รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: BeerCH0212 ที่ เมษายน 03, 2018, 06:00:59 AM

หัวข้อ: โรคริดสีดวงทวาร - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: BeerCH0212 ที่ เมษายน 03, 2018, 06:00:59 AM
(https://www.img.in.th/images/97ce78851419763311a74e5da4ae8275.jpg)
โรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids/Piles)
โรคริดสีดวงทวาร (http://www.disthai.com/16865414/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A3-hemorrhoidspiles) เป็นอย่างไร โรคริดสีดวงทวาร มาจากคำสองคำประสมกัน คือคำว่า "ริดสีดวง" + "ทวาร"   คำว่า "ริดสีดวง" จะหมายถึง เรื่องผิดปกติที่เป็นติ่ง หรือเนื้อยื่นออกมาจากร่างกาย ซึ่งนิยมใช้เรียกโรคริดสีดวง ที่เกิดขึ้นที่ทวารหนักเสียเป็นส่วนใหญ่ กระทั่งบางเวลาจะเรียกสั้นๆว่า  ริดสีดวงž ก็เป็นที่เข้าใจว่าเป็นโรคริดสีดวงของทวารหนัก
                ในอดีตมีอีกโรคหนึ่งที่ใช้คำว่าริดสีดวงเช่นเดียวกัน คือโรคริดสีดวงของจมูก ซึ่งหมายถึง เนื้องอกไม่ปกติในโพรงจมูก พบบ่อยในผู้เจ็บป่วย โรคภูมิแพ้ประเภทเรื้อรัง ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่นิยมเรียกว่าริดสีดวงจมูกแล้ว แต่ว่าจะเรียกเนื้องอกในโพรงจมูกแทน
โรคริดสีดวงทวาร ก็คือ โรคจากการอักเสบ และการบวมของกลุ่มเยื่อหลอดเลือด ที่อยู่ข้างในทวารหนักรวมทั้งบริเวณปากทวารหนัก โดยเยื่อกลุ่มนี้มีบทบาทช่วยป้องกันเนื้อเยื่อทวารหนักในช่วงมีการขับถ่ายอุจจาระ รวมทั้งช่วยให้ปากทวารหนักปิดสนิทตอนไม่ปวดอุจจาระ
โดยริดสีดวงทวารจะเกิดความผิดปกติขึ้นในส่วนของรูทวารหนัก ที่เรียก ว่า หมอนรอง หรือ เบาะรอง (Cushion) หมอนรองจะอยู่ลึกเข้าไป ประมาณ 3-4 เซลเซียสมัธยม ลักษณะเป็นก้อนนูนออกมา ข้างในมี เส้นเลือดและกล้ามเนื้อ ซึ่งจะต่อกับกล้ามหูรูดทวารหนักและอยู่ใต้ ต่อจากเยื่อบุทวารหนัก ริดสีดวงทวารหนักเกิด จากการเคลื่อนลงมาของหมอนรองมีการยืดตัวของกล้ามรวมทั้งการ โป่งพองของกลุ่มเส้นเลือดและเนื้อเยื่อบริเวณส่วนปลายของลำไส้ตรง ในคนธรรมดาจะมีริดสีดวง (hemorrhoid tissue) ทุกคน โดยจะอยู่บริเวณ ส่วนล่างของทวารหนัก เยื่อริดสีดวงจะมีอยู่ 3 กรุ๊ปใหญ่ๆเมื่อบวมหรืออักเสบจะมีพยาธิสภาพเป็น หัวริดสีดวง แล้วอาจมีการปริแตกของผนังเส้นโลหิตในขณะเบ่งอุจจาระ ก็เลยทำให้มีเลือดออกเป็นบางครั้ง โดยชอบมีลักษณะของโรคเกิดขึ้นในเวลาท้องผูกหรือเกิดท้องเสียหลายครั้ง ธรรมดาแล้วจะไม่ค่อยมีลักษณะอาการร้ายแรงหรืออันตราย โดยบางครั้งก็อาจจะเป็นๆหายๆเรื้อรัง ทำให้น่าเบื่อ หรือทำให้วิตกกังวลได้
โรคริดสีดวงทวาร แบ่งออกเป็น 2 จำพวก คือ



โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคพบได้ทั่วไป ในสหรัฐฯพบคนเจ็บมีอาการจากโรคนี้ได้ราว 5% ของสามัญชนคนแก่ทั้งปวง โดยเจอได้สูงในช่วงอายุ 45-65 ปี โดยสตรีแล้วก็ผู้ชายมีโอกาสกำเนิดโรคได้ใกล้เคียงกันสาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร  เกิดขึ้นจากกรุ๊ปเยื่อเส้นเลือดดังที่กล่าวมาข้างต้นได้รับบาดเจ็บ หรือมีการหมุนวนเลือด ไม่ดีจากปัจจัยต่างๆกระทั่งนำมาซึ่งการโป่งพอง บวม อักเสบ หรือกำเนิดมีลิ่มเลือดในกลุ่มเนื้อเยื่อดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งต้นเหตุ ส่วนมากมีต้นเหตุมาจากการเบ่งอึเป็นประจำนานๆซึ่งได้ผลสำเร็จของท้องผูก การตั้งครรภ์ ความประพฤติปฏิบัติการดำรงชีวิต และก็ลักษณะของการถ่ายอุจจาระ ซึ่งการเบ่งอุจจาระเสมอๆนานๆจะมีผลเพิ่มระดับแรงดันในท้อง ทำให้การไหลเวียนของโลหิตในหลอดเลือดดำรอบๆทวารหนักไม่สะดวก เกิดการยืด ร่น คด งอ พอง รวมทั้งโตขึ้นเป็นติ่งเนื้อ เหมือนกับการเป่าเพิ่มเติมลมเข้าไปในลูกโป่ง เมื่อลูกโป่งโตขึ้น ก็จะมีความครึ้มของผนังลดลง เมื่อใดก็ตามที่มีของแข็งๆมาเสียดสี อย่างเช่น อุจจาระแข็งๆหรือเพิ่มระดับแรงดันขึ้นอีก ก็จะทำให้เกิดการปริแตกหรือฉีกให้ขาดของหลอดเลือดดำ นำมาซึ่งเลือดออกมาเป็นเลือดใหม่ๆได้
     นอกจากการเบ่งอึนานๆซึ่งเป็นสาเหตุ หลักแล้ว ยังพบว่าระดับความดันโลหิตในตับที่สูง (ซึ่งเกิดได้จากความอ้วน หรือโรคตับ) อายุที่มากขึ้น อาการท้องเดินเรื้อรังยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของโรคริดสีดวงทวารได้อีกด้วย
ลักษณะของโรคริดสีดวงทวารภายใน คือ ผู้ป่วยส่วนมากชอบมีอาการเลือดออกทางทวารหนัก โดยไม่รู้จักสึกเจ็บปวดอะไร ซึ่งจะเกิดขึ้นในระหว่างหรือหลังถ่ายอุจจาระเสร็จ เลือดที่ออกมานั้นจะมีลักษณะเป็นเลือดสีแดงสด ออกปนมากับอุจจาระ หรือมีเลือดไหลหยดลงในโถส้วม และบางทีอาจสังเกตว่ามีเลือดสกปรกบนกระดาษชำระ เลือดจะออกมาในลักษณะอาบก้อนอุจจาระ ไม่มีมูกปน และเลือดชอบหยุดไหลได้เอง ซึ่งอาการเหล่านี้จะมีลักษณะเป็นๆหายๆถ้ามีเลือดออกมากหรือเป็นเรื้อรัง อาจจะก่อให้กำเนิดอาการซีดตามมาได้ ในรายที่เป็นมาก หลอดเลือดจะบวมมากมาย ทำให้หัวริดสีดวงโผล่ออกมานอกปากทวารหนัก หรือมองเห็นเป็นก้อนเนื้อนุ่มๆปลิ้นโผล่ออกมา ซึ่งในสภาวะเช่นนี้จะทำให้เกิดอาการปวดหรือเจ็บที่ทวารหนักได้ ในบางรายอาจจะก่อให้กำเนิดอาการคันแล้วก็อาการกลั้นอุจจาระไม่อยู่ได้ด้วยเหมือนกัน
ดังนี้ โดยธรรมดาแบ่งความร้ายแรงของโรคริดสีดวงภายใน เป็น 4 ระดับตามความรุนแรง ดังเช่นว่า



รวมทั้งจำเป็นที่จะต้องรีบเจอหมอเป็นการฉุกเฉิน ก่อนที่จะก้อนเนื้อจะเน่าตายจากการขาดเลือด
อาการโรคริดสีดวงข้างนอก คือ มีติ่งเนื้อสีชมพูคล้ำออกมาจากปากทวารหนักเมื่อมีลักษณะท้องผูกหรือท้องเสีย ทำให้คนไข้มีอาการปวด บวม เจ็บ และระคาย และก็แม้มีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในเส้นโลหิตที่โป่งพองจะทำให้กำเนิดลักษณะของการปวด บวม เจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าชอบไม่ค่อยพบว่ามีเลือดออกจากติ่งเนื้อนี้ ซึ่งปกติแล้วชอบหายเจ็บได้ข้างใน 2-3 วัน อย่างไรก็ดี กว่าจะหายบวมบางทีอาจต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 2-3 สัปดาห์ เมื่อหายก็ดีแล้วบางทีอาจจะยังมีผิวหนังเป็นติ่งคงเหลือ และก็ถ้าหัวริดสีดวงมีขนาดใหญ่ก็อาจทำให้มีการระคายเคืองหรือคันบริเวณรอบปากทวารหนักได้ด้วย
ขั้นตอนการรักษาโรคริดสีดวงทวาร หมอจะวินิจฉัยโรคริดสีดวงทวารได้จาก ประวัติอาการ การตรวจร่างกาย การตรวจก้อนเนื้อรอบๆทวารหนัก แล้วก็การส่องกล้องตรวจทวารหนักและก็ลำไส้ตรง ในบางครั้งอาจมีการตัดชิ้นเนื้อเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา เมื่อจำต้องแยกจากโรคมะเร็ง โดยหมอจะวินิจฉัยในอาการสำคัญๆกลุ่มนี้เป็นพิเศษ เป็นต้นว่า



แนวทางการรักษาโรคริดสีดวงทวาร ตัวอย่างเช่น ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของโรคริดสีดวงทวาร รวมทั้งการใช้ยาต่างๆยกตัวอย่างเช่น ยาทาลดอาการคัน ยาเหน็บทวารลดอาการบวม ปวด และยาพารา ฯลฯ แต่ว่าเมื่อการดูแลและรักษาในลักษณะประคับประคองไม่ได้ผล การรักษาขั้นถัดไป คือ การรักษาทางศัลยกรรม ที่มีหลายรูปแบบ ดังเช่นว่า การจี้ด้วยไฟฟ้า หรือ เลเซอร์ การฉีดยาเข้าหลอดเลือด เพื่อเส้นโลหิตยุบยุบ การมัดเส้นเลือด หรือการผ่าตัดเส้นเลือด ดังนี้ สังกัดความรุน แรงของโรค ข้อบ่งชี้ และดุลยพินิจของแพทย์ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้



ปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่โรคริดสีดวงทวาร สาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคริดสีดวง



การติดต่อของโรคริดสีดวงทวาร โรคริดสีดวงทวาร (http://www.disthai.com/16865414/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A3-hemorrhoidspiles)เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบ แล้วก็การบวมของเนื้อเยื่อหลอดเลือดของทวารหนัก รวมทั้งเมื่อมีของแข็งๆมาเสียดสี หรือมีการเพิ่มระดับแรงกดดันในท้องขึ้น ก็เลยนำมาซึ่งอาการต่างๆของโรคริดสีดวงทวารขึ้น ซึ่งโรคริดสีดวงทวารนี้มิได้เป็นโรคติดต่อแต่อย่างได
การกระทำตนเมื่อมีอาการป่วยเป็นโรคริดสีดวงทวาร

(https://www.img.in.th/images/e90d5c64328553c631aeb647af47ffac.jpg)
การคุ้มครองตัวเองจากโรคริดสีดวงทวาร

สมุนไพรที่ช่วยปกป้อง/รักษาโรคริดสีดวงทวาร
เพชรสังฆาต
ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Cissus quadrangularis  L.
วงศ์ :   Vitaceae
สารเคมี :  เถา มีผลึก calcium oxalate รูปเข็มจำนวนไม่ใช่น้อยต้นสด 100 กรัม ประกอบด้วย carotene 267 มก., ascorbic acid (Vitamin C.) 398 มิลลิกรัม
คุณประโยชน์ :  เถา – ใช้เป็นยาแก้ริดสีดวงทวารหนัก
แก้ริดสีดวงทวาร  ใช้เถาสด 2-3 องคุลีต่อหนึ่งมื้อ รับประทานใหม่ๆถ้าบดจะคันปากคันคอ เพราะในสมุนไพรนี้จะมีสารเป็นผลึกรูปเข็มอยู่มาก เป็นสารแบบเดียวกับที่พบในต้นบอน ต้นเผือก การกินก็เลยใช้สอดไส้ในกล้วยสุก หรือมะขาม แล้วกลืนลงไป กิน 10-15 วัน จะเห็นผล
ครอบฟันสี
ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Abutilon indicum (L.) Sweet
ชื่อสามัญ :   Country mallow, Indian mallow
วงศ์ :   Malvaceae
ราก มี Asparagin
คุณประโยชน์ : ราก - เจ็บท้อง ท้องเสีย ริดสีดวงทวาร ขับเยี่ยว
แก้ริดสีดวงทวาร  ใช้ราก 150 กรัม ต้มเอาน้ำข้นๆดื่มราว 1 ถ้วยชา ที่เหลืออุ่นเอาไอรมที่ก้นพออุ่นๆทนได้ ใช้รมวันละ 5-6 ครั้ง เอาน้ำอุ่นๆล้างแผลริดสีดวงทวาร
ขลู่
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Pluchea indica  (L.) Less.
ชื่อสามัญ :  Indian Marsh Fleabane
ตระกูล :   Asteraceae (Compositae)
คุณประโยชน์ :
ทั้งยังต้นสด หรือแห้ง - ปรุงเป็นยาต้มกินขับปัสสาวะ แก้โรคนิ่วในไต แก้ฉี่พิการ แก้ริดสีดวงทวารหนัก ริดสีดวงจมูก
เปลือก ใบ เมล็ด  - แก้ริดสีดวงทวาร ริดสีดวงจมูก
ใบ - มีกลิ่นหอมยวนใจ แก้ริดสีดวงทวาร
ยาริดสีดวงทวาร ใช้เปลือกต้น ต้มน้ำ เอาไอรมทวารหนัก รวมทั้งรับประทาน แก้โรคริดสีดวงทวาร หรือใช้เปลือกต้น (ขูดเอาขนออก) แบ่งเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 เอามาตากแห้ง ทำเป็นยาสูบ
ส่วนที่ 2 นำมาต้มน้ำกิน
ส่วนที่ 3 ต้มน้ำเอาไปรมทวารหนัก
ว่านหางจระเข้
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aloe vera  (L.)  Burm.f.
ชื่อพ้อง : Aloe barbadensis  Mill
ชื่อสามัญ :  Star cactus, Aloe, Aloin, Jafferabad, Barbados
ตระกูล :  Asphodelaceae
สารเคมี:   ใบมี Aloe-emodin, Alolin, Chrysophanic acid Barbaboin, AloctinA, Aloctin B, Brady Kininase Alosin, Anthramol Histidine, Amino acid , Alanine Glutamic acid Cystine, Glutamine, Glycine.
คุณประโยชน์ :
ยางในใบ - เป็นยาระบาย
เนื้อวุ้น - เหน็บทวาร รักษาริดสีดวงทวาร
เป็นยาถ่าย/ยาระบาย ใช้น้ำยางสีเหลืองที่มีรสขม อาเจียน คลื่นไส้ น้ำยางสีเหลืองที่ไหลออกมาระหว่างผิวนอกของใบกับตัววุ้น จะให้ยาที่เรียกว่า ยาดำ
สารเคมี - สารสำคัญในยาดำเป็น G-glycoside ที่มีชื่อว่า barbaloin (Aloe-emodin anthrone C-10 glycoside)
รักษาริดสีดวงทวาร นอกจากจะช่วยรักษาแล้ว ยังช่วยทุเลาลักษณะของการปวด อาการคันได้ด้วย โดยการทำความสะอาดทวารหนักให้สะอาดแล้วก็แห้ง ควรปฏิบัติหลังจากการอุจจาระ หรือหลังอาบน้ำ หรือก่อนนอน เอาว่านหางจระเข้ปอกส่วนนอกของใบ แล้วเหลาให้ปลายแหลมนิดหน่อย เพื่อใช้เหน็บในช่องทวารหนัก ถ้าจะให้เหน็บง่าน นำไปแช่ตู้แช่เย็น หรือน้ำแข็งให้แข็ง จะก่อให้ใส่ได้ง่าย จำต้องหมั่นเหน็บวันละ 1-2 ครั้ง กระทั่งจะหาย
อัคคีทวาร
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Clerodendrum serratum  (L.) Moon. var.wallichii  C.B.Clarke
ตระกูล :   Limiaceae (Labiatae)
สรรพคุณ : ใบ, ราก, ต้น – ใช้เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร
ใช้เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร

เอกสารอ้างอิง