รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: bilbill2255 ที่ พฤศจิกายน 30, 2017, 10:25:13 AM
-
(http://www.คลัง[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C.png)
เขาสัตว์อื่นที่ใช้แทนเขากุยได้ (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%80/)
เขาจำพวกอื่นที่มีคุณลักษณะละม้ายกับเขากุย ตำราว่าใช้แทนกันได้ ดังเช่นว่า
๑.กาเซลคอพอก
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gazella gutturosa Pallas
มีชื่อสามัญว่า goitred gazelle
พบในเอเชียกึ่งกลาง จากทิศใต้ของทะเลสาบแคสเปียนถึงภาคตะวันตกของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเหนือของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ที่สม่ำเสมอไปจนถึงเขตปกครองตนเองดูโกเลียใน สัตว์ประเภทนี้เพศผู้มีต่อมใหญ่ขึ้นที่คอหอยคล้ายกับเป็นโรคคอพอก ซึ่งเห็นได้ชัดในช่วงฤดูสืบพันธุ์เพศผู้มีเขายาว ทางช้อนไปข้างหลัง ปลายงอนขึ้น ยาวราว ๒๕ เซนติเมตร
๒.ชิ รูหรือ แอนติโลปทิเบต
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pantholops hodgsoni Abel
มีชื่อสามัญว่า chiru หรือ Tibetan antelope
เจอในทุ่งหญ้าเนินสูงของเขตปกครองตนเองประเทศทิเบต สูงที่ไหล่ยาว ๑ เมตร หนัก ๒๕-๓๕ กิโล มีเขายาวมากมาย ถูกใจย้ายถิ่นที่อยู่ ในช่วงฤดูสืบพันธุ์มีฝูงตัวเมียถึง ๒0 ตัว โดยที่ตัวผู้คุมฝูงอยู่เพียงแค่ตัวเดียว สัตว์ชนิดนี้ชอบใช้กลีบขุดหลุม นอนลึกๆเพื่อหลบอากาศหนาว
๓.กาเซลทิเบต
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Procapra picticaudata Hodgson
มีชื่อสามัญว่า Tibetan gazelle
สัตว์จำพวกนี้มีลักษณะของกาเซลหลายประการ เป็น มีขนหางสั้น ไม่มีต่อมหัวตา ไม่มีพู่ขนบนเขา มีเขาเฉพาะบุคคลผู้ ตัวเมียไม่มีลายที่หน้า ปลายเขาไม่โค้งเป็นตาขอ รวมทั้งตรงปลายก้นมีแถบขาว สัตว์ชนิดนี้สูงที่ไหล่ราว ๖0-๖๕ เซนติเมตร หนักราว ๒0 กิโลกรัม ข้างตัวสีน้ำตาลจาง แล้วก็จางเป็นสีเทาในช่วงฤดูร้อน เจอตามเทือกเขาสูงในที่ราบสูงประเทศทิเบต
๔.กวางหน้าผา
(http://www.คลังสมุนไพร.com/wp-content/uploads/2017/09/article_other-20111105-1508270.jpg)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nemorhaedus goral Hardwicke
มีชื่อสามัญว่า common goral หรือ Himalayan goral
เจอในประเทศไทย ตามเทือกเขาที่สูงชันทางทิศตะวันตกของแม่น้ำปิง เคยเจอที่ภูเขาม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่ และก็ภาคตะวันตกของประเทศพม่าต่อกับบังกลาเทศ ตลอดไปตามแนวแนวเขาหิมาลัย ถึงรอบๆทิศตะวันตกเฉียงใต้ของไซบีเรีย กวางเขาหินมีขนาดเล็กกว่าแกงเลียงผา สีตามตัวเป็นสีเทาแกมน้ำตาลอ่อนๆแกมสีฟ้าจางที่ใต้คอมีสีขาว ที่สันคอไม่มีขนแผง แต่ว่ามีเส้นสีน้ำตาลเข้มจากสันคอไปบนสันหลังจนกระทั่งหาง กวางหน้าผาแตกต่างจากเลียงหน้าผาตรงที่กวางผาไม่มีรูต่อมที่อยู่ระหว่างตากับจมูก เขาแหลมโค้งไปด้านหลังเหมือนเลียงเขาหิน แม้กระนั้นเล็กกว่า มีคอดที่โคนเขาราวกึ่งหนึ่งของความยาวเขา กวางผาเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่เป็นฝูงราว ๕-๖ ตัว เดินหากินตามทุ่งหญ้าในเช้าตรู่ [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร (http://www.disthai.com/)[/url] และก็ตอนเวลาเย็น ครั้งคราวก็นอนเล่นบนหิน พระหนังสือธาตุวิภังค์ให้ยาที่เข้า “เขากุย” ไว้ ๒ ขนาน ขนานหนึ่งคือ “ยาจิตรมหาวงษ์” ซึ่งมีบันทึกไว้ ดังต่อไปนี้ ยาชื่อจิตรมหาวงษ์ แก้คอยุ่ยลิ้นเปื่อยยุ่ยแลปากเปื่อยแลแก้ไอ ท่านให้เอา รากมะกล่ำ ต้น ๑ รากมะกล่ำเครือ ๑ รากมะขามป้อม (http://www.disthai.com/16488243/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1) ๑ เนระภูเขาสี ๑ เขากวาง (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99/) ๑ เขากุย (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%80/) ๑ นอแรด ๑ งาช้าง ๑ จันทร์ทั้งคู่นี้ บอแร็กสะตุ ๑ ยาทั้งนี้เอาส่วนเท่ากัน ตำผงบดทำแท่งไว้ ลานตาน้ำผึ้ง (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/06/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87/)ทา หายแล
พระคัมภีร์ปฐมจินดาร์ให้ยาหลายขนานที่เข้า “เขากุย” ขนานหนึ่งเป็นยาแก้ซางแห้ง ซึ่งมีบันทึกไว้ ดังนี้ ยาแก้ทรางแห้ง เป็นทรางมิจฉาชีพทรางเพลิง ถ้าหากขึ้นตาเป็นเกล็ดกระดี่ แล้วให้ยอดเยี่ยมขึ้นพรึงไปหมดทั้งตัวดังผื่น เอาหอมแดง ๑ รากนมแมว ๑ รากเข็มเหลือง ๑ พรมมิ ๑ กระทือ ๑ ไพล (http://www.disthai.com/16488307/%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A5) ๑ กระเทียม (http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1) ๑ หว้านเปราะ ๑ รากถั่วภูเขา ๑ เขากวาง ๑ นอแรด ๑ เขากุย ๑ เขี้ยวเสือ ๑ เขี้ยวจระเข้ ๑ เขี้ยวหมี ๑ เขี้ยวหมู ๑ เขี้ยวแรด ๑ โกศอีกทั้ง ๕ เทียนอีกทั้ง ๕ การะบูร (http://การะบูร) ๑ น้ำประสานทอง ๑ รวมยา ๒๘ สิ่งนี้ เอาเท่าเทียม ทำเปณจุณ เอาน้ำดอกไม้เป็นกระสาย บดทำแท่ง ลานตาน้ำแตงกวารับประทาน แก้ในตาต้อทั้งยัง ๔ แลต้อสำหรับทรางกุมารทั้งหมด
Tags : สมุนไพร