รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: billcudror1122 ที่ มีนาคม 27, 2018, 07:49:12 AM

หัวข้อ: โรคบาดทะยัก- อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: billcudror1122 ที่ มีนาคม 27, 2018, 07:49:12 AM
(https://www.img.in.th/images/e5d9a8bb424abb214b08ed4ef8cbd1c0.jpg)
โรคบาดทะยัก (Tetanus)

ภาวะแทรกซ้อนของโรคบาดทะยัก  อาการชักกระตุกของกล้ามเนื้ออย่างหนักของโรคบาดทะยักที่เกิดขึ้นอาจจะก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่อแต่นี้ไปตามมา



การตำหนิดเชื้อโรคโรคบาดทะยักอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต โดยที่มาของการเสียชีวิตจากโรคนี้โดยมากเกิดจากภาวการณ์หายใจล้มเหลว ส่วนมูลเหตุอื่นที่ก่อให้เกิดการตายได้ด้วยเหมือนกัน ได้แก่ สภาวะปอดอักเสบ การขาดออกสิเจน และภาวะหัวใจหยุดเต้น



หลังการตรวจวิเคราะห์ ถ้าแพทย์ใคร่ครวญว่ามีการเสี่ยงหรือแนวโน้มที่จะติดเชื้อโรคบาดทะยักแม้กระนั้นผู้ป่วยยังไม่มีอาการอะไรก็แล้วแต่ปรากฏให้มองเห็น กรณีนี้จะรักษาโดยการทำความสะอาดแผลแล้วก็ฉีด Tetanus Immunoglobulin ซึ่งเป็นยาที่ประกอบด้วยแอนติบอดี้ ช่วยฆ่าแบคทีเรียจากโรคบาดทะยักและก็สามารถคุ้มครองปกป้องโรคบาดทะยักได้ในตอนระยะสั้นๆถึงปานกลาง นอกเหนือจากนั้นอาจฉีดวัคซีนปกป้องบาดทะยักร่วมด้วยแม้ผู้ป่วยยังมิได้รับวัคซีนจำพวกนี้ถึงกำหนด สำหรับคนเจ็บที่เริ่มออกอาการของโรคบาดทะยักแล้ว  หมอจะรับตัวไว้รักษาในโรงหมอโดยชอบรับไว้ภายในห้องบำบัดรักษาพิเศษหรือไอซียู เพื่อแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด แล้วก็ผู้เจ็บป่วยชอบจำต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงหมอนานเป็นอาทิตย์ๆหรือเป็นนานเป็นเดือนๆ   ซึ่งหลักของการดูแลรักษาคนเจ็บโรคบาดทะยักที่ปรากฏลักษณะโรคแล้ว คือ เพื่อกำจัดเชื้อโรคบาดทะยักที่ผลิตสารพิษ เพื่อทำลายสารพิษที่เชื้อโรคผลิตแล้ว แล้วก็การดูแลและรักษาเกื้อกูลตามอาการ และก็การให้วัคซีนเพื่อปกป้องการเกิดโรคอีกโดยมีเนื้อหาดังนี้

(https://www.img.in.th/images/4a4758713063a1c0fa7f78a5f6958e5f.jpg)
ส่วนในกรณีผู้เจ็บป่วยที่มีลักษณะอาการของโรคปรากฏแล้วนั้น หมอก็จะรับเข้ารักษาในโรงหมอห้องห้องดูแลผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาล เพื่อดูแลเอาใจใส่ด้วยความใกล้ชิดถัดไป



เข็มแรก อายุ 2 เดือน  เข็มที่ 2 อายุ 4 เดือน  เข็มที่ 3 อายุ 6 เดือน  เข็มที่ 4 อายุ 1 ปี 6 เดือนเข็มที่ 5 อายุ 4-6 ปีอีกครั้งหนึ่ง  ถัดไปจะต้องมีการฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี  ในกรณีที่มีรอยแผลเกิดขึ้น ถ้าหากเคยฉีดวัคซีนครบ 3 ครั้ง มาด้านใน 5 ปี ไม่ต้องฉีดกระตุ้น แม้กระนั้นถ้าเกิดเกินกว่า 5 ปี จะต้องฉีดกระตุ้น 1 ครั้ง หญิงตั้งท้องที่ไม่เคยได้รับวัคซีนคุ้มครองบาดทะยักมาก่อน ควรจะฉีดวัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคนี้รวม 3 ครั้ง โดยเริ่มฉีดเข็มแรกเมื่อฝากครรภ์ครั้งแรก เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรกขั้นต่ำ 1 เดือน รวมทั้งเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่ 2 อย่างต่ำ 6 เดือน (ถ้าเกิดฉีดไม่ทันขณะตั้งท้อง ก็ฉีดข้างหลังคลอด)  ถ้าหากหญิงท้องเคยได้รับวัคซีนปกป้องโรคนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ควรให้อีก 2 ครั้ง ห่างกันขั้นต่ำ 1 เดือน ในระหว่างท้อง  หากหญิงท้องเคยได้รับวัคซีนคุ้มครองโรคนี้ครบชุด (3 ครั้ง) มาแล้วเกิน 5 ปี ให้ฉีดกระตุ้นอีกเพียงแค่ 1 ครั้ง แต่ว่าถ้าเคยฉีดครบชุดมาแล้วไม่เกิน 5 ปี ก็ไม่ต้องฉีดกระตุ้น  สำหรับในเด็กที่อายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไปและก็ในผู้ใหญ่ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน หรือได้รับวัคซีนในวัยเด็กไม่ครบ หรือได้รับมาเกิน 10 ปีแล้ว ให้ฉีดวัคซีนโรคบาดทะยัก - คอตีบ 3 เข็ม โดยฉีดเข็มที่ 2 ให้ห่างจากเข็มแรก 4 สัปดาห์ เข็มที่ 3 ให้ห่างจากเข็มที่ 2 ราว 6 -12 เดือน และก็ฉีดกระตุ้นๆทุกๆ10 ปีตลอดไป
เมื่อมีรอยแผลต้องทำแผลให้สะอาดโดยทันที โดยการขัดด้วยสบู่ล้างด้วยน้ำที่สะอาดถูด้วยยาฆ่าเชื้อ อย่างเช่น แอลกอฮอล์ 70% หรือทิงเจอร์ใส่แผลสด พร้อมด้วยให้ยารักษาการติดเชื้อถ้าหากแผลลึกจำต้องใส่ drain ด้วย
ใช้ผ้าปิดรอยแผลเพื่อให้แผลสะอาดรวมทั้งปกป้องจากการสัมผัสเชื้อแบคทีเรียของแผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผลพุพองที่กำลังแห้งจะยิ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงควรปิดแผลไว้กระทั่งแผลเริ่มก่อตัวเป็นสะเก็ด นอกจากนี้ควรเปลี่ยนผ้าทำแผลทุกวี่วัน อย่างต่ำวันละ 1 ครั้งหรือเมื่อใดก็ตามที่ผ้าปิดแผลเปียกน้ำหรือเริ่มเลอะเทอะ เพื่อเลี่ยงจากการตำหนิดเชื้อ

เอกสารอ้างอิง