รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: หนุ่มน้อยคอยรัก007 ที่ มีนาคม 24, 2018, 02:27:02 AM

หัวข้อ: โรคบาดทะยัก- อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: หนุ่มน้อยคอยรัก007 ที่ มีนาคม 24, 2018, 02:27:02 AM
(https://www.img.in.th/images/e5d9a8bb424abb214b08ed4ef8cbd1c0.jpg)
โรคบาดทะยัก (Tetanus)

ภาวะแทรกซ้อนของโรคบาดทะยัก  อาการชักของกล้ามอย่างหนักของโรคบาดทะยัก (http://www.disthai.com/16817056/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%81-)ที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้เกิดภาวะสอดแทรกรุนแรงต่อแต่นี้ไปตามมา



การตำหนิดเชื้อโรคบาดทะยักอาจรุนแรงถึงกับตาย โดยสิ่งที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตจากโรคนี้โดยมากเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากภาวะหายใจล้มเหลว ส่วนต้นเหตุอื่นที่นำไปสู่การตายได้เหมือนกัน อย่างเช่น ภาวการณ์ปอดบวม การขาดออกสิเจน รวมทั้งสภาวะหัวใจหยุดเต้น



ข้างหลังการตรวจวินิจฉัย ถ้าหากแพทย์พินิจว่ามีการเสี่ยงหรือแนวโน้มที่จะติดโรคบาดทะยักแต่ว่าผู้เจ็บป่วยยังไม่มีอาการใดๆก็ตามปรากฏให้เห็น กรณีนี้จะรักษาโดยทำความสะอาดแผลและฉีด Tetanus Immunoglobulin ซึ่งเป็นยาที่ประกอบด้วยแอนติบอดี้ ช่วยฆ่าแบคทีเรียจากโรคบาดทะยักแล้วก็สามารถปกป้องโรคบาดทะยักได้ในช่วงระยะสั้นๆถึงปานกลาง นอกจากนี้อาจฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักร่วมด้วยหากผู้ป่วยยังมิได้รับวัคซีนจำพวกนี้ถึงกำหนด สำหรับคนป่วยที่เริ่มออกอาการของโรคบาดทะยักแล้ว  แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงหมอโดยชอบรับเอาไว้ในห้องบำบัดพิเศษหรือห้องดูแลผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาล เพื่อแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด และคนไข้ชอบต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานเป็นสัปดาห์ๆหรือเป็นนานแรมเดือน   ซึ่งหลักของการดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยโรคบาดทะยักที่ปรากฏลักษณะโรคแล้วหมายถึงเพื่อกำจัดเชื้อโรคบาดทะยักที่ผลิตสารพิษ เพื่อทำลายพิษที่เชื้อโรคผลิตแล้ว รวมทั้งการดูแลรักษาจุนเจือตามอาการ รวมทั้งการให้วัคซีนเพื่อคุ้มครองปกป้องการเกิดโรคอีกโดยมีรายละเอียดดังนี้

(https://www.img.in.th/images/4a4758713063a1c0fa7f78a5f6958e5f.jpg)
ส่วนในกรณีผู้ป่วยที่มีลักษณะอาการของโรคปรากฏแล้วนั้น หมอก็จะรับเข้ารักษาในโรงหมอห้องไอซียู เพื่อดูแลเอาใจใส่ด้วยความใกล้ชิดต่อไป



เข็มแรก อายุ 2 เดือน  เข็มที่ 2 อายุ 4 เดือน  เข็มที่ 3 อายุ 6 เดือน  เข็มที่ 4 อายุ 1 ปี 6 เดือนเข็มที่ 5 อายุ 4-6 ปีอีกรอบหนึ่ง  ถัดไปควรจะมีการฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี  ในกรณีที่มีบาดแผลเกิดขึ้น ถ้าหากเคยฉีดวัคซีนครบ 3 ครั้ง มาภายใน 5 ปี ไม่ต้องฉีดกระตุ้น แต่ว่าถ้าเกิดเกินกว่า 5 ปี จำต้องฉีดกระตุ้น 1 ครั้ง หญิงท้องที่ไม่เคยได้รับวัคซีนคุ้มครองบาดทะยักมาก่อน ควรฉีดยาคุ้มครองป้องกันโรคนี้รวม 3 ครั้ง โดยเริ่มฉีดเข็มแรกเมื่อฝากครรภ์คราวแรก เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรกขั้นต่ำ 1 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่ 2 อย่างต่ำ 6 เดือน (ถ้าฉีดไม่ทันขณะตั้งท้อง ก็ฉีดข้างหลังคลอด)  ถ้าเกิดหญิงท้องเคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ควรให้อีก 2 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน ในระหว่างมีครรภ์  หากหญิงมีท้องเคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคนี้ครบชุด (3 ครั้ง) มาแล้วเกิน 5 ปี ให้ฉีดกระตุ้นอีกเพียงแต่ 1 ครั้ง แต่ถ้าเกิดเคยฉีดครบชุดมาแล้วไม่เกิน 5 ปี ก็ไม่ต้องฉีดกระตุ้น  สำหรับในเด็กที่อายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไปรวมทั้งในผู้ใหญ่ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน หรือได้รับวัคซีนในวัยเด็กไม่ครบ หรือได้รับมาเกิน 10 ปีแล้ว ให้ฉีดวัคซีนบาดทะยัก - คอตีบ 3 เข็ม โดยฉีดเข็มที่ 2 ให้ห่างจากเข็มแรก 4 อาทิตย์ เข็มที่ 3 ให้ห่างจากเข็มที่ 2 ราว 6 -12 เดือน แล้วก็ฉีดกระตุ้นๆทุกๆ10 ปีตลอดกาล
เมื่อมีรอยแผลจำต้องทำแผลให้สะอาดทันที โดยการถูด้วยสบู่ล้างด้วยน้ำที่สะอาดเช็ดด้วยยาฆ่าเชื้อ ดังเช่นว่า แอลกอฮอล์ 70% หรือทิงเจอร์ใส่แผลสด พร้อมกับให้ยารักษาการติดโรคถ้าเกิดแผลลึกจำเป็นต้องใส่ drain ด้วย
ใช้ผ้าปิดรอยแผลเพื่อให้แผลสะอาดและคุ้มครองจากการสัมผัสเชื้อแบคทีเรียของแผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผลพุพองที่กำลังแห้งจะยิ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จะต้องปิดแผลไว้จวบจนกระทั่งแผลเริ่มก่อตัวเป็นสะเก็ด นอกเหนือจากนี้ควรจะเปลี่ยนผ้าทำแผลทุกเมื่อเชื่อวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้งหรือเมื่อใดก็ตามที่ผ้าปิดแผลเปียกน้ำหรือเริ่มเลอะเทอะ เพื่อหลบหลีกจากการตำหนิดเชื้อ

เอกสารอ้างอิง