รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: หนุ่มน้อยคอยรัก007 ที่ พฤษภาคม 04, 2018, 06:08:04 PM

หัวข้อ: โรคนิ่วในไต - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: หนุ่มน้อยคอยรัก007 ที่ พฤษภาคม 04, 2018, 06:08:04 PM
(https://www.img.in.th/images/6b8acbdeef85171242cdf8c11a7c9aca.png)
นิ่วในไต (Kidney Stone)
นิ่วในไตคืออะไร ก่อนที่จะเราจะมาทำความรู้จักนิ่วในไตนั้น ก่อนอื่นต้องรู้จักโรคนิ่วกันก่อน โรคนิ่วเป็นขี้ตะกอนจากแร่ต่างๆศูนย์รวมตัวกันเป็นก้อนแข็งๆที่เกิดขึ้นมาจากมูลเหตุต่างๆตัวอย่างเช่น ขาดสารอาหารต่างๆหลายประเภท โดยยิ่งไปกว่านั้น สิเทรต โพแทสเซียม แมกนีเซียม และโปรตีนจากเนื้อสัตว์ หรืออาจเกิดจากการอักเสบ จากโรคบางจำพวก ดังเช่นว่า โรคเก๊าท์ฯลฯ และโรคนิ่วนั้นยังสามารถแบ่งได้ของจำพวก คือนิ่วในถุงน้ำดี แล้วก็นิ่วในระบบทางเท้าปัสสาวะ แล้วก็ยังสามารถแบ่งนิ่วในทางเดินฉี่ได้อีกตามตำแหน่งที่เกิดนิ่ว ตัวอย่างเช่น นิ่วในไต นิ่วในทอไต นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ รวมทั้งนิ่วในทอปัสสาวะ ซึ่งนิ่วทั้งสองชนิดนี้ มีความแตกต่างกันในส่วนประกอบ มูลเหตุ รวมถึงการรักษา แต่ว่าในบทความนี้นักเขียนจะขอกล่าวถึงเฉพาะนิ่วในไตเพียงแค่นั้น
นิ่วในไต เป็นก้อนผลึกขนาดเล็ก มีหินปูน (แคลเซียม) กับสารเคมีและแร่ นๆตัวอย่างเช่น ออกซาเลต ยูริก โปรตีน เป็นต้น หรือบางรายอาจจะมีขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นมาจากสารตกค้างต่างๆทั้งยังจากสารอาหารที่พวกเรากินเข้าไป หรือกรดบางจำพวกที่ร่างกายขับออกไม่หมด ซึ่งก้อนนิ่วในไตนี้ ยังไปเพิ่มอัตราเสี่ยงสำหรับในการเป็นโรคไตอีก
ชนิดของนิ่วในไต ก้อนนิ่วมีส่วนประกอบ 2 ส่วนหมายถึงส่วนที่เป็น แร่ (mineral composition) และส่วนที่เป็นสาร อินทรีย์(organic matrix) ซึ่งมีประมาณจำนวนร้อยละ 5-10 เป็นสารโมเลกุลใหญ่ที่พบในปัสสาวะ เป็นต้นว่า โปรตีน ไขมัน และก็คาร์โบไฮเดรต ฯลฯ ส่วนที่เป็นแร่เกิดจาก การตกผลึกของสารก่อนิ่วในปัสสาวะ ดังเช่นว่า แคลเซียม ออกซาเลต ฟอสเฟต และก็กรดยูริค สามารถจัดประเภทของนิ่วในไตได้ดังนี้ นิ่วสงามไวท์(struvite stones) เจอ จำนวนร้อยละ 15 กำเนิดในผู้ป่วยที่มีทางเดินเยี่ยวอักเสบเรื้อรัง นิ่วกรดยูริค (uric acid stones) เจอประมาณปริมาณร้อยละ 6 เกิดขึ้นจากรับประทานอาหารที่มีพิวรีน (purine) สูง เป็นต้นว่า เครื่องใน สัตว์ปีก เป็นต้น นิ่วซีสตี (cystine stones) เจอประมาณจำนวนร้อยละ 2 มีเหตุมาจากความผิดแปลกของร่างกาย สำหรับเพื่อการซึมซับสารซีสตีน นิ่วแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate stones) เป็นประเภทที่พบได้ทั่วไปที่สุด ในประเทศไทย โดยพบปริมาณร้อยละ 75-80 ซึ่งจากรายงาน การค้นคว้าที่จังหวัดขอนแก่นพบนิ่วจำพวกนี้จำนวนร้อยละ 88 และก็ที่อเมริกาเจออุบัติการณ์ร้อยละ 90 นิ่วแคลเซียมออกซาเลตมีสาเหตุมาจากแคลเซียมรวมกับกรด ออกซาลิก (oxalic acid) เมื่อไปรวมกับธาตุตัวอื่น ตัวอย่างเช่น โซเดียม แมกนีเซียม แคลเซียม หรือโปแตสเซียม จะกลายเป็นผลึกออกซาเลต และกลายเป็นก้อนนิ่วในเวลาต่อมา
นิ่วในไตสามารถพบได้ทุกช่วงอายุตั้งแต่เด็กจนถึงคนวัยแก่ แต่พบได้สูงขึ้นยิ่งกว่าในช่วงอายุ 40 - 50 ปี โดยพบในผู้ชายสูงขึ้นยิ่งกว่าหญิงราว 2 - 3 เท่า
นิ่วในไตอาจเกิดกับไตเพียงแค่ข้างเดียว โดยจังหวะเกิดใกล้เคียงกันทั้งข้างซ้ายแล้วก็ขวาหรือกำเนิดนิ่วพร้อมกันทั้งสองข้าง แต่ว่าความรุนแรงของนิ่วในทั้งสองไตมักไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับขนาดรวมทั้งตำแหน่งของนิ่ว ในประเทศที่เจริญแล้ว จะพบโรคนี้ได้ราว 0.2% ของมวลชน ส่วนในเอเชียพบได้ราวๆ 2-5%
สำหรับในประเทศไทย เจออัตรา การเกิดโรคนิ่วในไตรวมทั้งในระบบฟุตบาทฉี่ของผู้ป่วยใน จากสถิติกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้นจาก 99.25 ต่อ 100,000 ของราษฎร ในปีพุทธศักราช 2550 เป็น 122.46 ในปี พุทธศักราช 2553 พบได้มากที่สุดในประชาชน ภาคเหนือและภาคอีสาน ในอัตรา 188.55 แล้วก็ 174.67 เป็นลำดับ จากการเรียนรู้ นิ่วในระบบฟุตบาทฉี่ ในปีพ.ศ. 2552 แยกเป็นชนิดและประเภทตามครอบครัว แล้วก็ หมู่บ้าน ในพลเมืองภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัด ขอนแก่น จำนวน 1,034 ราย (โดยรวมผู้ที่เป็นนิ่ว อยู่แล้ว 135 ราย) จาก 551 ครอบครัว และ 348 หมู่บ้าน เรียนด้วยแนวทางถ่ายภาพรังสี Kidney-Ureter Bladder (KUB) พบว่า สมาชิกในครอบครัวจำนวน 116 ครอบครัว (ร้อยละ 21.05) รวมทั้งใน 23 หมู่บ้าน (ร้อยละ 6.61) เป็นนิ่วในไต ตำแหน่งที่เจอนิ่วเยอะที่สุด คือ ในไต ราวๆร้อยละ 80 สำหรับในภูมิภาคอื่นๆมีการศึกษาไม่มากนัก แม้กระนั้นมีรายงานการศึกษาพบว่า เจอนิ่วเยอะที่สุดในช่วงอายุ 40-50 ปีรวมทั้ง เจอในเพศชายมากยิ่งกว่าผู้หญิง 3 เท่า รวมทั้งเจอ การเกิดซ้ำ ภายใน 2 ปี หลังผ่าตัดหรือสลายนิ่วสูงถึง จำนวนร้อยละ 39
ในปัจจุบันโรคนิ่วในไตมีลักษณะท่าทางที่สูงขึ้น ทั้งยังในประเทศไทยและก็ทุกภูมิภาคทั้งโลก การมีนิ่วในไต ทำ ให้การทำ งานของไตเสื่อมลง แล้วก็บางทีอาจรุนแรงจนกระทั่ง เกิดภาวะไตวายเรื้อรังแล้วก็โรคไตระยะสุดท้าย ซึ่งทำ ให้ เสียชีวิตได้ ยิ่งกว่านั้นโรคนิ่วในไตมีอุบัติการณ์กำเนิดนิ่วซ้ำ สูงมากมาย ทำ ให้คนไข้แล้วก็รัฐบาลจำเป็นต้องสูญเสียค่าครองชีพ สำหรับในการรักษาอย่างมากมาย โดยเหตุนั้นการหลีกเลี่ยงปัจจัย เสี่ยงหรือปัจจัยที่ก่อให้เกิดนิ่ว อาทิเช่น พืชที่มีออกซาเลต สูง หรือการรับประทานแคลเซียมเม็ดเสริม ควรจะเป็นสิ่งที่ จำเป็นต้องคำ ระลึกถึงเพื่อป้องการกันกำเนิดนิ่ว
ต้นเหตุของนิ่วในไต มีต้นเหตุมาจากหลากหลายเหตุ ปัจจัยเสี่ยงทางด้านสิ่งแวดล้อม เมตตาบอลิซึม พันธุกรรม วิถีการดำนงชีพ แล้วก็อุปนิสัยการกินอาหารของเพศผู้เจ็บไข้เอง แต่ว่าปัจจัยที่สำคัญของการเกิดนิ่วในไต คือ การมีสารก่อนิ่วในปัสสาวะสูงยิ่งกว่าระดับสารยั้งนิ่ว ร่วมกับต้นสายปลายเหตุเสริมเป็น ความจุของเยี่ยวน้อย เป็นสาเหตุของการเกิดสภาวะอิ่มตัวยิ่งยวดของสารก่อนิ่วในปัสสาวะ จึงเกิดผลึกที่ไม่ละลายน้ำขึ้น เป็นต้นว่า แคลเซียมออกซาเลต แคลเซียมฟอสเฟต และยูเรต ผลึกนิ่วที่เกิดขึ้นจะเป็นตัวกระตุ้นให้มีการอักเสบ นำมาซึ่งการทำให้เซลล์บุด้านในไตถูกทำลาย ตำแหน่งถูกทำลายนี้จะเป็นหลักที่ให้ผลึกนิ่วเกาะยึดแล้วก็รวมกลุ่มกัน เกิดการทับถมของผลึกนิ่วเป็นระยะเวลานานจนถึงแปลงเป็นก้อนนิ่วได้ในที่สุด ในคนธรรมดาที่มีสารยับยั้งนิ่วในฉี่สูงพอเพียงจะสามารถยั้งการก่อตัวของผลึกนิ่วได้ โดยสารพวกนี้จะไปแย่งจับกับสารก่อนิ่ว อาทิเช่น สิเทรตจับกับแคลเซียม หรือแมกนีเซียมจับกับออกซาเลต นำไปสู่เป็นสารที่ละลายน้ำก้าวหน้า รวมทั้งขับออกไปกับน้ำปัสสาวะ ทำให้ปริมาณสารก่อนิ่วในปัสสาวะน้อยลงและไม่สามารถรวมตัวกันเป็นผลึกนิ่วได้ เว้นเสียแต่สารยั้งนิ่วกลุ่มนี้แล้วโปรตีนในเยี่ยวหลายอย่างยังทำหน้าที่คุ้มครองป้องกันการก่อผลึกในฉี่ แล้วก็เมื่อฉาบที่ผิวผลึกจะช่วยขับผลึกออกไปกับเยี่ยวได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้มีหลายงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยกล่าวว่า ความแตกต่างจากปกติของการสังเคราะห์และลักษณะการทำงานของโปรตีนยั้งนิ่วกลุ่มนี้เป็นต้นเหตุหนึ่งของการเกิดโรคนิ่วในไต  การเกิดนิ่วในไต (http://www.disthai.com/16864954/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%95-kidney-stone)ยังอาจมีต้นเหตุที่เกิดจากโรคอื่นที่เป็นอยู่ ยกตัวอย่างเช่น การตำหนิดเชื้อในระบบทางเท้าเยี่ยว โรคเมตาบอลิก รวมทั้งการใช้ยารักษาโรคบางจำพวกอย่างโรคเกาท์ ต่อมไทรอยด์ดำเนินงานเกินธรรมดา โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันเลือดสูง และการกินวิตามินดี และก็แคลเซียมเม็ดเสริมมากจนเกินความจำเป็น
ลักษณะของนิ่วในไต สำหรับนิ่วในไตส่วนมาก ผู้เจ็บป่วยมักไม่มีอาการแสดง แต่จะมีลักษณะอาการแสดงก็ต่อเมื่อมีการติดเชื้อซ้ำซ้อนแล้วก็ก้อนนิ่วที่มีขนาดเล็กมากมายๆอาจหลุดออกไปพร้อมทั้งการขับปัสสาวะโดยไม่นำไปสู่อาการหรือความรู้สึกปวดอะไรก็แล้วแต่ลักษณะของนิ่วในไตอาจไม่ปรากฏให้มองเห็นจนกว่าก้อนนิ่วเริ่มเคลื่อนตัวบริเวณไตหรือไปยังท่อไต ซึ่งเป็นท่อเชื่อมต่อระหว่างไตและกระเพาะปัสสาวะ นำมาซึ่งการทำให้คนป่วยที่มีนิ่วในไตอาจมีอาการกลุ่มนี้ตามมา อย่างเช่น ปวดบริเวณหลังหรือท้องข้างล่างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง บางทีอาจเจ็บปวดรวดร้าวลงไปถึงบริเวณขาหนีบ  มีอาการปวดบีบเป็นระยะ และก็ปวดรุนแรงเป็นระยะๆที่รอบๆดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว เยี่ยวเป็นเลือด หรืออาจมีสีแดง ชมพู รวมทั้งน้ำตาล  เยี่ยวแล้วเจ็บ  ปวดท้องเยี่ยวหลายครั้ง  ปัสสาวะน้อย  เยี่ยวขุ่นหรือมีกลิ่นฉุน อ้วก อาเจียน หนาวสั่น เจ็บป่วย และก็ถ้าเกิดก้อนนิ่วมีขนาดเล็กและตกลมมาที่ท่อไต จะทำให้กำเนิดอาการปวดบิดในท้องรุนแรง เรียกว่า “นิ่วในท่อไต” ผู้เจ็บป่วยจะมีลักษณะอาการเคืองเวลาเยี่ยว อยากฉี่ แม้กระนั้นเยี่ยวขัด ทีละน้อย ในเรื่องที่มีการติดเชื้อโรคเข้าแทรกจะมีอาการไข้ร่วมด้วย ถ้าหากปล่อยให้เป็นนิ่วไปนานๆโดยมิได้รับการดูแลและรักษาจะก่อให้ไตบาดเจ็บเรื้อรัง ส่งผลให้ไตมีรูปร่างและปฏิบัติงานผิดปกติเพิ่มมากขึ้นรวมทั้งนำมาซึ่งสภาวะไตวายสุดท้าย
แนวทางการรักษานิ่วในไต  แพทย์วิเคราะห์นิ่วในไตได้จากประวัติอาการ การตรวจร่างกาย การตรวจฉี่ แล้วก็อาจมีการตรวจอื่นๆเพิ่มขึ้นกับอาการผู้เจ็บป่วยและก็ดุลพินิจของหมอ ดังเช่น



การรักษานิ่วในไตขนาดเล็ก  การดูแลและรักษานิ่วขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 5 มิลลิเมตร อาจทำได้ด้วยการกินน้ำมากมายๆเพื่อช่วยขับก้อนนิ่วออกมาพร้อมปัสสาวะ และควรดื่มให้มากพอ (วันละ 8 – 10 แก้ว) จนถึงฉี่เจือจางเยี่ยวเป็นสีใสๆนิ่วอาจหลุดลงมาเป็นนิ่วในทอไต แม้กระนั้น ถ้าคนไข้ด้วยนิ่วจำพวกนี้มีอาการ หมอบางทีอาจตรึกตรองให้ผ่าตัดเอาก้อนนิ่วออกได้ด้วยเหมือนกัน
ถ้าหากกำเนิดก้อนนิ่วเล็กๆที่กระตุ้นให้เกิดความเจ็บ แพทย์อาจใช้ยาเพื่อทุเลาลักษณะของการปวด เป็นต้นว่า ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) อะเซตามิโนเฟ่น (Acetaminophen) หรือที่รู้จักในชื่อพาราเซตามอล และที่นาพรอกเซน (Naproxen)
นอกนั้น การใช้ยาช่วยขับก้อนนิ่วก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนการรักษา หมออาจสั่งจ่ายยากลุ่มแอลฟา-บล็อกเกอร์ (Alpha Blocker) ซึ่งเป็นยาช่วยขับก้อนนิ่วออกมาทางฉี่ ออกฤทธิ์โดยทำให้กล้ามเนื้อบรรเทา ทำให้ให้ก้อนนิ่วในไตถูกขับออกมาได้เร็วรวมทั้งเจ็บน้อยกว่า
การดูแลรักษานิ่วในไตขนาดใหญ่ ก้อนนิ่วที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 มม.ขึ้นไปสามารถทำให้มีเลือดออก รวมทั้งอาจจะทำให้มีการเกิดแผลที่ท่อไตหรือการต่อว่าดเชื้อในระบบทางเท้าฉี่ จนไม่สามารถที่จะหลุดมาเองได้ หมออาจจำเป็นต้องใช้การรักษาชนิดอื่นๆดังต่อไปนี้

(https://www.img.in.th/images/38725d6c07ce69de3f0bff7e27e54ec7.jpg)
สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดนิ่วในไต



การติดต่อของนิ่วในไต  นิ่วในไตเป็นโรคที่เกิดจากการตกตะกอนของธาตุต่างๆและแคลเซียม (หินปูน) เป็นก้อนผลึกขนาดต่างๆตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย เป็นต้นว่า ถุงน้ำดี แล้วก็ ระบบทางเท้าปัสสาวะของร่างกาย ซึ่งขาดการติดต่อจากคนสู่คนหรือจากสัตว์สู่คนอะไร
การกระทำตนเมื่อเป็นนิ่วในไต การดูแลตนเองเมื่อเป็นนิ่วในไตและก็เพื่อป้องกันนิ่วถอยกลับเป็นซ้ำข้างหลังรักษานิ่วหายแล้ว เป็นต้นว่า



การคุ้มครองตนเองจากนิ่วในไต ช่วงอายุที่เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วสูงสุดเป็น 40-60 ปี และอัตราการเกิดเป็นนิ่วซ้ำ พบสูงถึงจำนวนร้อยละ 50 ด้านใน 5 ปี การปฏิบัติตนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว หรือการเกิดนิ่วซ้ำ ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

ตารางที่ 1 แสดงปริมาณกรดออกซาลิคในผักต่อน้ำ หนักผัก 100 กรัม
           ชื่อผัก                    ปริมาณกรดออกซาลิค ชื่อผัก            ปริมาณกรดออกซาลิค
                                    (มิลลิกรัม)                                            (มิลลิกรัม)
ผักชีฝรั่ง (parsley)               1,700                           หัวไชเท้า                        480
มันสำปะหลัง                       1,260                           ใบกระเจี๊ยบ                    389.5
ใบชะพลู                              1,088.4                        ใบยอ                            387.6
ผักโขม (amaranth)             1,090                           ผักปัง                            385.3
ผักโขม (spinach)                 970                              ผักกระเฉด                     310
ยอดพริกชี้ฟ้า                        761.7                           ผักแพงพวย                   243.9
แครอท                                500                              กระเทียม                       360

สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครอง/รักษานิ่วในไต
กระเจี๊ยบแดง Hibiscus sabdariffa L.



ขทาง Pluchea indica (L.) Less.



ตะไคร้   Cymbopogon citratus  Stapf



ทานตะวัน    Helianthus annuus  L.



สับปะรด    Ananas comosus  (L.) Merr.

เอกสารอ้างอิง