รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: Tawatchai1212 ที่ มีนาคม 24, 2018, 08:31:48 AM

หัวข้อ: โรคไข้เลือดออก - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: Tawatchai1212 ที่ มีนาคม 24, 2018, 08:31:48 AM
(https://www.img.in.th/images/ed96105b47520a51625686ac3bce8348.jpg)
โรคไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever)

(https://www.img.in.th/images/72db7d0d4c4429bbb268f3787b9f8f1c.jpg)
เนื่องจากว่ายังไม่มีการพัฒนายาฆ่าเชื้อเชื้อไวรัสเดงกี่การดูแลและรักษาโรคนี้ ก็เลยเป็นการรักษาตามอาการเป็นหลัก กล่าวคือ มีการใช้ยาลดไข้ เช็ดตัว แล้วก็การปกป้องคุ้มครองสภาวะช็อก ยาลดไข้ที่ใช้มีเพียงแค่ประเภทเดียว คือ ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) ขนาดยาที่ใช้ในคนแก่คือ พาราเซตามอลแบบเป็นเม็ดละ500มิลลิกรัมรับประทานครั้งละ1-2เม็ด ทุก 4 - 6 ชั่วโมง โดยไม่ควรกินเกินวันละ 8 เม็ด (4 กรัม) ส่วนปริมาณยาที่ใช้ในเด็กคือ พาราเซตามอลแบบเป็นน้ำ 10-15มิลลิกรัมต่อ น้ำหนักตัว 1 โลต่อครั้ง ทุก 4 - 6 ชั่วโมง โดยไม่สมควรรับประทาน เกินวันละ5ครั้ง หรือ2.6กรัม สินค้าพาราเซตามอลชนิดน้ำสำหรับเด็กมีจำหน่ายในหลายความแรงเช่น 120 มิลลิกรัมต่อ 1 ช้อนชา (1 ช้อนชา พอๆกับ 5 มล.), 250 มก.ต่อ 1 ช้อนชา, และ 60 มิลลิกรัมต่อ 0.6 มิลลิลิตร ส่วนใหญ่เป็นยาน้ำเชื่อมที่จำต้องรินใส่ช้อนเพื่อป้อนเด็ก ในกรณีเด็กทารก การป้อนยาทำเป็นค่อนข้างยากก็เลยมีผลิตภัณฑ์ยาที่ทำขายโดยบรรจุในขวดพร้อมหลอดหยด เวลาใช้ก็เพียงใช้หลอดหยดดูดยาออกจากขวดแล้วก็นำไปป้อนเด็กได้เลย ด้วยสาเหตุอันเกิดจากที่สินค้าพาราเซตามอลรูปแบบน้ำสำหรับเด็กมีหลายความแรง จำเป็นจะต้องอ่านฉลากแล้วก็การใช้ให้ดีก่อนนำไปป้อนเด็ก กล่าวคือ ถ้าเด็กหนัก 10 โล รวมทั้งมียาน้ำความแรง 120 มก.ต่อ 1 ช้อนชา ก็ควรจะป้อนยาเด็กครั้งละ 1 ช้อนชาหรือ 5 มิลลิลิตร และป้อนซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมงแม้กระนั้นไม่สมควรป้อนยาเกินวันละ 5 ครั้ง ถ้าหากว่าไม่มีไข้ก็สามารถหยุดยาได้ทันที ยาพาราเซตามอลนี้เป็นยารับประทาน ตามอาการ ด้วยเหตุนี้ถ้าเกิดว่าไม่มีไข้ก็สามารถหยุดยาได้ในทันทีส่วนยา แอสไพรินแล้วก็ไอบูโปรเฟนเป็นยาลดไข้ด้วยเหมือนกัน แต่ยาทั้งสองแบบนี้ ห้ามนำมาใช้ในโรคไข้เลือดออก เนื่องจากว่าจะยิ่งผลักดันการเกิดภาวะ เลือดออกเปลี่ยนไปจากปกติกระทั่งอาจเกิดอันตรายต่อคนป่วยได้ ในส่วนการปกป้องภาวะช็อกนั้น กระทำได้โดยการทดแทนน้ำ ให้ร่างกายเพื่อไม่ให้ปริมาตรเลือดลดลดลงกระทั่งทำให้ความดันโลหิตตก แพทย์จะใคร่ครวญให้สารน้ำตามความร้ายแรงของอาการ โดยอาจให้ คนเจ็บดื่มเพียงแค่สารละลายเกลือแร่ โออาร์เอส หรือคนไข้บางราย บางทีอาจได้รับน้ำเกลือเข้าทางหลอดเลือดดำ  ในกรณีที่คนเจ็บเกิดภาวะเลือด ออกผิดปกติกระทั่งเกิดภาวะเสียเลือดอาจจำต้องได้รับเลือดเพิ่มเติมอีก แม้กระนั้น จะต้องเฝ้าระวังสภาวะช็อกตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น เนื่องจากว่าภาวการณ์นี้มีความอันตรายต่อชีวิตของคนไข้อย่างยิ่ง



ทราบได้เช่นไรว่าพวกเราจับไข้เลือดออก ข้อคิดเห็นบางประการที่บางครั้งอาจจะช่วยให้สงสัยว่าอาจจะจับไข้เลือดออก เป็นต้นว่า  เป็นไข้สูง เหน็ดเหนื่อยเป็นเกิน 2 วัน  ถ้ามีปวดหัวมากมายหรือคลื่นไส้มากร่วมด้วย  หลังเป็นไข้ 2 ถึง 7 วัน แล้วไข้ต่ำลงเอง เมื่อไข้ลดแล้วมีลักษณะอาการเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งบางครั้งก็อาจจะเจ็บป่วยเลือดออกได้ ปวดศีรษะมากมาย อ่อนล้ามาก คลื่นไส้มากมาย รับประทานอาหารไม่ได้ ปวดท้อง มีจ้ำเลือดเล็กๆบริเวณแขน ขา หรือลำตัว มีเลือดออกตามอวัยวะได้แก่ เลือดกำเดา ถ่ายเป็นเลือด เมนส์มาก่อนกำทีด ฯลฯ



การคุ้มครองป้องกันทางกายภาพ อย่างเช่น ปิดภาชนะเก็บน้ำด้วยฝาปิด อาทิเช่น มีผาปิดปากตุ่ม ตุ่มน้ำ ถังเก็บน้ำ หรือถ้าเกิดไม่มีฝาปิด ก็วางคว่ำลงแม้ยังไม่ต้องการที่จะอยากใช้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลายเป็นที่ออกไข่ของยุงลาย เปลี่ยนน้ำในแจกันดอกไม้สดเป็นประจำอย่างน้อยทุกๆ7 วัน ปล่อยปลารับประทานลูกน้ำลงในภาชนะเก็บน้ำ ยกตัวอย่างเช่น โอ่ง ตุ่ม ภาชนะละ 2-4 ตัว รวมทั้งอ่างบัวแล้วก็ตู้สำหรับเลี้ยงปลาก็ควรมีปลารับประทานลูกน้ำเพื่อรอควบคุมปริมาณลูกน้ำยุงลายเช่นกัน ใส่เกลือลงน้ำในจานสำหรับเพื่อรองขาตู้อาหาร เพื่อควบคุมรวมทั้งกำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยใส่เกลือ 2 ช้อนชา ต่อความจุ 250 มิลลิลิตร พบว่าสามารถควบคุมลูกน้ำได้นานกว่า 7 วัน
การปกป้องทางเคมี เป็นต้นว่า เพิ่มเติมทรายทีมีฟอส ซึ่งเป็นสารเคมีที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใช้และรับรองความปลอดภัย เหมาะสมกับภาชนะที่ไม่สามารถที่จะใส่ปลารับประทานลูกน้ำได้  การพ่นสารเคมีหรือยากันยุงเพื่อกำจัดยุงตัวเต็มวัย มีจุดแข็งก็คือ ประสิทธิภาพสูง แต่ว่าจุดอ่อนคือ ราคาแพงแพง และเป็นพิษต่อคนและก็สัตว์เลี้ยง จึงจะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญสำหรับการฉีดพ่นและก็ฉีดเฉพาะเมื่อจำเป็นจะต้องเท่านั้น เพื่อคุ้มครองปกป้องความเป็นพิษต่อคนและก็สัตว์เลี้ยง ควรจะเลือกฉีดในตอนที่มีคนอยู่น้อยที่สุดและฉีดพ่นลงในแหล่งที่คาดว่าเป็นแหล่งเกาะพักของ อย่างเช่น ท่อสำหรับเพื่อระบายน้ำ ฯลฯ การใช้สารเคมีเพื่อกำจัดยุงในบ้านเรือน ที่ใช้กันมี 2 จำพวก คือ ยาจุดกันยุง แล้วก็สเปรย์ฉีดไล่ยุง ขึ้นรถออกฤทธิ์อาจเป็นยาในกรุ๊ปไพรีทรอยด์ (Pyrethroids), ดีท (DEET, diethyltoluamide) เป็นต้น ครั้งก่อนมียาฆ่ายุงด้วย มีชื่อว่า สารฆ่าแมลงดีดีที แต่สารนี้ถูกยกเลิกการใช้ไปแล้วด้วยเหตุว่าเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตและหลงเหลือในสภาพแวดล้อมเป็นเวลานานมากมาย แต่ สารเคมีไม่ว่าจากยาจุดกันยุงหรือสเปรย์ฉีดไล่ยุง ก็มีความเป็นพิษต่อคนแล้วก็สัตว์ ด้วยเหตุนั้นเพื่อลดความเป็นพิษดังที่กล่าวมาข้างต้นควรจุดยากันยุงในรอบๆที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ล้างมือทุกครั้งภายหลังสัมผัส ส่วนยาฉีดไล่ยุงจะมีความเป็นพิษมากกว่า โดยเหตุนี้ห้ามฉีดลงบนผิวหนัง แล้วก็ควรปฏิบัติตามวิธีการใช้ที่กำหนดข้างกระป๋องอย่างเคร่งครัด
การกระทำตัว เช่น นอนในมุ้ง หรือนอนในห้องที่มีมุ้งลวดเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด โดยต้องปฏิบัติแบบเดียวกันตอนกลางวันแล้วก็ตอนกลางคืน ถ้าเกิดไม่อาจจะนอนในมุ้งหรือนอนในห้องที่มีมุ้งลวดได้ ควรที่จะใช้ยากันยุงจำพวกทาผิวซึ่งมีสารสำคัญที่สกัดจากธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น น้ำมันตะไคร้หอม (oil of citronella), น้ำมันยูคาลิปตัส (oil of eucalyptus) ซึ่งมีความปลอดภัยสูงขึ้นยิ่งกว่ามาทาหรือหยดใส่ผิวหนังใช้เป็นยากันยุง แต่ว่าคุณภาพจะต่ำลงยิ่งกว่า DEET



สมุนไพรซึ่งสามารถไล่ยุงได้ ตะไคร้หอม ช่วยสำหรับในการไล่ยุงเพราะเหตุว่ากลิ่นฉุนๆของมันไม่เป็นมิตรกับยุงร้าย ในตอนนี้มีการทำออกมาในรูปของสารสกัดชนิดต่างๆไว้สำหรับคุ้มครองป้องกันยุงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แต่ถ้าอยากให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีสุดๆควรใช้ตะไคร้หอมไล่ยุงชนิดที่สกัดน้ำมันเพียวๆจากต้นตะไคร้หอมจะเยี่ยมที่สุด เว้นเสียแต่กลิ่นจะช่วยขับไสยุงแล้ว ยังช่วยไล่แมลงอื่นๆได้อีกด้วยล่ะ เปลือกส้ม ยังมีคุณประโยชน์เป็นสมุนไพรไล่ยุงได้อีกด้วย กรรมวิธีการไล่ยุงด้วยเปลือกส้มนั้น เพียงแต่ใช้เปลือกส้มที่แกะออกจากผลส้มแล้วมาผึ่งจนแห้ง ต่อจากนั้นนำมาเผาไฟ ควันที่เกิดขึ้นและน้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในเปลือกส้มมีสรรพคุณเป็นอย่างดีสำหรับเพื่อการไล่ยุง  มะกรูด นับได้ว่าเป็นสมุนไพรที่มากมายไปด้วยผลดี และก็ยังสามารถเอามาเป็นสมุนไพรไล่ยุงได้อย่างดีเยี่ยม แนวทางการคือ นำผิวมะกรูดสดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆมาตำกับน้ำเท่าตัวจนแหลกละเอียด หลังจากนั้นให้กรองเอาเฉพาะน้ำ สามารถเอามาทาผิวหรือใส่กระบอกสำหรับฉีดเพื่อฉีดตามจุดต่างๆของบ้านได้ โหระพา กลิ่นหอมแรงของโหระพายังเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวที่ช่วยสำหรับในการไล่ยุงและแมลง ทำให้มันไม่สามารถที่จะคงทนกับกลิ่นแรงของโหระพาได้ สะระแหน่ นับว่าเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ให้กลิ่นหอมหวน แต่กลิ่นหอมสดชื่นๆของมันไม่ค่อยถูกกันกับยุงนัก กรรมวิธีไล่ยุงแค่เพียงนำใบสะระแหน่มาบดขยี้ให้กลิ่นออกมา ต่อจากนั้นนำไปวางตามจุดต่างๆที่มียุงจำนวนมากหรือสามารถนำใบสะระแหน่มาบดแล้วทาลงบนผิวหนังจะก่อให้ผิวหนังกระชุ่มกระชวยและยังช่วยกันยุงได้อีกด้วย
เอกสารอ้างอิง