รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: กาลครั้งหนึ่ง2560 ที่ เมษายน 12, 2018, 08:47:59 AM

หัวข้อ: โรคมือเท้าปาก - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: กาลครั้งหนึ่ง2560 ที่ เมษายน 12, 2018, 08:47:59 AM
(https://www.img.in.th/images/9cd86b1b740e69145d8352166d1af692.md.jpg)
โรคมือเท้าปาก  (Hand Foot and Mouth  disease – HFMD)
โรคมือเท้าปาก (http://www.disthai.com/16828313/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81-hand-foot-and-mouth-disease-hfmd) คืออะไร โรคมือ-เท้า-ปาก ไม่สบายออกผื่นที่ต่อเนื่องกันง่าย แม้กระนั้นมักไม่รุนแรงแล้วก็หายได้เองเป็นส่วนมาก ส่วนน้อยที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง ซึ่งโรค มือเท้าปาก เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในเด็กตัวเล็กๆ โดยยิ่งไปกว่านั้นตอนหน้าฝน มักเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากไวรัสกลุ่ม Enterovirus  แม้กระนั้นในแถบร้อนชื้น พบบ่อยได้ทั้งปีโดยส่วนมากแล้ว พบบ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปีแต่ว่าอาจเจอในเด็กแก่กว่านี้ก็ได้ และก็แม้มีการเกิดโรคในสถานเลี้ยงเด็กหรือในโรงเรียนสำหรับสอนเด็กอนุบาล ก็จะพบผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นเนื่องจากโรคนี้ระบาดได้ง่าย
                อนึ่งโรคนี้เป็นโรคคนละประเภทกับโรคปากยุ่ยเท้าเปื่อยยุ่ยที่พบได้ในสัตว์กีบคู่ ซึ่งโดยปกติจะไม่ติดต่อมาสู่คน ยกเว้นในกรณีที่คนไปสัมผัสคลุกคลีอยู่กับสัตว์ที่ป่วยหรือผู้ที่ดำเนินงานในห้องแลปเกี่ยวกับโรคในสัตว์พวกนี้ ที่อาจมีรายงานการติดเชื้อได้บ้าง
                ที่จริงแล้ว โรคมือ เท้า ปาก ว่าไม่ใช่โรคใหม่ แต่ว่ารู้จักกันมานานมากกว่า 50 ปีแล้ว  โดยมีประวัติที่มาที่ไปของโรค ดังนี้



ต่อไปก็มีรายงานการระบาดจากประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งไวรัสที่กระตุ้นให้เกิดกลุ่มอาการมือ เท้า ปาก ไม่ได้มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสประเภทเดียวแต่ว่ามีมากกว่า 10 สายพันธุ์
ในการระบาดใหญ่ของกรุ๊ปอาการของโรคมือ เท้า ปาก พบว่ามีรายงานตั้งแต่ พ.ศ.2540-2555 มีดังนี้



สำหรับสถานการณ์โรคมือเท้าปากในประเทศไทย อ้างอิงข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในปี 2558 มีคนเจ็บทั้งหมด 40,417 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 62.21 ต่อประชาชน 1 แสนคน แล้วก็มีผู้ป่วยเสียชีวิต 3 ราย ส่วนในปี 2559 ข้อมูลปัจจุบันในวันที่ 28 มีนาคม 2559 มีคนป่วย 8,973 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 13.78 ต่อประชากร 1 แสนคน แล้วก็ยังไม่มีผู้ตาย
ตั้งแต่เริ่มมีการตรวจพบเชื้อ EV71 ในคนไข้โรค HFMD ในปี2541 ในประเทศไทยก็เริ่มมีการเฝ้าระวังรายงานและไต่สวนผู้เจ็บป่วยสงสัยติดเชื้อ EV71 และก็คุ้มครองปกป้องควบคุมโรคตั้งแต่นั้นมา พบว่าผู้ป่วยจำนวนมากเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปีรวมทั้งราวๆกึ่งหนึ่งติดโรค EV71 ที่มีลักษณะไม่รุนแรง
ส่วนในด้านรายงานการแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากจากสำนักระบาดวิทยา พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนมกราคม ถึง 1 ม.ย. 2559 มีการระบาดเป็นกลุ่มเป็นก้อนทั้งยังตามโรงเรียนรวมทั้งในชุมชน 8 สถานะการณ์ จากจำนวนคนป่วย 22 ราย ดังนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำให้โรงเรียนประพฤติตามมาตรการที่กรมควบคุมโรคกำหนด เพื่อคุ้มครองปกป้องการเกิดโรคและการแพร่ระบาดของโรค
ที่มาของโรคมือเท้าปาก โรคมือเท้าปากเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการตำหนิดเชื้อกลุ่มไวรัสเอนเทอโร (Enterovirus) ซึ่งมีอยู่ร่วมกันมากมายสาย ตัวอย่างเช่น ค็อกแซคกีเอและบี (Coxsackie A, B), ไวรัสเอนเทอโรชนิด 71 (Enterovirus 71 – EV71) มูลเหตุที่พบได้ทั่วไปที่สุดก็คือการระบาดจากการตำหนิดเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 16 (Coxsackievirus A 16) ซึ่งอาการมักจะไม่ร้ายแรง รวมทั้งผู้ป่วยมักจะหายได้เองเป็นส่วนใหญ่ ส่วนสาเหตุที่เจอได้น้อยรวมทั้งมีลักษณะอาการร้ายแรงหมายถึงการต่อว่าดเชื้อไวรัสเอนเทอโรชนิด 71 ซึ่งอาจก่อให้ผู้เจ็บป่วยเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ นอกจากนี้โรคมือเท้าปากยังบางทีอาจกำเนิดได้จากเชื้อไวรัสค็อกแซคกีเอชนิด 5, 7, 9, 10 รวมทั้งเชื้อไวรัสค็อกแซคกีบีชนิด 2 และก็ 5 ได้บ้าง
                ซึ่งโรคนี้จำนวนมากชอบต่อเนื่องกันที่เกิดจากการกินของกิน น้ำกิน การดูดเลียนิ้วมือ หรือของเล่นเด็กที่ปนเปื้อนเชื้อที่ออกมากับอุจจาระ น้ำเหลืองจากตุ่มน้ำที่ผิวหนัง หรือละอองน้ำมูก น้ำลายของคนไข้ ส่วนน้อยที่ติดต่อโดยการดมเอาฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายที่ผู้ป่วยไอหรือจามรด  ซึ่งเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้ว โดยประมาณ 3-6 วัน ผู้ป่วยจึงจะมีลักษณะอาการ
อาการโรคมือเท้าปาก  หลังจากติดเชื้อ 3-7 วัน คนเจ็บจะเริ่มออกอาการเริ่มต้นหมายถึงเป็นไข้ตํ่าๆประมาณ 38-39o C และมีอาการปวดเนื้อปวดตัวเวลานี้จะมีระยะเวลา ประมาณ 1-2 วัน แล้วจะเริ่มมีลักษณะเจ็บปาก ตรวจร่างกายจะเจอมีรอยโรคในบริเวณปาก มือแล้วก็เท้าได้ดังต่อไปนี้



จำนวนร้อยละ 80 ของคนป่วยลักษณะของการเจ็บปากจะไม่รุนแรงแล้วก็หายได้เองโดยไม่ต้องรักษาด้านใน 5-10 วัน



อาจเกิดขึ้นพร้อมรอยโรคที่ปาก หรือต่อจากนั้นน้อยจํานวนตั้งแต่ 2-3 แห้งไปจนถึง 100 แห่ง พบ ที่มือหลายครั้งกว่าเท่า ลักษณะเป็นรอยแดงๆอาจนูนเล็กน้อยขนาด 2-10 มม. กึ่งกลางสีเทา บางรอยโรคมี ลักษณะเป็นตุ่มนํ้าใสขอบแดง มีกระจายขนานไปกับแนวของผิวหนังอาจเจ็บหรือไม่ก็ได้จากนั้น 2-3 วัน จะ เริ่มตกสะเก็ด รวมทั้งเบาๆหายไปข้างใน 7-10 วัน โดยไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลือ
บริเวณอื่นๆที่บางทีอาจเจอรอยโรคได้เหมือนกัน คือ ตูด แขน ขา และอวัยวะสืบพันธุ์ในเด็กทารกบางทีอาจเจอ กระจายทั่วตัวได้
โดยธรรมดาโรคมือเท้า ปากตะไกรว่ามีอาการน้อยส่วนใหญ่มักมีเพียงแต่ไข้ปวดเหมื่อยตามเนื้อตามตัวแล้วก็เจ็บปาก แต่ว่า ในผู้เจ็บป่วยบางรายบางทีอาจพบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการติดเชื้อ enterovirus 71 ปัจจัยเสี่ยงต่อ การเจอภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง คือ



ซึ่งสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในข้อ 2 แล้วก็ 3 จากการค้นคว้าที่โรงพยาบาลเด็ก Chang Gung ประเทศไต้หวัน พบว่า ชมรมกับการตำหนิดเชื้อ EV มากยิ่งกว่า Cox A  โดยมักจะทำให้เกิดภาวะเข้าแทรก/ทางระบบประสาท ระบบหัวใจ รวมทั้งปอดได้สูง ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างเร็วจากสภาวะปอดบวมน้ำ เลือดออกในปอด และภาวะช็อก
อย่างไรก็แล้วแต่เชื้อคอกแซคก็เชื้อไวรัส เอ 16 ก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกคือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อห่อหัวใจอักเสบ แล้วก็สภาวะช็อกได้ แต่พบได้น้อยกว่าจากเชื้อ เอนเทอโรไวรัส 71 มากมาย
ปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมือเท้าปาก

แนวทางการรักษาโรคมือ เท้าปาก การวินิจฉัยโรคมือเท้าปากโดยทั่วไปใช่อาการและอาการแสดงเป็นสําคัญ (clinical diagnosis) โดยแพทย์จะตรวจร่างกายหารอยโรคจําเพาะที่บริเวณมือเท้า ปากร่วมกับมีไข้ ได้แก่  ผู้ป่วยมีไข้ 38 – 39 องศาเซลเซียส  พบจุดนูนแดง ตุ่มน้ำใส หรือ แผลที่เยื่อบุปาก ลิ้น และเหงือก พบจุดแดงราบ ตุ่มนูน หรือตุ่มน้ำที่มือ เท้า ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และแก้มก้น
การตรวจรอยโรคที่ผิวหนัง (cutaneous lesion) ทางพยาธิวิทยา(histology) จะพบเม็ดเลือดขาวชนิด neutrophil และ lymphocyte เพิ่มขึ้น แต่จะไม้พบmultinucleated giant cell หรือ inclusion body 11 สําหรับในกรณีที่ต้องการทราบชนิดของเชื้อไวรัสที่ก้อโรค สามารถทําได้โดยการแยกเชื้อไวรัส หรือตรวจ ร่องรอยการติดเชื้อจากนํ้าเหลือง สําหรับประเทศไทยใช้วิธี micro-neutralization หากพบผู้ป่วยในข่ายสงสัยให้ เก็บตัวอย่างดังนี้



โรคมือเท้าปากไม่มีวัคซีนหรือยาสำหรับรักษาโรคโดยตรง การรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการ เช่นการให้ยาลดไข้ paracetamol หรือให้ยาบ้วนปากเพื่อช่วยลดอาการเจ็บของแผลในช่องปาก ถ้าตุ่มกลายเป็นหนองหรือพุพองก็จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี อะม็อกซีซิลลิน อีริโทรไมซิน เป็นต้น ถ้ามีภาวะขาดน้ำเนื่องจากกินและดื่มไม่ได้ ก็จะให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ก็จำเป็นต้องรับเด็กไว้รักษาในโรงพยาบาลหรือส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ.2539 มีการศึกษาที่ Medical College of Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการทดลองใช้ acyclovir ในการรักษาผู้ป่วยโรคมือเท้า ปาก 13 รายซึ่ง 12 รายเป็นเด็กอายุ 1-5 ปีและอีก 1 รายเป็นผู้ใหญ่ โดยเริ่มใช้ยา acyclovir ภายใน 1-2 วัน หลังเริ่มมีรอยโรคพบว่าอาการของผู้ป่วยดีขึ้น และรอยโรคเปลี่ยนแปลงดี ขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังเริ่มรักษา ได้ให้ acyclovir ต่ออีก 5 วันจนรอยโรคหายไปหมด ผู้ศึกษาเชื่อว่า acyclovir อาจไปยับยั้งเอนไซม์ thymidine kinase ของ Cox A16แต่ก็อาจมีประโยชน์ ด้านอื่นด้วยเช่น อาจทําให้ผู้ป่วยสร้าง interferon เพื่อยับยั้งไวรัสมากขึ้น15 อย่างไรก็ดียังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้ acyclovir ในการ ลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
และหลังจากการติดเชื้อผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสที่ก่อโรค แต่อาจเกิดโรคมือเท้า ปากซํ้าได้จาก enterovirus ตัวอื่นๆ
การติดต่อของโรค มือ เท้า ปาก  โรคมือเท้าปากสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากตุ่มน้ำใส หรือสารคัดหลั่งจากจมูกและปากอันได้แก่ น้ำมูก เสมหะ หรือน้ำลาย นอกจากนี้แล้วไวรัสยังสามารถพบได้ในอุจจาระ โดยไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ตั้งแต่ในระยะแรกที่แสดงอาการโดยช่วงที่มีการแพร่กระจายมากที่สุด คือ สัปดาห์แรกที่ผู้ป่วยมีอาการและอาจจะยังพบได้อีกหลายสัปดาห์ในอุจจาระของผู้ป่วยที่หายจากอาการของโรคแล้ว นอกจากนี้แล้วในผู้ใหญ่อาจจะสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสได้โดยไม่แสดงอาการใดๆ ซึ่งการได้รับไวรัสอาจเป็นการได้รับโดยตรงเช่นจากการไอหรือจาม หรืออาจจะได้รับไวรัสโดยอ้อมโดยการสัมผัสกับพื้นผิวหรือสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสอยู่ เช่นในสถานรับเลี้ยงเด็กซึ่งอาจมีของเล่นหรือของใช้เด็กที่ปนเปื้อนน้ำลายเนื่องจากเด็กเล็กมักชอบนำสิ่งของเข้าปาก  ดูดเลียนิ้วมือ รวมถึงจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ มือของผู้เลี้ยงดูเด็กที่ไม่สะอาด เป็นต้น  เนื่องจากโรคมือเท้าปากมักพบในเด็กเล็ก ดังนั้นการระบาดมักพบในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือตามโรงเรียนอนุบาล  เชื้อเอนเทอโรไวรัสสามารถทนสภาวะกรดในทางเดินอาหารมนุษย์ได้ และมีชีวิตอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ 2-3วัน
โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเย็นหรือชื้นแฉะเชื้ออาจอยู่ได้เป็นเดือน  นอกจากนี้ การทำลายเชื้อต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม น้ำยาฆ่าเชื้อทั่วๆ ไปบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ ๗๐ เปอร์เซ็นต์และแอลกอฮอล์เจลใช้ป้องกันไวรัสไข้หวัดได้ แต่สำหรับเชื้อไวรัสเอนเทอโร แอลกอฮอล์ไม่มีผลโดยตรง
การปฏิบัติตนเมื่อป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่จำเป็นต้องให้ยารักษาจำเพาะ เพียงแต่ให้การดูแลตามอาการ และเฝ้าติดตามอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด โดยมีวิธีปฏิบัติ ดังนี้

(https://www.img.in.th/images/d85d64ba2400468569e72361ef745dd5.jpg)
การปกป้องตนเองจากโรคมือเท้าปาก



สมุนไพรที่ใช้รักษา/บรรเทาลักษณะโรคมือเท้าปาก สมุนไพรซึ่งสามารถประยุกต์ใช้บรรเทาอาการของโรคมือเท้าปากนั้นมีดังนี้ แม้มีแผลในปากก็สามารถใช้กลีเซอรีนพญายอหยอดรอบๆแผลได้ ด้วยเหตุว่าในใบพญายอมีสารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ ทำให้แผลหายเร็วขึ้นแล้วก็ปลอดภัย ไม่เป็นผลข้างๆ
            สมุนไพรในโรค มือ-เท้า-ปากเป็นฟ้าทลายขโมย (Andrographis paniculata (Burm.F.) Nees.) เป็นงานวิจัยที่ทำในประเทศจีน โดยนักวิจัยได้สกัดสารสำคัญของฟ้าทลายขโมยและก็ทำให้อยู่ในรูปแบบของยาฉีดเป็นAndrographolide Sulfonate injection
งานศึกษาเรียนรู้นี้ทำในเด็กที่เป็นโรค มือ-เท้า-ปาก อายุ 1-13 ปี จำนวน 230 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะได้รับการดูแลรักษาแบบแผนเดิมร่วมกับ สารสกัดฟ้าทะลายมิจฉาชีพในแบบบาฉีด (Andrographolide Sulfonate injection) อีกกลุ่มจะได้รับการดูแลรักษาแบบแผนเดิม โดยติดตามผล 7-10 วัน ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยพบว่า กรุ๊ปแรกจะเจออาการสอดแทรกแบบรุนแรงน้อยกว่ากรุ๊ปลำดับที่สองอย่างเป็นจริงเป็นจัง นอกเหนือจากนี้ยังส่งผลให้ไข้ต่ำลงได้เร็วขึ้น ทำให้แผลที่ผิวหนังและก็แผลในปากหายมากยิ่งกว่ากรุ๊ปหวานใจษาแบบแผนเดิม และไม่พบการเสียชีวิตรวมถึงผลกระทบที่ร้ายแรงในกลุ่มทดลองอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง