รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: bilbill2255 ที่ มีนาคม 20, 2018, 07:31:08 AM

หัวข้อ: โรคมะเร็ง-อาการ-สาเหตุ-การรักษา-การรักษา-วิธีการป้องกัน-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: bilbill2255 ที่ มีนาคม 20, 2018, 07:31:08 AM
(https://uppic.cc/d/97k)
โรคมะเร็ง (Canaer) (http://www.disthai.com/16816973/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87)



รวมถึงปัจจัยทางพันธุกรรม มะเร็งบางจำพวก ยกตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ แล้วก็โรคมะเร็งไส้ มีแนวโน้มเกิดขึ้นได้กับบุคคลภายในครอบครัวที่มีประวัติเป็นมะเร็งดังที่กล่าวถึงมาแล้วต้นเหตุของมะเร็งที่หลักๆในตอนนี้ อย่างเช่น

(https://www.img.in.th/images/196e66297ddec263acb866ab72b30bad.md.jpg)



โดยทั่วไปโรคมะเร็งมี 4 ระยะ เป็นต้นว่า ระยะที่ 1-4 ซึ่ง 4 ระยะ ส่วนโรคมะเร็งระยะศูนย์ (0) ยังไม่จัดเป็นโรคมะเร็งอย่างแท้จริง เนื่องจากเซลล์เพียงแต่มีลักษณะเป็นมะเร็ง แต่ว่ายังไม่มีการรุกราน (Invasive) เข้าเนื้อเยื่อข้างๆ



ข้อ แรกหมายถึงสาเหตุจากสภาพแวดล้อมภายนอกร่างกาย เช่น สารก่อโรคมะเร็งที่แปดเปื้อน ในอาหาร อากาศ เครื่องดื่ม ยารักษาโรค ฯลฯ แล้วก็การได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และก็พยาธิบางชนิด
ข้อที่สอง คือ ตัวอย่างเช่นปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ความไม่ดีเหมือนปกติทางพันธุกรรม ความบกพร่องของระบบภูมิต้านทาน แล้วก็ภาวการณ์ทุพโภชนา ฯลฯ   
 
โดยเหตุนี้คนที่เสี่ยงต่อการ เป็นโรคโรคมะเร็งเป็นผู้ที่มีความประพฤติปฏิบัติดังนี้
คนที่ดูดบุหรี่  อีกทั้งยาสูบมวนเอง บุหรี่ กล้องยาสูบ หรือการเคี้ยวยาสูบ จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะกำเนิดเป็นโรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งในโพรงปาก กล่องเสียง โรคมะเร็ง หลอดอาหาร โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ แล้วก็โรคมะเร็งของตับอ่อน
คนที่ดื่มสุราเป็นประจำ สามารถนำมาซึ่งตับอักเสบรวมทั้งโรคตับแข็ง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับตามมา นอกจากนี้ สุรายังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคมะเร็งในช่องปากและก็คอ
ผู้ที่ติดเชื้อ เชื้อไวรัสบางชนิด ดังเช่นว่า   เชื้อไวรัสตับอักเสบจำพวกบีรวมทั้งซี มีความข้องเกี่ยวต่อการเกิดโรคตับแข็งแล้วก็โรคมะเร็งตับ ไวรัสเอปสไตน์บารร์มีความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งข้างหลังโพรงจมูกหรือโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองประเภท Burkitt ไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus) เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูกในหญิง หรือ โรคมะเร็งช่องปากและก็คอ  หรือผู้ที่ชอบทานอาหารที่มี พิษ ชื่อ อัลฟาทอกสิล ที่พบจากเชื้อราที่แปดเปื้อนในอาหารตัวอย่างเช่น ถั่วลิสงป่น ฯลฯ ถ้าเกิดรับประทานประจำจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ รวมทั้งถ้าหากได้รับ 2 อย่าง ช่องทาง จะเป็นมะเร็งตับเยอะขึ้น
ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเสมอๆ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เต้านม ลำไส้ใหญ่ เยื่อบุมดลูก และต่อมลูกหมาก
ผู้ที่ติดเชื้อโรคพยาธิใบไม้ตับ แล้วก็ทานอาหารที่ใส่ดิน ประสิวบ่อยๆ จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
คนที่มีภูมิคุ้มกันขาดตกบกพร่องอันเป็นผลมาจากความแตกต่างจากปกติจากพันธุกรรมหรือติดเชื้อโรคไวรัส เอดส์ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งของเส้นเลือด ฯลฯ
คนที่ทานอาหารเค็ม จัด ของกินที่มีส่วนผสมโปตัสเซี่ยมไนเตรดแล้วก็ส่วนไหม้เกรียม ของของกินเสมอๆจะเสี่ยง ต่อการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะ อาหารและก็ลำไส้ใหญ่
ผู้ที่มีประวัติโรคมะเร็งในครอบครัว อาทิเช่น โรคมะเร็งของเรตินา โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ แล้วก็มะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิดที่ เป็นติ่งเนื้อ เป็นต้น
ผู้ที่ตากแดดจัดบ่อยๆจะ เป็นอันตรายจากแสงแดดที่ มีจำนวนของแสงอุลตรา ไวโอเลต ไม่น้อยเลยทีเดียว มีผลทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้
สัญญาณเตือน 7 ประการ ที่บางทีอาจหมายความว่าเป็นลักษณะโรคโรคมะเร็ง มีดังนี้



วิธีรักษาโรคมะเร็ง สำหรับในการรักษาโรคโรคมะเร็งนี้ภายหลังแพทย์วิเคราะห์ลักษณะโรคเสร็จแล้ว จะมีการตรวจอย่างพิถีพิถันอีกครั้งว่าเซลล์ของมะเร็งร้ายกระจัดกระจายไปอยู่ในบริเวณใดของร่างกายบ้าง เมื่อรู้และเข้าใจดีแล้วก็จะรักษาไปตามอาการ โดยมะเร็งแต่ละประเภทการดูแลรักษาก็บางทีอาจจะแตกต่างออกไปบ้าง แต่ว่าดังนี้ก็มีแนวทางที่แพทย์นิยมรักษากันอยู่ เป็น
การผ่าตัด โรคมะเร็งช่วงแรกจำนวนมากชอบใช้การผ่าตัดเป็นส่วนมาก ดังเช่นว่า โรคมะเร็งศรีษะและคอ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยหมอจะทำการผ่าตัดก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อกำจัดก้อนเนื้อร้ายที่อยู่ภายในร่างกายเราออกไป แม้กระนั้นวิธีการแบบนี้มิได้สามารถทำรักษาได้กับมะเร็งทุกประเภท และการผ่าตัดก็ยังไม่แน่ว่าจะหายสนิท หรือไม่ เนื่องจากเซลล์ของมะเร็งอาจยังหลงเหลือหรือหลบอยู่ในร่างกาย โดยบางทีอาจเป็นเซลล์ของโรคมะเร็งที่กำลังเริ่มจะเกิด ทำให้แพทย์ไม่อาจจะทราบหรือมองเห็น เมื่อปล่อยไปสักระยะก็จะกลับเข้าสู่วังวนเดิม คือเริ่มก่อตัวขยายใหญ่ขึ้น ก็จะต้องมาผ่าตัดกันใหม่อีกรอบ แม้กระนั้นโดยมากกับแนวทางการผ่าตัดนี้แพทย์มักชี้แนะให้ทำคีโมหรือเคมีบำบัดร่วมด้วย เพื่อเพิ่มช่องทางที่จะช่วยให้หายสนิทจากโรคมะเร็งนี้ได้
การใช้รังสีรักษา เป็นการฉายแสงไปยังเซลล์ของมะเร็งภายในร่างกาย เพื่อทำลายกลุ่มก้อนเซลล์ของมะเร็งนั้น ในการฉายแสงนี้เป็นการรักษาแบบเฉพาะที่ โดยอาศัยต้นเหตุจากประเภทของโรคมะเร็งที่เป็น ช่วงเวลาที่เกิดโรคมะเร็ง ตลอดจนสุขภาพของคนป่วยด้วยว่าแข็งแรงพอหรือเปล่า ซึ่งหากผู้ป่วยพร้อมก็จะกระทำการเปล่งแสงโดยประมาณ 2 – 10 นาที โดยจำเป็นต้องกระทำส่องแสงอาทิตย์ละ 5 วัน รวมราวๆ 5 – 8 อาทิตย์ ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ของแพทย์ แม้กระนั้นการรักษาด้วยรังสีรักษานี้จะทำให้เกิดผลข้างเคียงขึ้น ได้
เคมีบำบัด (คีโม) สำหรับวิธีนี้ถือว่าเป็นการรักษาอย่างตรงจุด แก้ที่มูลเหตุโดยตรงของปัญหา ด้วยเหตุว่าเป็นการให้ยาเข้าไปทำลายเซลล์ของมะเร็งทั้งผองที่อยู่ภายในร่างกาย รวมทั้งที่กระจายเข้าไปตามต่อมน้ำเหลืองหรือกระแสเลือดด้วย โดยหมอจะนัดมากระทำตรวจร่างกายวัดความดันแล้วก็กระทำการเจาะเลือด ซึ่งถ้าผลของการตรวจร่างกายผ่าน แพทย์ก็จะให้ไปกระทำการให้คีโมซึ่งก็ดังการให้น้ำเกลือทั่วๆไป เพียงแค่จำเป็นต้องนอนรอหลายชั่วโมงกระทั่งตัวยาจะหมด และในระหว่างการให้คีโมนี้คนไข้บางบุคคลอาจกำเนิดอาการแพ้ได้ ซึ่งบางทีอาจรู้สึกเวียนหัว อาเจียน หรืออ้วก และก็ผลข้างเคียงที่ตามมาภายหลังจากการให้คีโมประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ผมจะเริ่มหล่น รู้สึกอาเจียน คลื่นไส้ เป็นแผลในปาก และปริมาณเม็ดเลือดต่ำลงทำให้มีความรู้สึกอ่อนล้า ตลอดจนบางทีอาจรู้สึกหายใจลำบาก มีผื่นขึ้น ท้องผูกถ่ายไม่ออก หรือมีไข้ ฯลฯ แต่ว่าการดูแลรักษาด้วยวิธีแบบนี้ก็มีค่ารักษาที่ออกจะแพงเลยและก็ยังจำต้องทำหลายที ขึ้นอยู่กับหมอเป็นผู้วินิจฉัยว่าจำเป็นต้องทำทั้งสิ้นกี่ครั้งจึงจะหายเป็นปกติ



การดูแลตนเองในเรื่องทั่วไป รักษาสุขลักษณะอย่างเคร่งครัด เพราะเหตุว่าเป็นช่วงติดโรคได้ง่าย พักผ่อนให้เต็มที่ ถ้าหมดแรง ควรจะลาหยุดงาน แต่ว่าหากไม่อ่อนล้า ก็สามารถปฏิบัติงานได้ แต่ว่าควรเป็นงานเบาๆไม่ใช้แรงงาน แล้วก็สมองมากมาย ทำงานบ้านได้ตามกำลัง งดเว้น/เลิก ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
จำกัดเครื่องดื่มคาเฟอีนดังได้กล่าวแล้ว เลี่ยงการอยู่ในที่ยัดเยียดเนื่องจากว่าจะติดเชื้อได้ง่าย ยังคงต้อง ดูแล รักษา ควบคุมโรคร่วมอื่นๆโดยตลอดร่วมไปด้วยเสมอกับการดูแลรักษาโรคมะเร็ง
รักษาสุขภาพจิต ให้กำลังใจตัวเอง และก็คนที่อยู่รอบข้าง มองโลกในด้านบวกเสมอ พบหมอตามนัดเสมอ เจอหมอก่อนนัด เมื่ออาการต่างๆชั่วช้าสารเลวลง หรือเกิดความไม่ปกติไม่ถูกไปจากเดิม หรือเมื่อไม่ค่อยสบายใจในอาการ
การดูแลตนเองในเรื่องของกิน เมื่อทานอาหารได้น้อย ให้บากบั่นกินในปริมาณมื้อที่บ่อยมากขึ้น กินครั้งน้อยๆแต่ว่าเสมอๆแม้กระนั้นยังต้องจำกัดของว่าง และของกินเค็ม เพราะมีผลต่อน้ำตาลในเลือด รวมทั้งการทำงานของไต ให้กำลังใจตัวเอง เข้าใจว่า อาหารเป็นตัวยาสำคัญยิ่งตัวยาหนึ่ง ของการดูแลและรักษาโรคมะเร็ง ทดลองปรับเปลี่ยน จำพวกของกินให้กินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น อาหารอ่อน อาหารเหลว แต่ว่าควรจะหลบหลีกของกินทอด หรือผัด หรือมีกลิ่นรุนแรง เพราะมักกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการอ้วก คลื่นไส้ เตรียมอาหารครั้งละน้อยๆอย่าให้กินเหลือ เนื่องจากจะได้เกิดกำลังใจว่ากินหมดทุกมื้อ ควรจะแจ้งแพทย์ พยาบาลเมื่อกินมิได้ หรือกินได้น้อย แล้วก็ควรเห็นด้วย เมื่อหมอแนะนำการให้อาหารทางสายให้อาหาร การกินอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้งยัง 5 กลุ่มเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยยิ่งไปกว่านั้นอาหารโปรตีน (เช่น เนื้อ นม ไข่ ปลา ตับ) เพราะสำหรับในการรักษาโรคมะเร็ง ความแข็งแรงของไขกระดูก (เม็ดเลือดต่างๆ) เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะว่าเป็นตัวช่วยทำให้ร่างกายตอบสนองที่ดีต่อรังสีรักษา และยาเคมีบรรเทา แล้วก็ช่วยลดจังหวะติดโรค ซึ่งการติดเชื้อในขณะกำลังรักษาโรคโรคมะเร็งมักเป็นการติดโรคที่รุนแรง



ฟ้าทะลายโจร(Andrographis paniculata) ในประเทศอินเดียใช้กันมานานรักษาไข้รากสาดน้อย แก้อักเสบ แก้มาเลเรีย กระตุ้นภูมิต้านทาน สารสำคัญคือ andrographolide สามารถยั้งเซลล์ของโรคมะเร็งได้หลายแบบ
บัวบก (Centella asiatica) มีสาร asiaticoside ที่ช่วยทำให้แผลเรื้อรังหายได้เร็วขึ้น เพิ่มภูมิคุ้มกัน แล้วก็ในบราซิลมีการใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็งมดลูก
ขมิ้น (http://www.disthai.com/16488284/%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99) (Curcuma longa) สารสำคัญคือ curcumin มีฤทธิ์ต้านการอ็อกซิไดส์และก็ต้านทานการอักเสบที่แรง สามารถนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการถึงแก่กรรมของเซลมะเร็งหลายอย่างดังเช่นว่า โรคมะเร็งผิวหนัง โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งกระเพาะ โรคมะเร็งลำไส้เล็ก มะเร็งรังไข่ แล้วก็ยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส แบคทีเรียและราอีกด้วย
ว่านหางจรเข้ (Aloe vera) มีสาร aloe-emodin ที่กระตุ้น macrophage ให้กำจัดเซล์ลมะเร็ง รวมทั้งยังมี acemannan ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน ว่านหางจรเข้ช่วยกระตุ้นการก้าวหน้าของเซลล์ปกติและยับยั้งการเจริญก้าวหน้าของเซลล์ของโรคมะเร็ง
ทุเรียนเทศ (Anona muricata) สาร acetogenin จากผลทำให้เซลล์ของมะเร็งตายได้
ดีปลี (http://www.disthai.com/16488287/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5) (Piper longum) มี piperine ซึ่งมีฤทธิ์ต้านทานการอ็อกซิไดส์ทั้ง in vitro แล้วก็ in vivo ก็เลยเป็นส่วนประกอบของตำรับยารักษาโรคมะเร็งของอายุรเวท
บอระเพ็ด (Tinospora cordifolia) สารสำคัญจากบอระเพ็ดกระตุ้นภูมิต้านทานโดยการเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาว รวมทั้งสามารถลดขนาดเนื้องอกได้ 58.8% เทียบเท่า cyclophosphamide
เอกสารอ้างอิง