รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: bilbill2255 ที่ มกราคม 08, 2018, 03:18:28 AM

หัวข้อ: สมุนไพรกะทือ ที่เรารู้จักทั้งสรรพคุณเเละประโยชน์เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี
เริ่มหัวข้อโดย: bilbill2255 ที่ มกราคม 08, 2018, 03:18:28 AM
(http://www.คลัง[url=http://www.disthai.com/][b]สมุนไพร[/b][/url].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B7%E0%B8%AD.jpg)
สมุนไพรกะทือ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B7%E0%B8%AD/)
ชื่อประจำถิ่นอื่น กะทือป่า กะแวน กะแอน แฮวดำ (ภาคเหนือ) เฮียวข่า (งู-แม่ฮ่องสอน) เปลพ้อ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เฮียวแดง เฮียวดำ (แม่ฮ่องสอน) กะทือ (ภาคกึ่งกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Zingiber zerumbet. (L.) Sm.
ชื่อพ้อง Amomum Zerumbet L. Zingiber amaricans Blume
ชื่อวงศ์   ZINGIBERACEAE
ชื่อสามัญ Wild Ginger.
ลักษณะทั่วไปทางพฤกษศาสตร์
ไม้ล้มลุก (H) ที่มีลำต้นใต้ดินลักษณะเป็นเหง้า มีกลิ่นน้ำมันระเหย เนื้อในเหง้าหรือลำต้นใต้ดินมีสีขาวอมเหลืองอ่อน มีกลิ่นฉุน เปลือกนอกสีน้ำตาลปนเหลือง แทงหน่อออกข้างๆและก็นอกสุด ลำต้นส่วนของกาบใบที่แผ่ขยายออกแล้วหุ้มห่อซ้อนทับกันจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นลำต้นเทียมมีสีเขียว สูงราว 2 เมตร
ใบ เป็นใบโดดเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะใบรูปขอบขนาน หรือรูปใบหอก ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมนและสอบเรียวเข้าพบก้านใบ ขอบของใบเป็นคลื่น แผ่นใบสีเขียวเข้ม ท้องใบหรือใต้ใบมีขนสีขาวที่นาลปกคลุมก้านใบสั้น
ดอก มีดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงสด แตกช่อจากหัวใต้ดินดโผล่พ้นดินขึ้นมา ช่อดอกที่เห็นเป็นรูปทรงกระบอกสีเขียวปนแดง ปลายและก็โคนมนโค้ง ประกอบด้วยใบแต่งแต้มที่เรียงซ้อนกันแน่น เมื่อดอกยังอ่อนจะปิดแน่น รวมทั้งจะขยายอ้าออกให้เห็น ดอกที่อยู่ภายในลักษณะเป็นหลอดโผล่ออกมาจากซอกใบแต่งแต้ม กลีบดอกมีสีเหลืองอ่อนหรือสีขาวนวล โคนกลีบดอกม้วนห่อส่วนปลายกลีบผายกว้างผล ลักษณะกลม โต แข็ง เส้นผ่านศูนย์กลางโดยประมาณ 1 ซม. มีสีแดง เป็นแบบผลแห้งแตก
(http://www.คลังสมุนไพร.com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B7%E0%B8%AD-1.jpg)
นิเวศวิทยา
เจอขึ้นเป็นกอๆตามป่าดงดิบทั่วๆไป ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 100-1,000 เมตร
การปลูกแล้วก็แพร่พันธุ์
เติบโตเจริญในดินซึ่งร่วนซุย ไม่ชอบน้ำขัง สามารถปลูกได้ทุกฤดู ปลูกโดยการตัดใบออกให้เหลือประมาณ 15 เซนติเมตร ขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อหรือเหง้า
ส่วนที่ใช้รสรวมทั้งสรรพคุณ
ราก รสชื่นขมเล็กน้อย แก้ไข้ แก้ไข้ตัวเย็น แก้ไข้ตัวร้อน แก้ไข้ต่างๆแก้เคล็ดลับขัดยอก
สมุนไพร (http://www.disthai.com/) เหง้าหรือลำต้นใต้ดิน  รสชื่นขมปร่า แก้แน่นหน้าอก แก้ปวดมวนในท้อง บำรุงน้ำนมให้สมบูรณ์ เป็นยาขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องอืดท้องเฟ้อ บำรุงธาตุ ขับปัสสาวะ แก้เสมหะเป็นพิษ แก้บิด ขับน้ำย่อย เจริญอาหาร แก้บิดปวดเบ่ง เป็นยาบำรุงกำลัง แก้ฝี ผสมในตำรับยาร่วมกับสมุนไพรตัวอื่น แก้ไข้ตัวเย็น แก้กระษัย แก้ท้องเฟ้อ แก้โรคลม เป็นยาระบาย แก้ฉี่ขุ่นขัน แก้บิด บำรุงธาตุลำต้น รสชื่นขม เป็นยาแก้เบื่่ออาหาร ทำให้เจริญอาหาร แก้ไข้
ใบ รสชื่นขมนิดหน่อย ใช้ใบต้มเอาน้ำดื่มเป็นยาขับเลือดเน่าในมดลูก (เลือดเน่าร้ายในเรือนไฟ) ขับน้ำคาวปลา ใช้ผสมในตำหรับยาร่วม กับสมุนไพรอื่น เป็นยาแก้ไข้ป่า อีสุกอีใส เป็นยาประคบเส้นบวมช้ำ ถอนพิษไข้ แก้ไข้ กระแทกพิษไข้ แก้ไข้อีดำอีแดง แก้หัด ไข้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไข้แปลงฤดู แก้ไข้เชื่องซึมผิดสำแดง
ดอกรวมทั้งเกสร รสชื่นขมบางส่วน แก้ไข้เรื้อรัง แก้ผ่ายผอม แก้ไข้ตัวเย็น แก้ไข้จับสั่น แก้ผอมบางเหลือง บำรุงธาตุ แก้ลม
วิธีใช้รวมทั้งจำนวนที่ใช้