบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ ๗๐ เปอร์เซ็นต์และแอลกอฮอล์เจลใช้ป้องกันไวรัสไข้หวัดได้ แต่สำหรับเชื้อไวรัสเอนเทอโร แอลกอฮอล์ไม่มีผลโดยตรง
การปฏิบัติตนเมื่อป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่จำเป็นต้องให้ยารักษาจำเพาะ เพียงแต่ให้การดูแลตามอาการ และเฝ้าติดตามอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด โดยมีวิธีปฏิบัติ ดังนี้

(https://www.img.in.th/images/d85d64ba2400468569e72361ef745dd5.jpg)
การป้องกันตนเองจากโรคมือเท้าปาก



สมุนไพรที่ใช้รักษา/ทุเลาลักษณะโรคมือเท้าปาก สมุนไพรที่สามารถประยุกต์ใช้ทุเลาลักษณะโรคมือเท้าปากนั้นมีดังนี้ แม้มีแผลในปากก็สามารถใช้กลีเซอรีนพญายอหยอดบริเวณแผลได้ เพราะเหตุว่าในใบพญายอมีสารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบ ทำให้แผลหายเร็วขึ้นรวมทั้งไม่มีอันตราย ไม่เป็นผลใกล้กัน
            สมุนไพรในโรค มือ-เท้า-ปาก คือ ฟ้าทลายมิจฉาชีพ (Andrographis paniculata (Burm.F.) Nees.) เป็นงานศึกษาวิจัยที่ทำในประเทศจีน โดยนักวิจัยได้สกัดสารสำคัญของฟ้าทลายขโมยและก็ทำให้อยู่ในรูปแบบของยาฉีดเป็นAndrographolide Sulfonate injection
งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยนี้ทำในเด็กที่เป็นโรค มือ-เท้า-ปาก อายุ 1-13 ปี จำนวน 230 คน โดยแบ่งเป็น 2 กรุ๊ป กรุ๊ปแรกจะได้รับการดูแลและรักษาแบบแผนเดิมร่วมกับ สารสกัดฟ้าทะลายโจรในต้นแบบบาฉีด (Andrographolide Sulfonate injection) อีกกลุ่มจะได้รับการดูแลและรักษาแบบแผนเดิม โดยติดตามผล 7-10 วัน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มแรกจะเจออาการเข้าแทรกแบบร้ายแรงน้อยกว่ากรุ๊ปที่สองอย่างเป็นจริงเป็นจัง นอกจากนั้นยังทำให้ไข้ต่ำลงได้เร็วขึ้น ทำให้แผลที่ผิวหนังและแผลในปากหายมากยิ่งกว่ากรุ๊ปหวานใจษาแบบแผนเดิม และไม่เจอการเสียชีวิตและก็ผลกระทบที่ร้ายแรงในกลุ่มทดลองอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง