รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: บันทึกท้ายบันทึกสัญญาจะซื้อขายระบุให้ชำระเงินแก่บุคคลภายนอกมีผลบังคับได้หรือไม่  (อ่าน 222 ครั้ง)

saibennn9

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 274
    • ดูรายละเอียด
    • ทนายความเชียงใหม่

ในการทำนิติกรรมระหว่างกันนั้น โดยหลักแล้วต่างฝ่ายต่างเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้ต่อกัน อาทิข้อสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน ฝ่ายผู้ซื้อเป็นเจ้าหนี้ผู้มีสิทธิเรียกร้องในหนี้ส่งมอบที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่วนฝ่ายผู้ขายเป็นเจ้าหนี้ในหนี้ราคาที่ดินที่ซื้อขายกันตามข้อสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน เป็นต้น หากปรากฏว่า ผู้ขายจำต้องการให้ผู้ซื้อที่ดินชำระเงินตามบันทึกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินให้แก่บุคคลภายนอกข้อสัญญาจะมีผลเป็นอย่างไร
 
ในกรณีดังกล่าว ทางกฎหมายเรียกว่า บันทึกสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลภายนอกมีสิทธิในอันที่จะเรียกร้องให้ลูกหนี้ตามข้อสัญญาชำระหนี้ให้แก่ตนได้โดยตรง และเมื่อสิทธิของบุคคลภายจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อบุคคลภายนอกนั้นได้เรียกร้องว่าจะให้ลูกหนี้ชำระหนี้แก่ตน และส่งผลให้ลูกหนี้รวมถึงคู่บันทึกสัญญาอีกฝ่ายจะตกลงกันเพื่อยกเลิกเพื่อของบุคคลภายนอกนั้นไม่ได้
 
ยกตัวอย่างอาทิ นาย ก ทำบันทึกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๒๓๔ พร้อมสิ่งปลูกสร้างกับนาย ข เจ้าของที่ดิน ในราคา ๑๐ ล้านบาท โดยได้ระบุไว้ในข้อสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินดังกล่าวว่า นายจะอาจต้องชำระหนี้ราคาที่ดินดังกล่าวให้แก่ นาง ค แทนการชำระหนี้ให้แก่นาย ข ดังนี้ ข้อสัญญาจะซื้อจะขายตามข้อข้อสัญญาดังกล่าว เป็นข้อสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก ต่อมาเมื่อนาง ค ทราบว่า ข้อสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินระหว่าง นาย ก กับ นาย ข ได้มีข้อบันทึกสัญญาดังกล่าวเพื่อให้ชำระค่าราคาที่ดินจำนวน ๑๐ ล้านบาท ให้แก่นาง ค ๆ จึงได้จัดทำหนังสือแสดงเจตนาต่อนาย ก และนาย ข ว่า ตนประสงค์จะถือเอาประโยชน์ตามบันทึกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินดังกล่าว ทำให้ข้อสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกมีผลใช้บังคับได้ และนาย ก และนาย ข ไม่อาจตกลงเปลี่ยนแปลงเกี่ยวข้องกับบันทึกสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกได้อีกต่อไป
กรณีศึกษาตามคำพิพากษา โดยมีข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7565 - 7567/2561 ตามข้อสัญญาจะซื้อจะขายพิพาทไม่ได้กำหนดวันจดทะเบียนโอนที่ดินและโรงงานให้แก่จำเลยที่ 1 จึงอาจต้องแปลความว่าหนี้ที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จะอาจต้องชำระแก่โจทก์ทั้งสามนั้นถึงกำหนดชำระเมื่อมีการจดทะเบียนโอนที่ดินและโรงงานให้แก่จำเลยที่ 1 แล้วนั่นเอง เมื่อปรากฏว่าบริษัท อ. จดทะเบียนโอนที่ดินและโรงงานให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 ย่อมถือว่าหนี้ที่จำเลยที่ 1 อาจต้องชำระให้โจทก์ทั้งสามถึงกำหนดในวันดังกล่าว หาใช่ถึงกำหนดนับแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2557 อันเป็นวันที่โจทก์ทั้งสามแสดงเจตนาให้จำเลยทั้งสามทราบว่าจะถือเอาประโยชน์ตามบันทึกสัญญาเพื่อประโยชน์แก่บุคคลภายนอกไม่
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายความเชียงใหม่

ที่มา : https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/

Tags : ทนายเชียงใหม่
บันทึกการเข้า