รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีรักษา และดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ  (อ่าน 15 ครั้ง)

nanasee

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
    • ดูรายละเอียด


           โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาจากไขมัน และเนื้อเยื่อสะสมในผนังของหลอดเลือด ทำให้เยื่อบุผนังหลอดเลือดชั้นในตำแหน่งนั้นหนาตัวขึ้น ทำให้หลอดเลือดมีการตีบแคบลง ทำให้เลือดซึ่งนำออกซิเจนไหลผ่านได้น้อยลง ส่งผลให้เลือดไหลไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ไม่เพียงพอ จนเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และเกิดอาการอื่นๆ ตามมา อย่างอาการเจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก บริเวณอกข้างซ้ายหรือกลางอก เหมือนมีคนมากดทับ ถือเป็นอาการหลักของหลอดเลือดหัวใจตีบ บางรายมีอาการรุนแรงถึงขั้นอาจหมดสติ หรือหัวใจหยุดเต้น หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาโดยด่วน ซึ่งในปัจจุบันการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป เพราะด้วยมีเครื่องมือที่ทันสมัย ทำให้ง่ายต่อการรักษามากขึ้น ทั้งนี้ในการรักษาสามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์
วิธีรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
1.   การใช้ยามีหลายกลุ่มยาที่ใช้ในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
•   ยาลดความดันโลหิต: ช่วยลดการหดตัวของหลอดเลือดและลดการทำงานของหัวใจ เช่น ยาเอสเอ็นไอ
•   ยาลดคอเลสเตอรอล: ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด เช่น สเตติน
•   ยาลดการจับตัวของเม็ดเลือด: ช่วยลดความหนืดและความเสี่ยงของการเกิดโรคลิ่มเลือด รวมถึงยาแอสไปริน
•   ยาต้านเกร็งหลอดเลือด: ช่วยลดการเกร็งของหลอดเลือด เช่น ยาโปรนาซา
2.   การผ่าตัด: ในบางกรณีที่ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบรุนแรงมาก หรือไม่สามารถควบคุมด้วยการใช้ยาได้ การผ่าตัดอาจจำเป็น เช่น การทำบายพาสหลอดเลือดหัวใจ
3.   การทำการบายพาสหลอดเลือดหัวใจ: เป็นกระบวนการที่ใช้ท่อต้านน้ำตาลที่มีลวดโปร่งเข้าไปในหลอดเลือดเพื่อขยายหลอดเลือดที่ถูกตีบ
4.   การวางติดตั้งสเตนท์: หลังจากการทำการบายพาส สเตนท์อาจถูกวางเข้าไปในหลอดเลือดเพื่อช่วยรักษาความเป็นผู้ตีบของหลอดเลือด
5.   การฝังเข็มสะสมเม็ดเลือด: เป็นกระบวนการที่ใช้ในกรณีที่หลอดเลือดตีบรุนแรงมาก โดยการฝังเข็มเพื่อสร้างการไหลของเลือดที่เพียงพอสำหรับหัวใจ
6.   การฟื้นฟูสุขภาพหัวใจ: หลังจากการรักษาอาจจำเป็นต้องมีการฝึกออกกำลังกายและการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตที่สุขภาพดี เพื่อเสริมสร้างสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงมากขึ้น

            ซึ่งเราสามารถป้องกันการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ด้วยการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตในประจำวันได้ด้วยการ  ทานผัก ผลไม้เป็นประจำ,ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่,ไม่สูบบุหรี่,ออกกำลังกายสม่ำเสมอ,งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์,ทำจิตใจให้สดชื่น อย่าเครียดบ่อย ควรตรวจวัดความดันเลือด เจาะเลือดหลังงดอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 12 ชม. ถ้าเป็นผู้ชายที่มีรอบเอวมากกว่า 90 ซม. และผู้หญิงที่มีรอบเอวมากกว่า 80 ซม. เพื่อตรวจหาระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ เอชดีแอล  และน้ำตาลในเลือด ทั้งนี้โรคหลอดเลือดหัวใจ ถือเป็นอีกหนึ่งภัยอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม หรือละเลย หากพบความผิดปกติควรรีบไปตรวจร่างกายเพื่อที่จะได้ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมโรคหลอดเลือดหัวใจตีบโรงพยาบาลนนทเวชคลิก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 25, 2024, 10:16:25 AM โดย nanasee »
บันทึกการเข้า