รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: ณเดช2499 ที่ พฤศจิกายน 24, 2017, 10:55:12 AM
-
(http://www.คลังสมุนไพร.com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%B0.png)
แพะเป็นสัตว์เลือดอุ่น (http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%B0/)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Capra hircus Linnaeus
จัดอยู่ในวงศ์ Bovidae
มีชื่อสามัญว่า goat
ชีววิทยาของแพะ
แพะเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างเหมือนแกะ แต่มีลักษณะที่แตกต่างที่เห็นได้ชัด คือ
๑.แพะมีหนวดเคราใต้คาง ส่วนแกะไม่มี
๒.แพะเพศผู้มีต่อมกลิ่นสาบที่ใต้โคนหาง กลิ่นสาบจะกระจัดกระจายจากต่อมนี้ไปทั่วตัว เรียกกันว่า “กลิ่นแพะ” ส่วนแกะไม่มีต่อมกลิ่นดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว
๓.แพะไม่มีต่อมกลิ่นที่หว่างกีบ แม้กระนั้นแกะมีต่อมกลิ่นดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว
๔.แพะมักมีเขาเหมือนกระบี่ โค้งไปข้างหลัง แกะมักมีเขาม้วนกลับไปใต้หู แต่ก็ไม่เป็นเช่นนี้เสมอไป
๕.แพะมักมีขนเป็นเส้นตรงๆ โดยมากเป็นขนสั้นๆแต่ลางจำพวกที่เลี้ยงไว้บนที่สูงอาจมีขนยาว แต่ว่าแกะมีขนม้วนดกไปหมดทั้งตัว
แพะบ้านที่เลี้ยงกันทั่วๆไปมีพัฒนาการมาจากแพะป่า ( wild goat) ซึ่งมีความสูง ๗๐-๑๐๐ เซนติเมตร เขายาวโค้งไปด้านหลัง ยาวราว ๘๐-๑๓๐ เซนติเมตร โค้งข้างบนคมและหยักเป็นคลื่น ตัวเมียมีเขาสั้น ยาวราว ๒๐-๓๐ ซม. เขาโค้งน้อย ตัวผู้มีหนวดเคราใต้คาง ไม่พบว่าตัวเมียมีเคราใต้คาง พบแพร่ตามเกาะต่างๆของประเทศกรีซ ถึงประเทศตุรกี อิหร่าน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอัฟกานิสถาน โอมาน ปากีสถาน และรอบๆใกล้เคียงในประเทศอินเดียในตอนนี้มีการเลี้ยงแพะบ้านกันในหลายประเทศ บางประเทศเลี้ยงเพื่อเอาขน แม้กระนั้นจะต้องเลี้ยงบนที่ราบสูงที่มีอากาศหนาวเย็น บ้างก็เลี้ยงไว้กินนม บ้างก็เลี้ยงไว้กินเนื้อ คนมุสลิมชอบรับประทานเนื้อแพะมากมาย
(http://www.คลัง[b][url=http://www.disthai.com/][b]สมุนไพร[/b][/url][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/8x.jpg)
ผลดีทางยา
หมอแผนไทยรู้จักใช้เขาแพะและนมแพะเป็นเครื่องยา บางขนานใช้น้ำนมแพะเป็นน้ำกระสายยาน้ำนมแพะได้จากเต้านมของแพะตัวเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ หนังสือเรียนสรรพคุณยาโบราณว่า นมแพะมีรสหวาน ฝาด เย็น มีสรรพคุณแก้โลหิต แก้หืดไอ แก้ท้องเดิน