รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Topics - หนุ่มน้อยคอยรัก007

หน้า: [1] 2 3 ... 6
1

ขายมะรุม คุณประโยชน์fyjiu;lo9;ทางโภชนาการของมะนาวสภาวะขาดธาตุเหล็ก การดูแลและรักษาคนป่วยที่ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กไม่ดีจนกระทั่งเกิดภาวะขาดธาตุเหล็ก หมอบางทีอาจแนะนำให้รับปkl58y;pjระทานยาจำหน่ายมะรุมเสริมธาตุเหล็กพร้อมกันไปกับวิตามินซี ซึ่งจะช่dfnjyukiulวยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ky89;-8urกของร่างกาย ก็เลยเกิดความคิดที่ทำการรับประทานอาหารl/[prrriutที่อุดมด้วยวิตามินซีอย่างน้ำส้มหรือน้ำมะนาวบางครั้งอาจจะสามารถช่o7วยป้องกันหรือรักษาภาวะขาดธาตุเหล็ก โดยนำ97pมาซึ่งการทำให้ร่า7กายดูดซึมธา90ตุเtlu9;;หล็กจากอาหารต่างๆที่กินเข้าไปก้า97;0-'-'วหน้าด้วยอย่างไรก็แล้วแต่ จtlk89y,koiu;ากผลการศึกษาเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ขายมะรุม งานศึกษาค้นคว้าวิจัยหนึ่งทดสอบแบ่งกลุ่มหญิงที่มีภาวะขาดธาตุเหล็ก กลุ่มละ 18 คน โดยกลุ่9l90มหนึ่งกินน้ำมะนาวที่ปrk98l9;pkระกอบด้วยวิตามินซี 25 มก. วันละ 2 ครั้ง อาทิตย์ละ 6 วัน เป็นระยะเวล90านาน 8 เดือน ส่วนอีกกรุ๊ปหนึ่งกินยาหลอก ผลพบว่าการรับประทานน้ำมะนาวไม่ได้ช่วยเพิ่มระดับธาตุเหล็กในร่าoงกายของหญิ9uo';'งที่;.มีสpo;ภาวะนี้อะ9ไรแก้อาการจำหน่ายมะรุมอ้วก มะนาวผ่าซี;877ก โรยเกลือลงไปนิดหน่อยแล้วก็บีบน้ำ'oitมะนาวใส่ปากยอดเยี่ยมในกลเม็ดทุเลาอาการคลื่นไส้ยอดนิยม แม้กระนั้นจะสำเร็จใช่หรือไม่นั้นยังไม่มีเรียนเกี่ยวกับสรรพคุณด้านนี้ของมะ['p0'นาวออกมารับรอง อย่างไรก็ตาม แนวทางลักษณะนี้นับเl8l;['-5j78863ป็นแนวทางกล้วยๆที่สามารถลองใช้ได้อย่างไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตราย ถ้าเกิดเป็นอาการอาเจียนทั่วๆไปที่ไม่ร้ายแรง แม้กระนั้นr;7psehjyr7k3ถ้าเกิดทดลองแล้วยังไม่หายหรือมีอาการขายมะรุมแตกต่66+าej87งจากปกติก็ควรไ6tl9807;l9;ปพบหมอเพื่อตรวจตราอาการจะยอดเยี่ยม เช่นเดียวกันกับอีกหลายๆโรค

Tags : ขายมะรุม,จำหน่ายมะรุม,ขายมะรุม

2

ขายว่านชักมดลูก สาลี่ ผลftrnytดีดีต่อสุขภาพ จัดเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำดื่มแล้วชื่นใจ นำไปคือผลไม้ไหว้ก็ได้ เพราะว่าสาลี่สื่อควาrthbมหมายดีๆในตัวเองผลไม้อย่างสาลี่เป็นผลttjไม้ที่มีให้tกินจำหน่ายว่านชักมดลูกตลอดทั้งปี สาtjลี่เลยเป็นเยี่ยมในผลไ7leehม้มงคลที่คนนิยมเhhjอามาไหว้กัน ด้วยเหตุว่าสาลี่มีความykmหมายถึงโชคลาภyu, อีกทั้งผิวเปลือกสีเหลืองทองคำยังเป็นสีที่ออกจะมง7yk78คลอีkกด้วยykyul แต่นอกจากyukmkประโยช์จากสา67k7ลี่ในเรื่องความมีโชคมีลาภแล้ว สาgmjyukลี่ คุณyประโยชน์ต่อสุขภiu,าพก็มีไม่น้อย ลองมาอ่านปyระโยนช์7ของyk,7trfjtสาลี่กัyนหน่อยดีก67yk7ว่าค่ะจะมองเห็นได้ว่าสาลี่คือผลไม้ขายว่านชักมดลูกฉ่ำน้ำจริงๆและคือผลไม้ที่ออกจtj7y6i5rhfะให้k6y67พลังงานต่ำ ไขมันก็ต่ำ แต่จำนวนแร่ต่างๆรวมถึงน้ำตาลของสาลี่แต่ละจำพวกนั้นไม่เหมือนกันน้อยถึงปาน7l8l88lกลาง ซึ่งจุดนี้สาลี่ชนิดน้ำตาลต่ำที่สุดก็คือ สาลี่น้ำผึ้ง ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 7 กรัมต่อสาลี่ 100 กรัม นั่นเองนะคะ นอกจากนั้นเรายังมีข้อมูลจำนวนน้ำตyk6k7k7rาลในผลไม้จำพวกต่างๆมาให้อ่านกันด้วยสาลี่ จำหน่ายว่านชักมดลูกประโยชน์ไม่น้อย รับประทานก็อร่อยอีกต่างหาก คุณประโยชน์ของสาลี่ที่นtj55j6tjt6jอกi.i.จากจะเป็นผลไม้มงคลแล้ว สาลี่ยังy,y,มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย5tjgfj5ตามนี้เลยจ้ะ แก้หิว คลายร้อนสาลี่เป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำมากมายtjwgdgเกือบทุกจำพวก และก็ยังมีรสหวi.i.านจากu,uน้ำตาลธรรมชาyu,ติพอสมควร ฉะนั้นผู้ใดกันแน่ได้รับประทานสาลี่ก็จะได้รับความมีชีวิตชีวาจากสาลี่ในทันทีทันใด ยิ่งขายว่านชักมดลูกถ้าเกิดu,ui,นำสาลี่ไปแช่เย็นหน่อยนะ อย่างฟินเลยhj5u,.ioi

Tags : ขายว่านชักมดลูก,จำหน่ายว่านชักมดลูก,ขายว่านชักมดลูก

3

ขายส้มเเขก ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น iจะเห็นได้ว่ามันui;op;สำปะหลังเป็นพืชอัศจรรย์ที่อยู่รอi;กายพวกเราจำหน่ายส้มเเขก แล้วgt;.oiก็เป็นมูลเหylok;l,oi;oi;ตุของรiu;ยได้สำคัญของเกษตรykuiกรรวมทั้งผู้ประกอบการp['i;ไทย ฉะนั้น เo;'พื่อuiuliuilซ้ำเติมศักยภาพ/';o/o/l/uji;ขi;องอุตสาหกรรม i;มันสำปะหลังไทยในฐานะผู้ส่งออกมันสำปะหลังชั้น 1 ขulองโลuilulกfkmuilio; กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้io;ต่างประเทศkiul จึงได้กำหนดจั.io.io.uดงานi;ด์ แอทเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว จ.กรุงเykทพฯขายส้มเเขก  เพื่อเป็นเวทีระดมความคิดเห็นulเกี่yukykยวกับทิศทางการสร้างและก็กิจการค้าyktyk ซึ่งจะมีผลให้เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ค้าyk แล้วก็ผู้ส่งออกมันสำปะหลังได้รู้ถึงทิศทางการdkmiulสร้าง o'กิจการค้kykการค้าขาย i;วมทั้งเตรียมความพร้อมในการผลิตสินค้าukป้อนสิ่งที่มีความต้องกuของใหม่การเพrhาะปtyjกที่ทันสมัยtjul ที่tjกำulงจะได้นำมาปรับใช้กับอุkyตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย พร้อมจัดพูดจาจับคู่ธุรกิจ เพื่อเป็นการช่วยสร้าuo'lจังหวะและขยkjuiายop'มู'ลค่าส่งออsjop รวมถึงส่op'';งเสริมความสามาuถให้ราคาหัวมันสดปรับนิสัยสูงขึ้น โดยนอกเหนือจากการtyjสัมมนาจำหน่ายส้มเเขกด้านวิชาการแล้ว ยังมีการจัดนิทioรศการอวดโฉมl;o;ขายส้มเเขก สิ่งใหม่มันสำปะหลังล่าสุดภายใต้แนวคิด "อัศulจรรย์มันสำปะหjhtyjลัoiเปลี่ยนโลก" yj(Tapioca: The Magityjhgc Plant for a Sustainable Future) อีกด้วย

Tags : ขายส้มเเขก,จำหน่ายส้มเเขก,ขายส้มเเขก

4

ขายส้มเเขก ที่กล่าวมาข้างต้น iจะเห็นได้ว่ามันui;op;สำปะหลังเป็นพืชอัศจรรย์ที่อยู่รอi;กายพวกเราจำหน่ายส้มเเขก และเป็นมูลเหylok;l,oi;oi;ตุของรiu;ยได้สำคัญของเกษตรykuiกรและก็ผู้ประกอบธุรกิจไทย ดังนั้น เo;'พื่อตอกย้ำซ้ำเติมความสาpo'/p[มารถi;ขi;องอุตสาหกรรม i;มันสำปะหลังไทยในฐานะผู้ส่งออกมันสำปะหลังชั้น 1 ขulองโลuilulกfkmuilio; กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้io;ต่างประเทศkiul ก็เล/.j/p[pยได้กำหนดจั.io.io.uดงานi;ด์ แอทเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว จ.กรุงเykทพฯขายส้มเเขก  เพื่อเป็นเวทีระดมความคิดเห็นulเกี่yukykยวกับแulนวทางการสร้างและการค้าขายyktyk ซึ่งจะทำululiให้เกษตรกร ผู้สร้าง ผู้ค้าyk และykและก็ผู้ส่งออกมันสำปะหลังได้รู้ถึงทิศทางการdkmiulสร้าง การค้าrjy6 และก็เตรียมความพร้อมสำหรับกาykรuilสำหรับในกulารผลิตสินค้าukป้อนความปรารถนาการเพrhาะปtyjกที่นำสมัย ที่tjกำulงจะได้edเอามาปรับใช้กับอุkyตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย พร้อมจัดพูดจาจับคู่ธุรกิจ เพื่อเป็นการช่วยสร้าuo'lโulกาopo'gสและขยkjuiายop'มู'ลค่าส่งออsjop รวมทั้งผลักดันความสามาuถตีราคาให้หัวมันสดปรับตัวสูงขึ้น โดยนอกเหนือจากการtyjasประชุมสัมมนาจำหน่ายส้มเเขกด้านวิชาการแล้ว ยังมีการจัดนิทioรศการอวดโฉมl;o;ขายส้มเเขก นวัตกรรมมันสำปะหลังล่าสุดภายใต้แนวคิด "น่าพิศวงมันสำปะหjhtyjลัoiเปลี่ยนtyแปลงโลก" yj(Tapioca: The Magityjhgc Plant for a Sustainable Future) อีกด้วย

Tags : จำหน่ายส้มเเขก,ขายส้มเเขก

5

ขายเจียวกู่หลาน ข้าวโพดกับข้อมูลทางโภชนาการข้าวโพดเป็นเมล็ดพืชเต็มเมล็ด ซึ่งประเภทที่คนส่วนมากนิยมนำมารับประทา,7yl,9;น คือ ข้rh67j7kาวโพดหวาน ข้าวโพดคั่ว รวมทั้งข้าวโพดข้าวเหนียวหรือข้าวสาลี โดulio;oยนำมาต้มสุกรับปtjhy78klujuระทาน ใช้จำหน่ายเจียวกู่หลานทำครัวหรือทำของหวาน แต่เว้นเสียแต่รสชาติหวานอร่อยแล้ว ข้าวโพดยังปร+6+ะกอบไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นจะต้องต่อร่างกาย ดังต่อไปนี้วิตามินรวมทั้งแร่ ข้าวโพดแต่ละชนิดประกอบด้วยวิตามินแล้วก็แร่ธาตุนานับประการ โดยข้าวโพดหวาrjyนอุดมไปด้วยวิตามินบี 8i;l09tjntrjซึ่งมีคุณลักษณะช่วยทำให้ร่างกายนำ;ylkgtkสารอาหารประเภทไขมัน คาร์โบไฮเดรต แล้วก็โปรตีนไปใช้ขายเจียวกู่หลานอย่างมีประสิทธิภาพ แj7ulk98lล้วก็ยังมีวิตามินเอที่ช่วยทำนุบำรุงสายตารวมทั้งทำให้มี96ประสิทธิภาพเพิ่yl8i990มมากขึ้นสำหรับเพื่อการแลเห็น ส่วนข้าวโพดคั่วนั้นเป็นแหล่งของกิ53นสำคัญของแร่ธาตุหลายประเภท เช่น ธาตุฟอสฟอรัส แมกนีเซียม แมงกานีส สังกะสี รวมทั้งทองแ7lk98prhtดง 35แต่ว่าข้าวโพดคั่วที่9จำหน่ายตามตลาดมักมีน้ำมัน เนย เกลือ หรือน้ำตาลเป็นส่วนผสม แม้รับประทานเยอะเกินไปก็อาจจะเป็นผลให้จำหน่ายเจียวกู่หลานกำเนิดปัญหาด้านสุขภาพตilมมาได้สารต้าrhtyjน9อนุมูลอิสระ ข้าวโพดอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่ช่วยปกป้องหรือy7j7lk9yk;lยับยั้งความย่ำแย่tjyuik3+ขอ9งเซลล์ที่เกิดขึ้นจาก99;อนุมูลอิสระ อันเป็นเหตุก่อโรคต่างๆอาทิเช่น โรคมะเร็ง โ69รคเส้นเลือด ฯลฯ โดยข้า9l;90;วโyk98l9lพดหวานที่คนส่วนมากนิยมk89olกินมีกรดเฟอรูลิyk3rjkyก (Ferulic Acid) แล้วก็สารต้านอนุมูลอิสร52ะในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ซึ่งเป็นสารสีที่ให้สีเหลือง สีส้ม และก็ytyk98lสีแดงแก่พืชที่ได้พบขายเจียวกู่หลานในข้าวโพด อาทิเช่น 636ซีแซนทิน 8l9prthj5r(Zeaxanthin) ลูทีน (Lutein) คริปโตแซนทิน (Cryptoxanthin) แล้วก็เบต้าแคโรทีน (Beta Carotene)

Tags : ขายเจียวกู่หลาน,จำหน่ายเจียวกู่หลาน,ขายเจียวกู่หลาน

6

ขายว่านชักมดลูก สาลี่ ประโยชน์ดีต่อร่างกาย จัดเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำดื่มแล้วชื่นใจ นำไปเป็นผลไม้ไหว้ก็ได้ เพราะว่าสาลี่มีความหมาtmjยดีๆในตัวเองผลไม้อย่างสาลี่เป็นผลttjไม้ที่มีให้รัu,uio.oi.บประทานจำหน่ายว่านชักมดลูกตลอดทั้งปี สาtjลี่เลยยอดเยี่ยkมในผลไ7leehม้มงคลที่คนนิยมนำมาไหว้กัน เนื่องจfhากสาลี่สื่อความหมายถึงโชคลาภyu, อีกทั้งผิวเปลือกสีเหลืองทองคำยังเป็นสีที่ค่อkนข้างมง7yk78คลอีkกด้วยykyul แต่เว้นเสียแต่คุณyประโยชน์ที่y,k7l8lได้รับมาจากสา67k7ลี่ในเรื่องความมีโชคมีลาภแล้ว สาgmjyukลี่ ผลดีต่อร่างกายก็มีไม่น้อย ลองอ่านปyระโยนช์7ของyk,7trfjtสาลี่กัyนหน่อยดียิ่งกว่าจ้ะจะมองเห็นได้ว่าสาลี่เป็นผyลไม้ขายว่านชักมดลูกชุ่มฉ่ำ67k7น้ำจริงๆรวมทั้งเป็นผลไม้ที่ค่อนข้างจะให้k6y67พลังงานต่ำ ไขมันก็ต่ำ แต่ว่าปริมาณแร่ธาตุต่างๆรวมไปถึงน้ำตาลของสาลี่แต่ละจำพวกนั้นแตกต่tyj6y7k87างกันเล็กน้อยถึงปาน7l8l88lกลาง ซึ่งจุดนี้สาลี่พันธุ์น้ำตาลน้อยที่สุดก็คือ สาลี่น้ำผึ้ง ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 7 กรัมต่อสาลี่ 100 กรัม นั่นเองนะคะ นอกเหนือจากนั้นพวfe3gf4กเรายังมีข้อมูลจำนวนน้ำตyk6k7k7rาลในผลไม้ประเภทต่างๆมาให้อ่านกันด้วยสาลี่ จำหน่ายว่านชักมดลูกคุณป6k6k7ระโยชน์ไม่น้อย รับประทานก็อร่อยอีกต่างหาก คุณประโยชน์ของสาลี่ที่นtj55j6tjt6jอกi.i.จากจะเป็นผลไม้มงคลแล้ว สาลี่ยังy,y,มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ5tjgfj5ตามนี้เลยจ้ะ แก้หิว คลายร้อนสาลี่คือผลไม้ที่มีปริมาณน้ำมากมายtjwgdgแทบทุกประเภท รวมทั้งยังมีรสหวi.i.านจากu,uน้ำตาลธรรมชาyu,ติพอประมาณ โดยเหตุนั้นคนไหนกัo.นแน่ได้กินสาลี่ก็จะได้รับความสดชื่นจากสาลี่ในทันทีทันใด ยิ่งขายว่านชักมดลูกถ้าu,ui,นำสาลี่ไปแช่เย็นหน่อยนะ อย่างฟินเลยhj5u,.ioi

Tags : ขายว่านชักมดลูก

7

ชื่อวงศ์ : LEGUMINOSAE-CAESALPINIOIDEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia fistula L.
ชื่อสามัญ : Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree
ชื่อประจำถิ่นอื่น : ราชพฤกษ์ (ภาคเหนือ) ; ปูโย, เปอโซ, ปือยู, แมะหล่าหยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ; คูณ (ภาคกลาง, ภาคเหนือ) ; ชัยพฤกษ์, ราชพฤกษ์ (ภาคกึ่งกลาง) ; กุเพยะ (กะเหรี่ยง-จังหวัดกาญจนบุรี)
ประเภทนี้ตำราข้างหลังเล่มเสนอ ชื่อใหม่เป็นเพียงแค่ระดับจำพวกย่อย คือ Cassia javanica L.subsp javanica K.& S.S .Larsen พืชประเภทนี้เป็นไม้ใหญ่ขนาดเล็ก ถึงกับขนาดกลาง สูงได้ถึง ๑๕ เมตร เมื่อลำต้นอย่างอ่อนอยู่มีน้ำแข็งที่เกิดจากกิ่งแก่ที่หลุดร่วงไป แต่ว่าเมื่อต้นแก่ขึ้นจะหายไป ลำต้นไม่เป็นปุ่มปม ใบเป็นใบประกอบแบบขนเรียงสลับกัน มีใบย่อย ๕-๑๕ คู่ ก้านใบยาว ๑.๕-๔ เซนติเมตร แกนกลางใบยาว ๒๐-๓๐ ซม. ใบย่อยรูปไข่แกมรูปมูลหรือรูปขอบขนาน กว้าง ๑.๕-๓ ซม. ยาว ๒-๕ เซนติเมตร ปลายใบกลมหรือมน โคนใบกลม ใต้ใบมีขนละเอียดอยู่เอนราบกับผิวใบ ก้านใบย่อยสั้นมาก ดอกออกเป็นช่อตามกิ่ง ก้านช่อดอกใหญ่และก็แข็ง ไม่แตกกิ่ง ยาว ๕-๑๖ เซนติเมตร เมื่อเริ่มบานมีสีชมพูแล้ว กลายเป็นสีแดงเข้ม เมื่อใกล้โรยกลายเป็นสีออกขาว ดอกย่อยมีก้านเรียวยาว ๓-๕ ซม.ราชพฤกษ์ มีกลีบเลี้ยงมี สีแดงเข้มถึงสีแดงอมน้ำตาล รูปไข่ ปลายแหลม ยาว ๗-๑๐ มม.กลีบรูปไข่กลับ กว้าง ๗-๘ มิลลิเมตร ยาว ๒๕-๓๕มิลลิเมตร โคนกลีบดอกไม้เป็นก้านยาวราว ๓ มิลลิเมตร  เกสรเพศผู้มี ๑๐ อัน ปริมาณยาวแตกต่างกัน รังไข่เรียว ขนหุ้มบางๆผลเป็นฝักรูปกระบอกขนาดวัดผ่าศูนย์กลางราม ๑-๑.๕ เซนติเมตร ยาว ๒๐-๖๐ เซนติเมตร แขวนลงมาจากกิ่ง ฝักแก่สีดำ สะอาด ไม่มีขน ไม่แตก มีเม็ดเยอะแยะ และก็รูปแบนเกือบจะกลม สีน้ำตาลวาว
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์
ไม้ต้น (T) สูงราว 5-15 เมตร เปลือกต้นเรียบ เกลี้ยง สีเทาอ่อนหรือสีเทาอมน้ำตาล สีเทาอมขาว หรือสีนวล
ใบ เป็นใบประกอบแบบขน ใบเรียงสลับ ลักษณะใบย่อยรูปไข่ ปลายใบแหลม ขอบของใบเรียบ โคนใบมน แผ่นใบสีเขียว มีใบย่อยประมาณ 4-12 คู่
ดอก ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ เป็นช่อห้อยระย้าออกตามกิ่งหรือออกตามง่ามใบ มีดอกแบบสมมาตรด้านข้าง มีกลีบ 5 กลีบ สีเหลืองสด โดยกลีบเหนือสุดจะเรียงอยู่รอบในสุด ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ผล เป็นฝักกลม ทรงกระบอกยาว ผิวเรียบ และก็มีเปลือกแข็ง ด้านในมีฝาผนังแบนสีน้ำตาล กันเป็นห้องและก็มีเมล็ดห้องละ 1 เมล็ด ผลอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือดำ
เมล็ด มีเนื้อห่อหุ้มนุ่มๆสีน้ำตาลไหม้ หรือสีดำ ลักษณะกลมมนรวมทั้งแบน มีรสหวาน
นิเวศวิทยา
ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้งทั่วๆไป มีมากมายทางภาคเหนือ นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับแล้วก็ปลูกข้างถนนเพื่อความสวยสดงดงาม
การปลูกและขยายพันธุ์
ปลูกได้ไม่ยากและเจริญเติบโตได้ในดินดูเหมือนจะทุกประเภท แม้กระนั้นจะชอบดินร่วนซุยผสมทราย แพร่พันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดรวมทั้งตอนกิ่ง

ผลดีทางยา
รสและก็สรรพคุณในตำราเรียนยา
ราก รสเมา เป็นยาบำรุง รักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี เป็นยาถ่ายอย่างแรง รักษาลักษณะของการมีไข้ ระบายพิษไข้ ถ่ายสิ่งโสโครกออกจากร่างกาย ฆ่าเชื้อโรคโรคกุฏฐัง แก้กลากเกลื้อน แก้อาการเซื่องซึม หนักศีรษะ
เปลือกราก รสฝาด ต้มดื่มแก้ไข้มาลาเรียรวมทั้งระบายพิษไข้ ใช้ร่วมกับเนื้อในฝักเป็นยาแก้ไข้ไข้มาลาเรียและก็เป็นยาระบาย
แก่น รสเมา ใช้เป็นยาขับพยาธิไส้เดือน รักษาอาการท้องร่วง รวมทั้งช่วยเร่งคลอด
[url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C]ราชพฤกษ์[/url]เปลือกต้น รสฝาดเมา ใช้เป็นยาช่วยเร่งคลอด รักษาอาการท้องเสีย
กระพี้ รสเมา ใช้แก้โรครำมะนาด
ฝัก เนื้อในฝักรสหวานเบื่อ ใช้กินเป็นยาระบาย ช่วยบรรเทาอาการแน่นหน้าอก ถูหรือจ่ายน้ำดี แก้ลมเข้าข้อแล้วก็ขัดข้อ
เปลือกฝัก รสเฝื่อนฝาดเมา ทำให้แท้งลูก ขับเกลื่อนกลาดที่ค้าง รวมทั้งทำให้อาเจียน
ใบแก่ รสเมา ใบสดหรือตากแห้ง ใช้เป็นยาถ่าย รักษาอัมพาต ฆ่าเชื้อโรคทั้งสิ้น ฆ่าพยาธิผิวหนัง รักษาอัมพาตของกล้ามบนใบหน้า พอกแก้ปวดข้อ หรือต้มน้ำแก้โรคเกี่ยวกับสมอง แก้เส้นเอ็นทุพพลภาพ
ใบอ่อน รสเมา ตำพอกหรือคั้นเอาน้ำทารักษาโรคขี้กลากโรคเกลื้อน แก้ไข้รูมาติก
ดอก รสเปรี้ยวขม ใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร เป็นยาถ่ายพยาธิ ต้มดื่มแก้ไข้ แก้แผลเรื้อรัง ช่วยหล่อลื่นในลำไส้ ระบายท้อง
เมล็ด ช่วยกระตุ้นให้อาเจียน เป็นยาถ่าย
ราชพฤกษ์ แนวทางและจำนวนที่ใช้
แก้ท้องผูก โดยการเอาเนื้อในฝักแก่หนักโดยประมาณ 5-10 กรัม ต้มกับน้ำ 500 ซีซี ใส่เกลือน้อย ดื่มก่อนนอนหรือเวลาเช้าก่อนกินอาหาร เป็นยาระบายที่เหมาะสำหรับคนที่ท้องผูกเป็นประจำ รวมทั้งสตรีตั้งท้องก็ใช้ฝักคูณเป็นยาระบายได้
รักษาโรคกระเพาะ โดยใช้ฝักราวๆ 30 กรัม ผสมน้ำ 100 ซีซี ต้มให้เดือดและเหลือน้ำ 50 ซีซี ดื่มให้หมดครั้งเดียว วันละ 3 ครั้ง http://www.disthai.com/

8

กระเทียม
กระเทียมกับคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
กระเทียม เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะประกอบด้วย 6-10 กลีบ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงทำกับข้าว กระเทียมเป็นพืชที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากพืชทั่วไป เพราะว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในจำนวนมาก นอกเหนือจากนั้นกระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารฯลฯ ดังเช่นว่า อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) แล้วก็ซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย
กระเทียม
หลายๆคนบางทีอาจจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล ซึ่งมีสาเหตุจากสารอัลลิซิน (Allicin) นอกเหนือจากการที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่เด่นแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แล้วก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆดีขึ้น โดยที่หลายคนเชื่อว่าการกินกระเทียมบางทีอาจช่วยทุเลาอาการที่เกี่ยวเนื่องกับหัวใจรวมทั้งเส้นโลหิต ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล ทุเลาหวัด รวมถึงใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมร่วงอีกด้วย
ทั้งนี้สิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์หรือหลักฐานทางการแพทย์มีมากน้อยเพียงใดที่จะช่วยยืนยันสรรพคุณ คุณประโยชน์ และความปลอดภัยของการกินกระเทียมที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยสำหรับในการรักษาโรคพวกนี้
ความดันเลือดสูง อัลลิซินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงหน้าในหลอดเลือดและนำมาซึ่งการทำให้เส้นโลหิตขยายตัวรวมทั้งทำให้ระดับความดันโลหิตลดลดน้อยลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองชิ้นหนึ่งให้ผู้ป่วยที่หรูหราความดันโลหิตสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิตรปรอท รับประทานกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มก. ตรงเวลา 12 อาทิตย์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดน้อยลงมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับคนเจ็บที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานกระเทียมบ่มสกัดอาจมีสมรรถนะสำหรับเพื่อการรักษาคนป่วยความดันเลือดสูงได้ดีมากยิ่งกว่ายาหลอก
แม้กระทั่งมีการทดลองอีก 2 ชิ้นที่ชี้ให้เห็นถึงสมรรถนะของกระเทียมสำหรับการลดความดันเลือดได้ดียิ่งไปกว่าการใช้ยาหลอก แต่เพราะผลการทดสอบอาจยังไม่แม่นพอเพียงที่จะสรุปประสิทธิภาพของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจรวมทั้งเส้นโลหิตในคนเจ็บความดันโลหิตสูง จึงยังจำเป็นต้องเรียนเพิ่มอีกเพื่อรับรองสมรรถนะที่กระจ่างแจ้งยิ่งขึ้น
โรคมะเร็ง ความเกี่ยวเนื่องของการบริโภคกระเทียมรวมทั้งการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังคลุมเครือและยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ซึ่งจะมองเห็นได้จากการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งเพศชายรวมทั้งเพศหญิงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะจำนวนกว่า 5,000 คน กินสารอัลลิทริดินขนาด 200 มิลลิกรัมต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยทำการทดลองตรงเวลา 5 ปี และก็เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอกแล้วพบว่ากรุ๊ปที่รับประทานสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกต่ำลง 33 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะต่ำลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
แม้กระนั้น มีการศึกษาวิจัยอีก 19 ชิ้นแสดงให้เห็นว่า ยังไม่พบหลักฐานที่น่าไว้ใจถึงที่กะไว้จะช่วยสนับสนุนความเกี่ยวพันของการบริโภคกระเทียมต่อการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร โรคมะเร็งอก โรคมะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก แล้วก็มีหลักฐานที่ค่อนข้างจำกัดที่ช่วยเหลือว่าการบริโภคกระเทียมบางทีอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดอาหาร โรคมะเร็งกล่องเสียง มะเร็งในช่องปาก หรือโรคมะเร็งรังไข่
ดังนี้สถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา (NCI) ได้กล่าวว่ากระเทียมเป็นพืชผักชนิดหนึ่งที่อาจมีคุณลักษณะต่อต้านมะเร็ง แม้กระนั้นยังมีต้นสายปลายเหตุอื่นๆเป็นต้นว่า ลักษณะของสินค้าที่ทำจากกระเทียม หรือปริมาณความเข้มข้นที่หลากหลาย อาจจะทำให้พิสูจน์ถึงความสามารถของกระเทียมได้ยาก และก็เมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บไว้ภายในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้คุณภาพของกระเทียมสิ้นสุดไปได้ด้วยเหมือนกัน
แก้หวัด คนไม่ใช่น้อยเชื่อว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์รวมทั้งเชื้อไวรัส รวมทั้งมีการประยุกต์ใช้เพื่อคุ้มครองรวมทั้งทุเลาอาการหวัดมาอย่างยาวนาน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครจำนวน 146 คน กินสารสกัดจากกระเทียมแบบเป็นเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิสินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 12 อาทิตย์ แล้วให้อาสาสมัครจดบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง ทั้งยังพบว่าระยะเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีจำนวนวันที่น้อยกว่า แต่ว่าระยะเวลาการฟื้นตัวจากอาการหวัดของ 2 กรุ๊ปมีความต่างกันเพียงนิดหน่อย ถึงผลของการทดสอบข้างต้นจะบ่งบอกถึงถึงคุณภาพของกระเทียม แต่หลักฐานการทดลองทางสถานพยาบาลยังไม่เพียงพอรวมทั้งจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเพื่อยืนยันสมรรถนะของกระเทียมให้แจ้งชัดยิ่งขึ้น
ลดความอ้วนและมวลไขมัน ในคนไข้ภาวะไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้มีเหตุที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่มักมีสาเหตุมาจากโรคอ้วน โรคเบาหวานจำพวกที่ 2 ความดันโลหิตสูง แล้วก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการรักษาด้วยการกินยา การผ่าตัด หรือลดน้ำหนักอาจน้อยเกินไป ถ้าไม่ดูแลหัวข้อการกินอาหารพร้อมกันไปด้วย การกินกระเทียมจึงอาจเป็นลู่ทางหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะกระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์และสารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณลักษณะคุ้มครองปกป้องภาวการณ์อ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการค้นคว้าชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยไขมันพอกตับที่มิได้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมดศชายและก็ผู้หญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี จำนวนทั้งหมด 110 คน รับประทานกระเทียมผงประเภทแคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม ซึ่งข้างในประกอบไปด้วยสารอัลซิลินขนาด 1.5 มก. วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 15 อาทิตย์ โดยสามารถรับประทานอาหารได้ตามธรรมดา แต่รับประทานกระเทียมได้ไม่เกินอาทิตย์ละ 2 กลีบ จากผลของการทดลองชี้ให้เห็นว่า น้ำหนักและมวลร่างกายต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก จึงอาจกล่าวได้ว่าการกินกระเทียมบางทีอาจช่วยลดจำนวนไขมันในตับรวมทั้งปกป้องหรือชะลอการเกิดสภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีเหตุที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่การเรียนในอนาคตยังควรต้องวางแบบการทดลองให้แล้วก็ควรจะเพิ่มช่วงเวลาในการทดลองเพื่อรับรองสมรรถนะของกระเทียมให้แน่ชัดเพิ่มขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับคุณภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงไม่ตรงกัน ก็เลยทำให้ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบและก็การเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวเนื่องปริมาณ 29 ชิ้น ได้ชี้ให้เห็นว่า การรับประทานกระเทียมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้น้อย แต่ว่าไม่นำมาซึ่งการทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงขึ้น ไหมทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจน้อยลงแต่อย่างใด ก็เลยยังจึงควรเล่าเรียนเพิ่มอีกเพื่อหาข้อสรุปแล้วก็รับรองความสามารถของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่แจ่มชัดยิ่งขึ้น

ความปลอดภัยสำหรับการรับประทานกระเทียม
การกินกระเทียมค่อนข้างปลอดภัยถ้าหากกินในจำนวนที่เหมาะสม แม้กระนั้นอาจส่งผลให้เกิดผลข้างๆได้ ดังเช่น ปากเหม็น มีกลิ่นเต่า รู้สึกแสบร้อนที่บริเวณปากหรือที่กระเพาะอาหาร แสบร้อนกลางอก ท้องขึ้น อาเจียน อาเจียน หรือท้องเดิน อาการพวกนี้อาจทวีความร้ายแรงขึ้นเมื่อรับประทานกระเทียมสด ทั้งยังการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่รอบๆผิวหนังอาจจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนและก็ระคายเคืองได้
ข้อควรตรึกตรองสำหรับในการกินกระเทียมโดยยิ่งไปกว่านั้นบุคคลในกรุ๊ปต่อแต่นี้ไป
ผู้ที่กำลังมีท้องหรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร การรับประทานกระเทียมในช่วงการตั้งครรภ์ออกจะไม่เป็นอันตรายหากกินเป็นอาหารหรือในจำนวนที่สมควร แม้กระนั้นบางทีอาจไม่ปลอดภัยถ้าหากกินกระเทียมเป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่บริเวณผิวหนังในตอนการท้องหรือให้นมลูก
เด็ก การกินกระเทียมในจำนวนที่สมควรและในระยะสั้นๆอาจปลอดภัยสำหรับเด็ก แม้กระนั้นการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจก่อให้เกิดอาการแสบร้อนและระคายเคือง
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยของอาหาร อาจจะก่อให้เกิดการเคืองพื้นที่เดินของกินได้
ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ การกินกระเทียมอาจจะเป็นผลให้ระดับความดันเลือดลดลดลงมากยิ่งกว่าธรรมดา
คนที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดกินกระเทียมก่อนการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 สัปดาห์เนื่องจากอาจจะทำให้เลือดออกมากรวมทั้งส่งผลต่อความดันโลหิตในระหว่างการผ่าตัด แล้วก็คนที่มีสภาวะเลือดออกผิดปกติไม่สมควรรับประทานกระเทียม โดยยิ่งไปกว่านั้นกระเทียมสด เนื่องจากว่าบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น
ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกินยารักษาโรค ยกตัวอย่างเช่น ไอโซไนอะซิด เพราะกระเทียมอาจลดการดูดซึมของยาในร่างกายแล้วก็ส่งผลต่อคุณภาพลักษณะการทำงานของยา รวมถึงไม่สมควรกินกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังนี้
ยารักษาการติดโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุม
ยาต่อต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/

9
อื่น ๆ / ตะไคร้มีประโยชน์มากกว่าที่คิด
« เมื่อ: สิงหาคม 09, 2018, 08:06:29 AM »

ตะไคร้
ตะไคร้ เป็นพืชสมุนไพรแคว้นในประเทศแถบเอเชียเขตร้อน มีลักษณะคล้ายต้นหญ้าและมีใบสูงยาวส่งกลิ่นส่วนตัว นอกเหนือจากนำมาใช้เข้าครัว แต่งกลิ่นในของกิน รวมทั้งทำเครื่องดื่มแล้ว ตะไคร้ยังถูกนำไปใช้ในหลากสาขา เช่น อุตสาหกรรมสบู่ เครื่องสำอาง การบำบัดด้วยกลิ่น หรือการสกัดเป็นยารักษา โดยมีความเชื่อว่าสารเคมีในตะไคร้ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ บางทีอาจสามารถช่วยปกป้องการเติบโตของแบคทีเรียกับยีสต์ได้ ช่วยลดลักษณะของการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ทุเลาอาการปวดแล้วก็ลดไข้ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในระหว่างมีเมนส์ แล้วก็เป็นส่วนผสมในสารที่ช่วยไล่ยุงได้ เป็นต้น
ตะไคร้ ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cymbopogon citratus จัดเป็นไม้ล้มลุกประเภทหนึ่ง มีลักษณะเป็นกอ มักนิยมปลูกไว้ตามบ้านแล้วก็เอามาทำอาหาร เป็นสมุนไพรที่เป็นประโยชน์รวมทั้งช่วยบรรเทาลักษณะของโรคบางจำพวกได้ แม้กระนั้นหารู้หรือเปล่าว่าที่จริงแล้ว ภายใต้ต้นแข็งๆแล้วก็ใบที่คมของตะไคร้ยังซ่อนคุณประโยชน์เอาไว้มากมายกระทั่งคิดไม่ถึง วันนี้เราไปดูคุณประโยชน์ซึ่งมาจากตะไคร้ที่ทราบแล้วจำต้องตลึงที่นำมาจากเว็บ allwomenstalk กันดีกว่าจ้ะ ผู้ใดที่ชอบกลิ่นหอมๆของมัน จะต้องยิ่งรักเจ้าสมุนไพรจำพวกนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆกว่าเดิมแน่ๆ
คุณประโยชน์ของตะไคร้ คุณประโยชน์ดีๆของสมุนไพรใกล้ตัว
อุดมไปด้วยวิตามิน
          อย่าคิดว่าตะไคร้มีคุณประโยชน์เพียงแค่ใช้ปรุงอาหารแค่นั้น เพราะที่จริงแล้วตะไคร้นั้นอุดมไปด้วยวิตามินและธาตุมากมายก่ายกอง ทั้งวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินบี ยิ่งกว่านั้นยังมีโฟเลต แมกนีเซียม สังกะสี ทองแดง ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมงกานีส โอ้โห้... วิตามินเยอะขนาดนี้ครั้งหลังพบตะไคร้ในอาหารก็อย่าเขี่ยทิ้งนะ
ช่วยไล่แมลง
          นอกเหนือจากการที่จะเอามาประกอบอาหารแล้ว ตะไคร้ยังมีประโยชน์สำหรับในการไล่แมลงอีกด้วย เพราะเหตุว่าในตะไคร้มีน้ำมันหอมระเหยอยู่ในใบและในลำต้น ซึ่งน้ำมันหอมระเหยกลุ่มนี้มีคุณลักษณะในการไล่แมลงได้อย่างดี จึงไม่น่าสนเท่ห์ใจที่เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์สบู่ ผลิตภัณฑ์ไล่แมลงที่มีส่วนผสมของตะไคร้วางขายอยู่ในท้องตลาดจำนวนมาก คนใดที่ชอบกลิ่นตะไคร้ละก็ทดลองหามาใช้ได้นะคะ

ล้างสารพิษ
          สำหรับผู้ที่รักสุขภาพและชอบล้างพิษในร่างกายบ่อยๆไม่ควรพลาดเจ้าตะไคร้เลยค่ะ เนื่องจากมันมีคุณลักษณะสำหรับในการล้างสารพิษภายในร่างกายด้วยแนวทางการทำให้ท่านเยี่ยวบ่อยขึ้น เนื่องจากว่าสารเคมีที่อยู่ในตะไคร้จะช่วยทำความสะอาดระบบที่ทำหน้าที่สำหรับการย่อยอาหาร ได้แก่ ตับ ตับอ่อน ไต แล้วก็กระเพาะปัสสาวะ ขับสารพิษแล้วก็กรดยูริกออกจากร่างกาย ทำให้ระบบการทำงานเกี่ยวกับการย่อยอาหารของคุณสะอาดขึ้น และปฏิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ
ตะไคร้ กับ 7 คุณค่า
ช่วยย่อยของกิน
          ตะไคร้ ช่วยให้ระบบที่ทำหน้าที่ในการย่อยอาหารดำเนินงานได้ดิบได้ดีขึ้นจ้ะ เพราะว่ามีการเรียนรู้หนึ่งพบว่าการดื่มชาตะไคร้จะช่วยในการย่อย ลดอาการปวดท้อง แก้หวัด ลดอาการตะคริวในไส้ แล้วก็ท้องเดินได้ นอกเหนือจากนี้ยังช่วยปกป้องแล้วก็ลดแก๊สในลำไส้ได้อีกด้วย
ช่วยซ่อมแซมแล้วก็บำรุงระบบประสาท
          มีการเล่าเรียนจำนวนหลายชิ้นพบว่าตะไคร้สามารถช่วยซ่อมแล้วก็เสริมความแข็งแรงให้กับระบบประสาทได้ พิสูจน์ได้อย่างง่ายดายด้วยการนำน้ำมันหอมระเหยตะไคร้มาหยดลงบนผิว คุณจะรู้สึกได้ว่ามันอุ่นๆซึ่งมันจะทำให้กล้ามเนื้อของคุณผ่อนคลายมากแล้วก็ลดอาการตะคิวได้ แต่ก็อย่าลืมว่าครั้งใดก็ตามจะใช้น้ำมันหอมระเหยตะไคร้คุณควรจะที่จะผสมมันกับน้ำมันตัวพา (Carrier oil) และก็ห้ามใช้น้ำมันหอมระเหยโดยตรงกับผิวเด็ดขาดค่ะ
ตะไคร้
ช่วยรักษาอาการอักเสบ
          ตะไคร้สามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกบรรเทารวมทั้งทุเลาอาการปวดต่างๆได้ นอกเหนือจากนั้นยังช่วยลดอาการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุของลักษณะของการปวดต่างๆตัวอย่างเช่น ปวดฟัน ปวดกล้าม หรือการปวดตามข้อได้อีกด้วย ดังนั้นหากคุณรู้สึกเจ็บปวดตามส่วนต่างๆของร่างกาย ทดลองหาน้ำมันที่ผสมน้ำมันหอมระเหยตะไคร้มานวดดูนะคะรับประกันว่าหายแน่ๆ
ช่วยทำนุบำรุงผิว
          ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ด้วยเหตุดังกล่าวมันก็เลยสามารถช่วยทำนุบำรุงผิวของคุณได้ ทำให้ผิวของคุณเปล่งรัศมีความมีสุขภาพดีออกมา แถมยังช่วยทำให้ผิวของคุณดูอ่อนวัยอยู่เสมอ รวมทั้งช่วยลดสิวต่างๆได้อีกด้วย
โทษของตะไคร้
พิษของน้ำมันตะไคร้ จำนวนน้ำมันตะไคร้ ที่ทำให้หนูขาวตายที่ครึ่งเดียวของจำนวนหนูขาวทั้งหมด ด้วยการให้ทางปาก  ที่ความเข้มข้น 5,000 มก./กก. และก็การให้น้ำมันหอมระเหยทางกระเพาของกินแก่กระต่ายที่ทำให้กระต่ายตายที่ครึ่งหนึ่ง พบว่า มีจำนวนความเข้มข้นเดียวกันกับการให้แก่หนูขาว พิษกะทันหันของน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ที่ความเข้มข้น 1,500 ppm ในช่วงเวลา 60 วัน กลับต้องมาพบว่า หนูขาวที่ได้รับน้ำมันหอมระเหยของตะไคร้มีการเติบโตเร็วกว่ากลุ่มที่ไคุณค่าทางโภชนาการของตะไคร้
การเรียนของตะไคร้ขนาด 100 กรัม พบว่าให้พลังงาน 143 กิโลแคลอรี่ มีสารอาหารสำคัญประกอบด้วย โปรตีน 1.2 กรัม ไขมัน 2.1 กรัม คาร์โบไฮเดรต 29.7 กรัม เส้นใย 4.2 กรัม แคลเซียม 35 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 30 มก. เหล็ก 2.6 มิลลิกรัม วิตามินเอ 43 ไมโครกรัม ไทอามีน 0.05 มก. ไรโบฟลาวิน 0.02 มิลลิกรัม ไนอาสิน 2.2 มก. วิตามินซี 1 มก. แล้วก็ เถ้า 1.4 กรัมม้ได้รับ รวมทั้งค่าทางเคมีของเลือดไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด http://www.disthai.com/

10

บุก
บุก มีคุณประโยชน์ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นโลหิต รักษาโรคเบาหวาน เป็นยาแก้ไข้จับสั่น ช่วยแก้ไอ ละลายเสมหะ แก้โรคท้องมาน ใช้สำหรับสตรีเมนส์มาผิดปรกติ ใช้แก้พิษงู ใช้เป็นยาแก้แผลไฟเผาและก็น้ำร้อนลวก แก้ฝีหนองบวมอักเสบ  ใช้เป็นยาแก้ปวด แก้บวมช้ำ ช่วยแก้ริดสีดวงทวาร ช่วยขับรอบเดือนของสตรี ใช้เป็นยาพอกฝี
บุก มีชื่อสามัญว่า Konjac อ่านออกเสียงว่า คอน-จัค มีชื่อด้านวิทยาศาสตร์ว่า Amorphophallus konjac K.Koch ชื่อเรียกอื่นๆของบุก ดังเช่น บุกลุกงคก เบีย เบือ มันซูรัน หัวบุก บุกคางคก บุกหนาม บุกหลวง หมอ ยวี จวี๋ ยั่ว หมอยื่อ ฯลฯ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นบุก
ต้นบุก นับว่าเป็น พืชล้มลุกชนิกหนึ่ง เป็นไม้เนื้ออ่อน ลักษณะของลำต้นอวบและก็มีสีเขียวเข้ม ใบบุกเป็นใบลำพัง ซึ่งใบของบุกจะแตกใบที่ยอดและก็ใบแผ่ขึ้นราวกับร่มกาง ดอกของบุกจะมีสีเหลือง จะบานในตอนค่ำ มีกลิ่นแรง ลักษณะเสมือนดอกหน้าวัว
ลำต้นแทงขึ้นมาจากหัวใต้ดิน มีความสูงของต้นราวๆ 50-150 เซนติเมตร หัวที่อยู่ใต้ดินนั้นมีขนาดใหญ่ รูปแบบของหัวเป็นรูปค่อนข้างกลมแบนน้อย หรือกลมแป้น มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 25 ซม. ผิวเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ ลำต้นและก็กิ่งไม้มีลักษณะกลมใหญ่ เปลือกลำต้นเป็นสีเขียวมีลายแต้มสีขาวปะปนอยู่
ใบบุก ใบเป็นใบประกอบแบบขน มีใบย่อยเรียงสลับ รูปแบบของใบเป็นรูปไข่กลมรี ปลายใบแหลม ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีปริมาณยาวราว 15-20 ซม.
ดอกบุก ออกดอกเป็นดอกลำพัง ลักษณะของดอกเป็นรูปทรงทรงกระบอกกลมแบน มีกลิ่นเหม็น สีม่วงแดงอมเขียว มีกาบใบยาวโดยประมาณ 30 ซม. สีม่วงอมเหลือง โผล่ขึ้นพ้นจากกลีบเลี้ยงที่มีสีม่วง
ผลบุก รูปแบบของผลเป็นรูปกลมแบน เมื่อสุกจะเป็นสีส้ม
คุณประโยชน์ของบุก
สำหรับคุณประโยชน์ของบุก เรานิยมใช่ประโยน์ทางยาของบุก จาก หัว รากรวมทั้งเนื้อของลำต้น เนื้อหา ดังต่อไปนี้
หัวบุก มีคุณประโยชน์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด รักษาโรคโรคเบาหวาน เป็นยาแก้ไข้จับสั่น ช่วยแก้ไอ ละลายเสลด แก้โรคท้องมาน ใช้สำหรับสตรีประจำเดือนมาเปลี่ยนไปจากปรกติ ใช้แก้พิษงู ใช้เป็นยาแก้แผลไฟไหม้แล้วก็น้ำร้อนลวก แก้ฝีหนองบวมอักเสบ  ใช้เป็นยาพารา แก้ฟกช้ำ
รากของบุก ช่วยแก้ริดสีดวงทวาร ช่วยขับประจำเดือนของสตรี ใช้เป็นยาพอกฝี

ข้อควรปฏิบัติตามสำหรับเพื่อการบริโภคบุก
สำหรับข้อบังคับในการกินบุก คือ หัวบุกจะมีรสเผ็ด เป็นยาร้อน มีพิษ ออกฤทธิ์ต่อม้าม ตับ และระบบทางเดินอาหาร ดังนั้น ในกลุ่มของผู้คนที่ ม้าม ตับ แล้วก็ระบบทางเดินอาหาร ไม่ดี ควรหลบหลีกกิน และไม่รับประทานมากจนเกินความจำเป็น ซึงข้อควรไตร่ตรองสำหรับเพื่อการบริโภคบุก มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ในเนื้อหัวบุกป่าจะมีผลึกของแคลเซียมออกซาเลท (Calcium oxalate) ไม่น้อยเลยทีเดียว ที่กระตุ้นให้เกิดอาการคัน ส่วนเหง้ารวมทั้งก้านใบหากปรุงไม่ดีแล้วรับประทานเข้าไปจะทำให้ลิ้นพองรวมทั้งคันปากได้
ก่อนเอามารับประทานต้องกำจัดพิษออกก่อน และไม่รับประทานกากยาหรือยาสด
ขั้นตอนการกำจัดพิษจากหัวบุก ให้นำหัวบุกมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆตำเพียงพอแหลก คั้นเอาน้ำออกพักไว้ นำกากที่ได้ไปต้มน้ำ แล้วคั้นมัวแต่น้ำ นำไปผสมกับน้ำที่คั้นหนแรก แล้วนำไปต้มกับน้ำปูนใสเพื่อพิษหมดไป เมื่อเดือดก็พักไว้ให้เย็น จะจับกันเป็นก้อน ก็เลยสามารถใช้ก้อนดังที่ได้กล่าวมาแล้วสำหรับเพื่อการทำกับข้าวหรือนำไปตากแห้งเพื่อใช้เป็นยาได้ถ้าเกิดอาการเป็นพิษจากการรับประทานบุก ให้รับประทานน้ำส้มสายชูหรือชาแก่ แล้วและก็ตามด้วยไข่ขาวสด แล้วให้รีบไปพบแพทย์
เพราะวุ้นบุกสามารถขยายตัวได้มาก ก็เลยไม่ควรบริโภควุ้นบกคราวหลังการกิน แต่ให้รับประทานก่อนที่จะรับประทานอาหารไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง ส่วนการบริโภคอาหารที่สร้างมาจากวุ้น ได้แก่ วุ้นก้อนและเส้นวุ้น สามารถบริโภคพร้อมของกินหรือหลังอาหารได้ เพราะว่าวุ้นดังที่ได้กล่าวมาแล้วได้ผ่านแนวทางการรวมทั้งได้ขยายตัวมาก่อนแล้ว แล้วก็การการที่จะขยายตัวหรือขยายตัวได้อีกนั้นจึงเป็นไปได้ยาก ส่วนในเรื่องของคุณค่าทางโภชนาการนั้นพบว่าวุ้นบุกไม่ให้พลังงานแก่ร่างกาย เพราะเหตุว่าไม่มีการเสื่อมสภาพเป็นน้ำตาลในร่างกาย และไม่มีวิตามินและก็แร่ธาตุ หรือสารอาหารใดๆก็ตามที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายเลยกลูโคแมนแนนมีผลทำให้การดูดซึมของวิตามินที่ละลายในไขมันต่ำลง ซึ่งจะไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมได้ แต่จะไม่เป็นผลต่อการดูดซึมของวิตามินที่ละลายในน้ำ
การกินผงวุ้นบุกในจำนวนมาก อาจก่อให้มีลักษณะท้องเดินหรือท้องอืด มีลักษณะกระหายน้ำมากกว่าเดิม บางคนอาจมีอาการอ่อนล้าเนื่องจากว่าระดับน้ำตาลในเลือดน้อยลงได้http://www.disthai.com/

11

บุก (Amorphophallus spp.) มีชื่อสามัญว่า Konjac (คอนจัค)12 ในไทยจะใช้บุกที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Amorphophallus paeoniifolius (Dennst.) Nicolson หรือที่พวกเราเรียกว่า “บุกคางคก” ซึ่งเป็นพืชสกุลเดียวกันกับบุกจำพวกที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Amorphophallus konjac K.Koch แม้กระนั้นต่างชนิดกัน ซึ่งมีคุณลักษณะและก็สรรพคุณทางยาที่ใกล้เคียงกัน แล้วก็สามารถประยุกต์ใช้แทนกันได้
บุก
บุก ชื่อสามัญ Devil’s tongue, Shade palm, Umbrella arum
บุก ชื่อวิทยาศาสตร์ Amorphophallus konjac K.Koch (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Amorphophallus rivieri Durand ex Carrière) จัดอยู่ในตระกูลบอน (ARACEAE)
สมุนไพรบุก มีชื่อเรียกอื่นว่า หมอ ยวี จวี๋ ยั่ว (จีนแต้จิ๋ว), หมอยื่อ (ภาษาจีนกลาง) ฯลฯ
ต้นบุก จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกที่มีอายุหลาย ลำต้นแทงขึ้นมาจากหัวใต้ดิน มีความสูงของต้นประมาณ 50-150 เซนติเมตร หัวที่อยู่ใต้ดินนั้นมีขนาดใหญ่ รูปแบบของหัวเป็นรูปค่อนข้างจะกลมแบนน้อย หรือกลมแป้น มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางโดยประมาณ 25 ซม. ผิวเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ ลำต้นและกิ่งมีลักษณะกลมใหญ่ เปลือกลำต้นเป็นสีเขียวมีลายทาสีขาวปนเปอยู่
หัวบุก
ใบบุก ใบเป็นใบประกอบแบบขน มีใบย่อยเรียงสลับ รูปแบบของใบเป็นรูปไข่กลมรี ปลายใบแหลม ส่วนขอบของใบเรียบ ใบมีขนาดยาวราว 15-20 เซนติเมตร
ใบบุก
ดอกบุก ออกดอกเป็นดอกเดี่ยว รูปแบบของดอกเป็นทรงทรงกระบอกกลมแบน มีกลิ่นเหม็น สีม่วงแดงอมเขียว มีกาบใบยาวราว 30 เซนติเมตร สีม่วงอมเหลือง โผล่ขึ้นพ้นจากกลีบเลี้ยงที่มีสีม่วง
ผลบุก รูปแบบของผลเป็นรูปกลมแบน เมื่อสุกจะเป็นสีส้ม
ดอกรวมทั้งผลบุก
บุกคางคก
บุกคางคก ชื่อสามัญ Stanley’s water-tub, Elephant yam
บุกคางคก ชื่อวิทยาศาสตร์ Amorphophallus paeoniifolius (Dennst.) Nicolson (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Amorphophallus campanulatus Decne.) จัดอยู่ในวงศ์บอน (ARACEAE)
สมุนไพรบุกคางคก มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า บุกหลวง บุกหนาม เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน), บักกะเดื่อ (สกลนคร), กระบุก (บุรีรัมย์), บุกคางคก บุกคุงคก (ชลบุรี), หัวบุก (จังหวัดปัตตานี), มันซูรัน (ภาคกลาง), บุก (ทั่วๆไป), กระแท่ง บุกรอคอย หัววุ้น (ไทย), บุกอีรอกเขา ฯลฯ
ต้นบุกคางคก จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกจำพวกกะแท่งหรือเท้าคุณยายม่อมหัว แก่ได้นานยาวนานหลายปี มีความสูงของต้นราวๆ 5 ฟุต มีลักษณะของลำต้นอวบและอวบน้ำไม่มีแก่น ผิวขรุขระ ลำต้นกลมและก็มีลายเขียวๆแดงๆลักษณะซึ่งคล้ายกับคนเป็นโรคผิวหนัง ต้นบุกนั้นเพาะพันธุ์ด้วยแนวทางแยกหน่อ พรรณไม้ชนิดนี้จะเจริญเติบโตในช่วงฤดูฝน และก็จะร่วงโรยไปในช่วงต้นฤดูหนาว ในประเทศไทยพบบ่อยขึ้นเองตามป่าราบชายทะเลและก็ที่อำเภอศรีราชา ส่วนในต่างชาติบุกคางคกนั้นเป็นพืชท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจอได้ตั้งแต่ศรีลังกาไปจนถึงอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์
ต้นบุกคางคก
หัวบุกคางคก เป็นส่วนของหัวที่อยู่ใต้ดิน มีลักษณะค่อนข้างกลมแล้วก็มีขนาดใหญ่สีน้ำตาล ผิวตะปุ่มตะป่ำ เส้นผ่านศูนย์กลางของหัวบุกนั้นจะมีขนาดตั้งแต่ 15 เซนติเมตรขึ้นไป เนื้อในหัวเป็นสีเหลืองอมชมพู สีชมพูสด สีขาวขุ่น สีครีม สีเหลืองอ่อน สีเหลืองอมขาวละเอียดและเป็นมูกลื่น มียาง โดยยิ่งไปกว่านั้นหัวสด ถ้าหากสัมผัสเข้าจะมีผลให้เกิดอาการคันได้ ก่อนเอามาปรุงเป็นของกินนั้นก็เลยจำต้องทำให้เป็นมูกโดยการต้มในน้ำเดือดเสียก่อน โดยน้ำหนักของหัวนั้นมีตั้งแต่ว่า 1 กรัม ไปจนถึง 35 กิโล
บุกคางคก
ใบบุกคางคก ใบเป็นใบโดดเดี่ยว ออกที่ปลายยอดของต้น ใบแผ่ออกคล้ายกางร่มแล้วหยักเว้าเข้าพบเส้นกึ่งกลางใบ ส่วนขอบใบจะเว้าลึก ก้านใบกลม อวบน้ำและก็ยาวได้ราว 150-180 เซนติเมตร
ใบบุกคางคก
ดอกบุกคางคก ออกดอกเป็นช่อ ดอกแทงขึ้นมาจากพื้นดินรอบๆของโคนต้น เป็นแท่งมีลายสีเขียวหรือสีแดงแกมสีน้ำตาล (ขึ้นกับสายพันธุ์) ดอกออกเป็นช่อ แทงขึ้นมาจากหัวที่อยู่ใต้ดิน ก้านช่อดอกสั้น มีใบแต่งแต้มเป็นรูปห่อช่อดอก ขอบหยักเป็นคลื่นรวมทั้งบานออก ปลายช่อดอกเป็นรูปกรวยคว่ำขนาดใหญ่ ยับเป็นร่องลึก สีแดงอมน้ำตาลหรือสีม่วงเข้ม ดอกเพศผู้อยู่ตอนบน ส่วนดอกเพศภรรยาอยู่ตอนล่าง ดอกมีกลิ่นเหม็นคล้ายซากสัตว์เน่า
ดอกบุกคางเรือนจำ
ผลบุกคางคก ผลเป็นผลสด เนื้อนุ่ม รูปแบบของผลเป็นทรงรียาว ขนาดยาวราวๆ 1.2 ซม. ผลมีเป็นจำนวนมากชิดกันเป็นช่อๆ(สิบถึงร้อยร้อยผลต่อหนึ่งช่อดอก)ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนสีเหลือง สีส้ม จนกระทั่งสีแดง ข้างในผลมีเมล็ดโดยประมาณ 1-3 เม็ด โดยมีสันขั้วเม็ดของแต่เม็ดแยกออกจากกัน เมล็ดมีลักษณะกลมรีหรือเป็นรูปไข่
คุณประโยชน์ของบุก
หัวบุกมีรสเผ็ด เป็นยาร้อน เป็นพิษ ออกฤทธิ์ต่อม้าม ตับ รวมทั้งระบบทางเดินอาหาร มีคุณประโยชน์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด (หัว)
ใช้เป็นของกินสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและก็คนเจ็บโรคไขมันในเลือดสูง ด้วยการแยกแป้งจากส่วนที่เป็นเนื้อทราย แล้วชงกับน้ำ โดยให้ใช้แป้ง 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 1 แก้ว นำมาชงกับน้ำกินก่อนอาหารครึ่งชั่วโมงวันละ 2-3 มื้อ
หัวใช้เป็นยารักษาโรคโรคมะเร็ง (หัว)
ใช้เป็นยาแก้ไข้จับสั่น (หัว)
ช่วยแก้อาการไอ (หัว)
หัวใช้เป็นยากัดเสมหะ ละลายเสลด ช่วยกระจายเสลดที่อุดตันบริเวณหลอดลม (หัว)
หัวบุกมีรสเบื่อคัน ใช้เป็นยากัดเสมหะเถาดาน รวมทั้งเลือดจับกันเป็นก้อน (หัว)
หัวนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้โรคท้องมาน (หัว)
ช่วยแก้ริดสีดวงทวาร (ราก)
ช่วยแก้ระดูไม่มาของสตรี (หัว)6 ช่วยขับเมนส์ของสตรี (ราก)
หัวนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้โรคตับ (หัว)
ใช้แก้พิษงู (หัว)
ใช้เป็นยาแก้แผลไฟเผาน้ำร้อนลวก (หัว)
หัวใช้หุงเป็นน้ำมัน ใช้ใส่บาดแผล กัดฝ้าและก็กัดหนองได้ดิบได้ดี (หัว)1,2,3,4 บางข้อมูลระบุว่ารากใช้เป็นยาพอกฝีได้ (ราก)
ใช้แก้ฝีหนองบวมอักเสบ (หัว)6
หัวใช้เป็นยาพาราบวม แก้ฟกช้ำ (หัว)
บุก เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณยิ่งกว่าไวอากร้า หรือเป็นยาเพิ่มความสามารถทางเพศ โดยคุณนิล ปักษา (บ้านหนองพลวง ต.โคกกึ่งกลาง อ.ลำปลายกนก จังหวัดบุรีรัมย์) แนะนำให้ลองพิสูจน์ ด้วยการเอาไม้พาดปากหม้อแล้วนำสมุนไพรบุกคางคก เอาพวงเม็ดนำมาย่างไฟให้หอมก่อน แล้วใช้ผูกกับไม้ห้อยจุ่มลงไปในหม้อต้มใส่น้ำพอท่วมเมล็ดบุก ต้มจนกระทั่งเม็ดบุกหล่นลงหม้อ ตัวยาก็จะไหลลงมาด้วย เมื่อเดือดแล้วหลังจากนั้นก็ให้เพิ่มเติมน้ำตาลพอสมควรลงไปต้มให้พอเพียงหวาน ต่อจากนั้นทดลองลองมอง ถ้าหากยังมีลักษณะคันคออยู่ก็ให้เพิ่มเติมน้ำตาลเพิ่มและหลังจากนั้นก็ค่อยลองใหม่ หากไม่มีอาการคันคอก็เป็นพิษว่าใช้ได้ แล้วก็ให้นำสมุนไพรโด่ไม่เคยรู้ล้มใส่เข้าไปด้วยราว 1 กำมือ แล้วต้มให้เดือด ปล่อยให้เย็นรวมทั้งเก็บเอาไว้ในตู้แช่เย็น ใช้ดื่ม 1 เป็ก โดยประมาณ 30 นาที จะปวดท้องเยี่ยวโดยธรรมชาติ หลังจากอาวุธนั้นจะพร้อมสู้ในทันที (ผล)
หมายเหตุ : สำหรับวิธีการใช้ให้แยกแป้งจากส่วนที่เป็นเนื้อทราย แล้วเอามาชงกับน้ำกิน ส่วนขนาดที่ใช้นั้นให้ใช้แป้ง 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 1 แก้ว ชงกับน้ำก่อนกินอาหารครึ่งชั่วโมงวันละ 2-3 มื้อ2 ส่วนการใช้ตาม 6 ให้ใช้ครั้งละ 10-15 กรัม (เข้าใจว่าเป็นส่วนของหัว) เอามาต้มกับน้ำนาน 2 ชั่วโมง จึงสามารถนำมากินได้ ถ้าหากเป็นยาสดให้ใช้ตำพอกหรือเอามาฝนกับน้ำส้มสายชู หรือต้มเอาน้ำใช้ล้างรอบๆที่เป็นแผล
ในเนื้อหัวบุกป่าจะมีผลึกของแคลเซียมออกซาเลท (Calcium oxalate) ไม่น้อยเลยทีเดียว ที่กระตุ้นให้เกิดอาการคัน ส่วนเหง้าและก็ก้านใบถ้าหากปรุงไม่ดีแล้วรับประทานเข้าไปจะมีผลให้ลิ้นพองและคันปากได้8ก่อนเอามากินต้องกำจัดพิษออกก่อน และไม่กินกากยาหรือยาสด6
แนวทางการกำจัดพิษจากหัวบุก ให้นำหัวบุกมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆตำพอเพียงแหลก คั้นเอาน้ำออกพักไว้ นำกากที่ได้ไปต้มน้ำ แล้วคั้นมัวแต่น้ำ นำไปผสมกับน้ำที่คั้นคราวแรก และจากนั้นจึงนำไปต้มกับน้ำปูนใสเพื่อพิษหมดไป เมื่อเดือดก็พักไว้ให้เย็น จะจับตัวกันเป็นก้อน ก็เลยสามารถใช้ก้อนดังกล่าวสำหรับในการทำกับข้าวหรือนำไปตากแห้งเพื่อใช้เป็นยาได้6ถ้าเกิดอาการเป็นพิษจากการกินบุก ให้รับประทานน้ำส้มสายชูหรือชาแก่ แล้วตามด้วยไข่ขาวสด แล้วให้รีบไปพบหมอ
เนื่องด้วยวุ้นบุกสามารถขยายตัวได้มาก (ไม่ต่ำลงยิ่งกว่า 20 เท่าของเนื้อวุ้นแห้ง) จึงไม่ควรบริโภควุ้นบกคราวหลังการกิน แต่ให้กินก่อนอาหารไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง ส่วนการบริโภคของกินที่ผลิตจากวุ้น เช่น วุ้นก้อนและเส้นวุ้น สามารถบริโภคพร้อมอาหารหรือหลังอาหารได้ เพราะว่าวุ้นดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นได้ผ่านกรรมวิธีการและได้ขยายตัวมาก่อนแล้ว และการการที่จะขยายตัวหรือพองตัวได้อีกนั้นก็เลยเป็นไปได้ยาก ส่วนในเรื่องของค่าทางโภชนาการนั้นพบว่าวุ้นบุกไม่ให้พลังงานแก่ร่างกาย เพราะไม่มีการเสื่อมสลายเป็นน้ำตาลภายในร่างกาย และไม่มีวิตามินรวมทั้งแร่ หรือสารอาหารใดๆก็ตามที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายเลยกลูวัวแมนแนนส่งผลทำให้การดูดซึมของวิตามินที่ละลายในไขมันต่ำลง (อย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี แล้วก็วิตามินเค) ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดโทษและส่งผลเสียรวมทั้งไม่ดีต่อสุขภาพโดยรวมได้ แม้กระนั้นจะไม่เป็นผลต่อการดูดซึมของวิตามินที่ละลายในน้ำ (ดังเช่นว่า วิตามินบีรวม วิตามินซี)
การกินผงวุ้นบุกในจำนวนมาก อาจก่อให้มีลักษณะอาการท้องเสียหรือท้องขึ้น มีอาการอยากกินน้ำมากกว่าเดิม บางบุคคลอาจมีอาการอ่อนแรงเพราะว่าระดับน้ำตาลในเลือดน้อยลงได้

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของบุก
สารที่พบ ยกตัวอย่างเช่น สาร Glucomannan, Konjacmannan, D-mannose, Takadiastase, แป้ง, โปรตีนบุก, วิตามินบี, วิตามินซี และยังพบสารที่เป็นพิษเป็นConiine, Cyanophoric glycoside ก้านบุกเจอสาร Uniine และวิตามินบีที่ก้านช่อดอก6 รวมทั้งหัวบุกยังมีโปรตีนอยู่ร้อยละ 5-6 และก็มีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูงปริมาณร้อยละ 672หัวบุกมีสารสำคัญหมายถึงกลูวัวแมนแนน (Glucomannan) เป็นสารจำพวกคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมีเดกซ์โทรส แมนโนส และฟรุคโตส สารกลูโคแมนแนนสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เพราะว่ามีความเหนียว ช่วยยั้งการดูดซึมของเดกซ์โทรสจากทางเดินอาหาร ยิ่งเหนียวหนืดมากมายก็ยิ่งมีผลการดูดซึมเดกซ์โทรส ด้วยเหตุนั้น กลูโคแมนแนน ซึ่งเหนียวกว่า gua gum จึงสามารถลดน้ำตาลได้ดีกว่า จึงใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นอาหารสำหรับคนป่วยโรคเบาหวานและสำหรับผู้ที่เป็นโรคไขมันในเลือดสูงสารกลูวัวแมนแนน (Glucomannan) จะมีปริมาณต่างกันออกไปตามชนิดของบุก5
แป้งจากหัวบุกนั้นประกอบไปด้วยกลูโคนแมนแนนราวๆ 90% รวมทั้งสิ่งปลอมปนอื่นๆเช่น alkaloid, starch, สารประกอบไนโตเจนต่างๆsulfates, chloride, แล้วก็สารพิษอื่น โมเลกุลของกลูวัวแมนแนนนั้นสำคัญๆแล้วจะประกอบไปด้วยน้ำตาลสองจำพวกเป็นกลูโคส 2 ส่วน รวมทั้งแมนโนส 3 ส่วน คร่าวๆ เชื่อมต่อกันระหว่างคาร์บอนตำแหน่งที่ 1 ของน้ำตาลชนิดที่สอง กับคาร์บอนตำแหน่งที่ 4 ของน้ำตาลจำพวกแรกแบบ ?-1, 4-glucosidic linkage ซึ่งแตกต่างจากแป้งที่พบในพืชทั่วไป ก็เลยไม่ถูกย่อยโดยกรดและก็น้ำย่อยในกระเพาะ เพื่อน้ำตาลที่ให้พลังงานได้8 เว้นแต่กลูโคแมนแนนจะพบได้ในบุกแล้ว ยังพบได้ในว่านหางจระเข้อีกด้วย9
กลูวัวแมนแนน (Glucomannan) สามารถดูดน้ำและก็ขยายตัวได้มากถึง 200 เท่า ของจำนวนเดิม เมื่อพวกเรารับประทานกลูโคแมนแนนก่อนกินอาหารครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครั้งละ 1 กรัม กลูโคแมนแนนจะดูดน้ำที่มีมากในกระเพาะของพวกเรา แล้วเกิดการขยายตัวจนถึงทำให้เรารู้สึกอิ่มของกินได้เร็วรวมทั้งอิ่มได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้เรารับประทานได้ลดน้อยลงกว่าปกติด้วย ทั้งยังกลูวัวแมนแนนจากบุกก็มีพลังงานต่ำมากมาย กลูโคแมนแนนจึงช่วยสำหรับในการควบคุมน้ำหนักแล้วก็เป็นของกินของคนที่ต้องการลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี8
เมื่อนำสารที่สกัดได้จากบุกที่มีการกำจัดพิษแล้ว ให้หนูใหญ่รับประทานทีละ 15 กรัม ต่อ 1 กิโลกรัม ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 2-3 อาทิตย์ พบว่าระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดของหนูต่ำลงคิดเป็น 44% แล้วก็ Triglyceride ต่ำลงคิดเป็น 9.5%6
สาร Glucomannan มีฤทธิ์ซับน้ำในกระเพาะและลำไส้เจริญมากมาย รวมทั้งยังสามารถไปกระตุ้นน้ำย่อยในไส้ให้เยอะขึ้น ทำให้มีการขับของที่คั่งค้างในไส้ได้เร็วขึ้น6สารสกัดแอลกอฮอล์จากหัวบุก สามารถยับยั้งการเจริญก้าวหน้าของเชื้อวัณโรคในหลอดแก้วได้5
เมื่อนำสารที่สกัดได้จากบุกที่มีการกำจัดพิษแล้ว ให้หนูใหญ่ที่มีอาการบวมที่ขารับประทานทีละ 15 กรัม ต่อ 1 โล พบว่าอาการบวมที่ขาของหนูต่ำลง6
ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากบุกคนไทยเรานิ http://www.disthai.com/

12

น้ำมันเหลือง
น้ำมันเหลือง ไพล หรือปูลอย ปูเลย มิ้นสะด้านล่าง ว่านไฟ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zingiber montanum (Koenig) Link ex Dietr. หรือ Zingiber cassumunar Roxb. วงศ์ Zingiberaceae เป็นสมุนไพรตัวหนึ่งในบัญชียาจากสมุนไพร ใน บัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 กลุ่มที่ 2 บัญชียาปรับปรุงจากสมุนไพร กรุ๊ปยารักษาอาการทางกล้ามเนื้อและกระดูก ยาสำหรับใช้ภายนอก ตัวอย่างเช่น ตำรับยาครีมไพล ประกอบด้วยน้ำมันไพลที่จากการกลั่น ร้อยละ 14 โดยปริมาตรต่อน้ำหนัก (v/w) และก็ ยาน้ำมันไพล สารสกัดน้ำมันไพลที่ได้จากการทอด (hot oil extract) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ในตำรับ ซึ่งเป็นสูตรเภสัชตำรับของโรงพยาบาล ข้อบ่งใช้ของทั้งสองตำรับคือ ทุเลาอาการบวม ฟกช้ำดำเขียว เคล็ดลับยอก
น้ำมันเหลือง ไพลที่ได้จากการทอดและก็ผู้กระทำลั่นแตกต่างกันยังไง? น้ำมันไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นเป็น น้ำมันหอมระเหย ซึ่งเป็นของเหลวที่เป็น hydrophobic ระเหยได้ บางครั้งก็อาจจะได้จากการกลั่นโดยการต้มด้วยน้ำ (water distillation) ไอน้ำจะพาเอาน้ำมันหอมระเหย ไปควบแน่นเมื่อสัมผัสกับความเย็นของเครื่องควบแน่น (condenser) ขั้นตอนการกลั่นอย่างงี้เป็นแนวทางที่คนยุโรปเริ่มแรกนิยมใช้กัน แต่ว่ามีข้อเสียตรงที่ไพลที่เอามากลั่นจะถูกความร้อนนาน อาจจะก่อให้น้ำมันไพลที่ได้มีกลิ่นผิดไปได้ หรือจะได้จากการกลั่นโดยใช้การผ่านของละอองน้ำไปสู่ภาชนะที่มีไพลใส่อยู่ (steam distillation) ไอน้ำจะพาเอาน้ำมันเหลือง หอมระเหยไปควบแน่นที่เครื่องควบแน่น วิธีแบบนี้มีข้อดีกว่าคือ ไพลจะถูกความร้อนไม่มาก น้ำมันหอมระเหยที่ได้จะไม่มีกลิ่นผิดเพี้ยนไป โน่นคือน้ำมันหอมระเหยที่ได้จาก 2 แนวทาง จะมีสารประกอบทางเคมีที่แตกต่างบ้าง โดยปกติน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากผู้กระทำลั่นจะมีสารประกอบทางเคมีที่มีโมเลกุลเล็ก ดังเช่น สารกลุ่ม monoterpenes (สารที่ประกอบด้วยคาร์บอนปริมาณ 10 ตัว) แล้วก็สารกลุ่ม sesquiterpenes (สารที่ประกอบด้วยคาร์บอนจำนวน 15 ตัว) น้ำมันหอมระเหยไพลที่ได้จากการกลั่นประกอบด้วย สารกรุ๊ป monoterpenes ตัวอย่างเช่น sabinene, terpinen-4-ol, alpha-pinene, alpha-terpinene, gamma-terpinene, limonene, myrcene, p-cymene, terpinolene2, (E)-1-(3,4-dimethoxyphenyl)butadiene (DMPBD), (E)-4-(3’,4’-dimethoxyphenyl)but-3-en-1-ol (Compound D)3,4
ส่วนน้ำมันเหลือง ไพลที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช เป็นวิธีของคนประเทศไทยโบราณที่ใช้เตรียมน้ำมันไพลเพื่อใช้ในครัวเรือน เป็นน้ำมันเช็ดนวด แก้ปวดกล้าม เดี๋ยวนี้หลายโรงหมอของรัฐได้มีการจัดเตรียมเป็นเภสัชตำรับของโรงหมอ และเป็นหนึ่งตำรับในบัญชียาจากสมุนไพร ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 น้ำมันไพลสูตรนี้จัดเตรียมได้จากการนำไพลสดมาทอดกับน้ำมันพืชจำพวกอิ่มตัว (ประกอบด้วยกรดไขมันชนิดอิ่มตัว) ดังเช่นว่า น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะพร้าว น้ำมันเหลือง หรือน้ำมันปาล์ม ไม่สมควรใช้น้ำมันพืชประเภทไม่อิ่มตัว (มีกรดไขมันจำพวกไม่อิ่มตัว) ดังเช่นว่า น้ำมันงา น้ำมันมะกอก น้ำมันคำฝอย น้ำมันทานตะวัน หรือน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากรำข้าวน้ำมันเหลือง เพราะว่าน้ำมันชนิดไม่อิ่มตัวจะไม่ทนต่อความร้อน ทำให้พันธะคู่ในโมเลกุลเกิดการแตก และรวมกลุ่มเป็นสาร “โพลีเมอร์” เกิดขึ้น กระตุ้นให้เกิดความหนืด นอกเหนือจากนี้จะทำให้กำเนิดควันได้ง่าย รวมทั้งน้ำมันกลิ่นหืน น้ำมันพืชที่ใช้ทอดเป็นน้ำมันที่ประกอบด้วยกรดไขมัน (fatty acids) ซึ่งนับว่าเป็นสารประกอบทางเคมีที่มีขั้วน้อย เป็นตัวทำละลายที่ดีในการสกัดสารที่มีขั้วน้อยด้วย ฉะนั้นน้ำมันพืชก็สามารถจะสกัดน้ำมันหอมระเหยซึ่งประกอบด้วยสารประกอบที่มีขั้วน้อยรวมทั้งโมเลกุลเล็กได้ พร้อมทั้งสกัดสารประกอบที่มีขั้วน้อยแต่ว่ามีโมเลกุลใหญ่ได้ด้วย ซึ่งในไพลเว้นแต่มีน้ำมันหอมระเหยแล้ว ยังประกอบสารกลุ่ม arylbutanoids, curcuminoids, แล้วก็ cyclohexene derivatives เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่มากยิ่งกว่าสารในน้ำมันหอมเหลือง และเป็นสารที่ไม่ระเหย สรุปกล้วยๆเป็น น้ำมันไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นจะเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ประกอบด้วยสารโมเลกุลเล็กและก็ระเหยได้ ส่วนน้ำมันที่ได้จากการทอดจะประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยและก็สารที่มีโมเลกุลใหญ่และไม่ระเหย
[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3http://www.chiangdaoherb.com/product/19/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง[/url] หอมระเหยและก็สารที่มีโมเลกุลใหญ่ (สารกลุ่ม arylbutanoids, curcuminoids, และก็ cyclohexene derivatives) เป็นกรุ๊ปสารที่ส่งผลการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยพบว่า มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบรวมทั้งแก้ปวดในสัตว์ทดสอบ โดยมีกลไกการออกฤทธิ์เช่นเดียวกับยากลุ่ม NSAIDs3,4-12 นอกเหนือจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาเล่าเรียนน้ำมันเหลือง ทางคลินิกพบว่า ครีมไพลหรือไพลจีซาล (14% ของน้ำมันหอมระเหย) มีฤทธิ์ลดการอักเสบและการปวดของข้อเท้าแพลงในผู้เจ็บป่วยนักกีฬาที่เจ็บข้อเท้าแพลงมากยิ่งกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับยา หลอก13 และก็พบว่าครีมไพจีซาลได้ผลดีสำหรับการรักษาลักษณะของการปวดปวดเมื่อยข้างหลัง ไหล่ ต้นคอ เอว เข่า14 แต่ตำรับยาน้ำมันเหลืองที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช หรือการสกัดด้วยตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว ยังไม่เคยมีการศึกษาทางคลินิกมาก่อน ซึ่งในเวลานี้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ปรึกษาโครงงาน “การพัฒนาสมรรถนะผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมยาสมุนไพรไทยเพื่อลดผลพวงจากการเปิดเสรีทางด้านการค้า AFTA ด้วยสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ 2554” เป็นโครงการที่ได้รับทุนช่วยเหลือจากกองทุน FTA กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กำลังเรียนทางคลินิกในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมของตำรับยาครีมไพลสกัด ซึ่งเป็นการเอาอย่างกระบวนการสกัดแบบความคิด ซึ่งเป็นการสกัดสารหลายๆประเภท ไม่เพียงแค่น้ำมันเหลือง หอมระเหยเท่านั้น รวมทั้งคือการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้ม

13

น้ำมันเหลือง
พวกเราชี้นำง่ายๆเพียงแค่ 2 ขั้นตอนหมายความว่า"กด" + "ทา" โดยจะนวดหรือเปล่านวดก็ได้ ทาบริเวณที่มีลักษณะอาการ
ในเวลานี้น้ำมันเหลืองได้รับความนิยมใช้อย่างมากมายมาก เนื่องจากว่าคุณประโยชน์ไม่แพ้ยาแผนปัจจุบันเลยทีเดียว ลูกค้าโดยมากต้องการใช้สินค้าที่ทำมาจากธรรมชาติจริงๆเพราะนอกจากจะรู้สึกไม่เป็นอันตรายแล้ว ใช้นานหรือบ่อยมากแค่ไหนก็ไม่มีการสะสม
คนใดกันแน่ที่ชอบใจใช้ น้ำมันเหลือง บ่อยๆห้ามพลาด เพราะวันนี้เรานำน้ำมันเหลืองสูตรใหม่ กลิ่นไม่ฉุนจัด ซึ่งทั่วๆไปนั้นมีการทำกันกลายสูตรมากไม่น้อยเลยทีเดียว สุดแล้วแต่ว่าคนไหนกันถูกใจสูตรไหน เป็นน้ำมันเหลืองที่ทำจากธรรมชาติล้วนๆใช้สมุนไพรดีๆของไทยทั้งหมดมักใช้แก้ปวด แก้มึนหัว แก้ตะคริว รักษาโรคหอบหืด ไซนัส บางสูตรแก้อาการท้องอืดได้ด้วย ไปดูสูตรกระบวนการทำกันเลย
สิ่งของ เครื่องมือเครื่องใช้
1.เมนทอล 300 กรัม
2.พิมเสน 100 กรัม
3.การบูร 100 กรัม
4.หัวไพลแก่จัด 200 กรัม
5.น้ำมันงาบริสูทธิ์ 50 กรัม
6.กระทะสำหรับทอดหัวไพล
7.ภาชนะสำหรับผสมสาร เป็นต้นว่า ขวดบรรจุกาแฟ ขวดแก้ว
กระบวนการทำ
1.ล้างหัวไพลให้สะอาดตากให้แห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆตากแห้ง
2.ทอดหัวไพลในน้ำมันงาโดยใช้ไฟอ่อนๆทอดไปจนถึงน้ำมันเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วใส่สมุนไพรตัวทอดต่อให้หมดฟองยกลงจากเตากรองเอากากทิ้ง
3.นำส่วนประกอบทั้งยัง 3 ประเภท ในอัตราส่วนที่ระบุเป็น(เมนทอล 3 ส่วน พิมเสน 1 ส่วน พิมเสน 1 การบูร 1 ส่วน )เทผสมรวมกันในภาชนะสำหรับผสมสาร
4.ใช้ไม้พายเล็กคนให้ส่วนผสมทั้งสิ้นละลายเป็นของเหลว (แม้ไม่ใช่ไม้คนอาจใช้ขั้นตอนการเขย่าขวดให้ส่วนประกอบละลายก็ได้
5.เติมน้ำมันที่สกัดจากหัวไพลลงไป คนให้เข้ามาเป็นเนื้อเดียว
6.น้ำมันเหลืองที่ได้บรรจุขวดปิดฝาให้แน่น
น้ำมันเหลือง ผลของการวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันเปิดเผยว่า คนป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนหลับก้าวหน้าขึ้น ดีขึ้นกว่าเดิมลักษณะการเจ็บปวด รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลงานวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เผยว่า คนเจ็บโรคมะเร็งระยะแพร่ไป จะทรมาทรกรรมจากอาการเจ็บปวดลดน้อยลง คลื่นไส้น้อยครั้ง หรือไม่อาเจียนเลย รู้สึกแจ่มใสขึ้น ความดันดียิ่งกว่าเดิม และก็เครียดจากลักษณะการป่วยลดน้อยลง ภายหลังจากได้รับการบำบัดด้วยวิธีการนวด
การเลือกน้ำมันเหลือง
การเลือกน้ำมันนวดขึ้นกับการใช้แรงงาน และคุณประโยชน์ต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละจำพวก โดยส่วนมากน้ำมันฐานรากที่นิยมเอามาผสมทำน้ำมันนวด ยกตัวอย่างเช่น น้ำมันที่ทำจากเมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งมีวิตามินอี สูงยิ่งกว่าน้ำมันที่ทำจากถั่วเหลือง และก็น้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ และจากนั้นก็ทำลายของเสียที่ทำร้ายเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นโลหิต ปกป้องการเกิดมะเร็ง ยิ่งไปกว่านี้น้ำมันเม็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต้องต่อสุขภาพร่างกาย ทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณนุ่มชื่นบาน
โดยทั้งนี้น้ำมันแต่ละชนิดจะมีคุณลักษณะ แล้วหลังจากนั้นก็คุณค่าที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้เหมาะสมตามการใช้

Tags : น้ำมันเหลือง

14
อื่น ๆ / น้ำมันนวดใช้สำหรับใครได้บ้าง?
« เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2018, 06:41:35 AM »

น้ำมันนวดสมุนไพร
อาการปวดหายได้อย่างไร เมื่อใช้น้ำมันนวด
ซึ่ง การใช้น้ำมันตัวนี้นะคะ เราแค่ทาลงไปในส่วนที่เราปวดนะคะ หรือมีการอักเสบของกล้าม เท่านี้จ้ะตัวยาจะซึมเข้าไปทำให้อาการปวดเมื่อยล้าลดน้อยลง อีกอย่างที่สำคัญนะคะ
นํ้ามันนวด ตัวนี้เหมาะกับใครกันแน่บ้าง?

  • ผู้ที่บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
  • เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวจากการทำงานหนัก
  • ปวดมือและก็คอจากการเล่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
  • คนที่ปวดหลังจาก Office syndrome
  • ผู้ที่ปวดข้อจากโรคเกาท์
  • ผู้ที่ปวดหัวเข่าจากโรคข้อต่ออักเสบ
  • คนที่ปวดขาจากการเดิน Shopping
  • บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
  • ตีดอท จนกระทั่งปวดมือ
  • ปวดคอจากการเล่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3https://www.chiangdaonaturefood.com/product/45/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันนวด[/url] ที่ดีเลิศของคุณบรรเทาร่างกายแล้วก็ช่วยเหลือการนอนที่ดีมากกว่าสำหรับวัน.
คนไม่ใช่น้อยระทมทุกข์จากความไม่ดีเหมือนปกติของการนอนต่างๆได้มองเห็นการแก้ไขในนิสัยการนอนของพวกเขาหลังการรักษาด้วยการนวดผ่อนคลาย. น้ำมันนวดกระตุ้นจิตใจและก็จิตวิญญาณ การบำบัด, ด้วยเหตุนั้นคนส่วนมากมีประสบการณ์การนอนหลับลึกแล้วก็พักเพิ่มมากขึ้น.
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
นวดน้ำมันมากขึ้นและก็รักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อของคุณ. นวดตัวที่มีคุณภาพรูปแบบการทำงานของกล้ามเนื้อทั้งสิ้น, เนื้อเยื่อรวมทั้งข้อต่อก็เลยเปลี่ยนแปลงการแสดงกีฬาและก็การดูแลเกี่ยวกับความสะดวกสบายสำหรับในการเคลื่อนไหวร่างกายของคุณง่ายดายมากยิ่งขึ้น. เว้นเสียแต่สิ่งกลุ่มนี้กำเนิดประโยชน์ต่อสุขภาพ, นวดยังช่วยปกป้องการเจ็บและก็เพิ่มความเร็วในการหาย. นวดแผนโบราณยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับในการทุเลาความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและก็บำรุงรักษาร่างกายของคุณ พอดี และก็มีความยืดหยุ่นเป็นเวลานาน.
กำจัดสารพิษ
ข้อเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการนวดน้ำมันซึ่งมันช่วยทำให้ร่างกายได้อย่างมีคุณภาพกำจัดพิษจากสิ่งมีชีวิตด้วยเหตุนี้การผลักดันและสนับสนุนสุขภาพที่ดีขึ้น.
ช่วยเพิ่มระบบภูมิต้านทาน
บริการนวดน้ำมันและส่วนใหญ่สร้างความแข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกันและช่วยย่อยของกินดีขึ้น.
ศิลป์ที่งามของการนวดได้ทวีความรุนแรงมากเพิ่มขึ้นด้วยการนวดน้ำมันบางมาก. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณลักษณะรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อบริการด้านต่างๆสำหรับการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ยอดเยี่ยมสำหรับความต้องการส่วนตัวของคุณรวมทั้งบรรเทาร่างกายของคุณด้วยการนวดผ่อนคลายและฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อรักษาความสมดุลทางด้านจิตวิญญาณของคุณและสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.
โรคนี้จะไม่สามารถหายไปได้เอง!
โรคต่างๆเกี่ยวกับข้อจะไม่สามารถที่จะหายสนิทได้เอง แม้อาการที่แสดงออกมาจะร้ายแรงลดลงก็ตาม รวมทั้งในที่สุดก็จะกลายเป็นโรคเรื้อรังและก็ส่งผลให้เกิดความลำบากตรากตรำสำหรับในการดำรงชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ
1.น้ำมันนวดจะเข้าไปช่วยกระตุ้นรูปแบบการทำงานของระบบประสาท ให้ปฏิบัติงานเจริญมากเพิ่มขึ้น ลดอาการเคร่งเคลียดให้พวกเราผ่อนคลายจากการความเหน็ดเหนื่อยรวมทั้งความอ่อนแรงสะสม
2.การนวดน้ำมัน จะเข้าช่วยการกระตุ้นการทำงานของโลหิต ให้ปฏิบัติงานก้าวหน้ามีประสิทธิภาพเยอะขึ้นเรื่อยๆรวมทั้งสามารถหล่อเลี้ยงออกซิเจนและก็สารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างครบถ้วน ป้องกันโรคต่างๆแล้วก็ลดระดับความดันโลหิตก้าวหน้าด้วย
3.เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปซ่อมบำรุงรวมทั้งฟื้นฟูระบบกล้าม ข้อต่อต่างๆในร่างกายให้ดำเนินการได้ดิบได้ดีแล้วก็มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น
4.เพิ่มความชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดสารพิษ ในร่างกายและก็สภาพผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนชุ่มชื้น ดูผุดผ่องรวมทั้งชีวิตชีวามากขึ้นเรื่อยๆ
5.ช่วยในเรื่องการนอนหลับให้ดีมากยิ่งกว่าเดิม บรรเทาสมองรวมทั้งร่างกายต่างๆส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนหลับสนิทได้ดีกว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้อย่างดีเยี่ยม
นอกนั้นการนวดน้ำมันยังมีประโยชน์อีกหลายชนิดต่อสถาพทางร่างกาย ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสแก่แฟนสุขภาพได้อย่างดีเยี่ยม
ลดอาการปวดหัวไมเกรน
     สำหรับคนที่เคยทรมานจากอาการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อยครั้ง แพทย์ก็ได้เสนอแนะให้ลองไปนวดบรรเทาสุขภาพดูบ้าง เพราะเหตุว่าจากผลการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า คนที่มีอาการปวดศรีษะไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวต่อเนื่องกัน 2-3 อาทิตย์ จะสามารถทุเลาอาการข้างๆของโรคไมเกรน แล้วก็นอนได้อย่างสนิทขึ้นด้วยจ้ะ
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันนวดขึ้นกับการใช้แรงงาน และสรรพคุณต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละประเภท โดยส่วนมากน้ำมันเบื้องต้นที่นิยมนำมาผสมทำน้ำมันนวด เป็นต้นว่า น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากเมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งมีวิตามินอี สูงยิ่งกว่าน้ำมันที่สกัดจากถั่วเหลือง แล้วก็น้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติภารกิจเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ และทำลายของเสียที่รังควานเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นโลหิต ปกป้องการเกิดโรคมะเร็ง นอกเหนือจากนั้นน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นจะต้องต่อสภาพร่างกาย ทั้งยังยังช่วยให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื่น
โดยทั้งนี้น้ำมันแต่ละจำพวกจะมีคุณสมบัติ และคุณค่าที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้เหมาะสมตามการใช้งาน

15

น้ำมันนวดสมุนไพร
ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากการนวดน้ำมัน
น้ำมันวด ถือเป็นหนึ่งในแนวทางบำบัดความเคร่งเครียด ผ่อนคลายจิตใจ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทุเลาความเมื่อนล้า ยิ่งกว่านั้นคุณคุณลักษณะของน้ำมันหอมระเหยแต่ละประเภทที่ผสมอยู่ในน้ำมันนวดตัวของพวกเรานั้นนังสามารถทุเลาอาการต่างๆของร่างกายได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย ที่ช่วยเรื่องระบบทางเท้าหายใจ ทุเลาอาการหวัดคัดจมูกเมื่อเวลาสูดดม หรือเมื่อผสมเข้ากับน้ำมันก็จะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายผิว ที่ช่วยคุ้มครองแมลงรบกวน ฯลฯ
การนวดน้ำมันเป็นแนวทางในการดูแลภาวะผิวและก็สุขภาพที่ขอแนะนำเลย เป็นส่วนมากจะการนวด ที่สกัดมาจากสมุนไพรรวมทั้งพืชต่างๆโทนร้อนพอควร ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย โดยการนำสารสกัดกลิ่นและก็เนื้อน้ำมัน เหล่านั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกาย ด้วยกลิ่นหอมสดชื่นรวมทั้งรวมทั้งสัมผัสของน้ำมันที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างของร่างกาย ลดความตึงเครียด ทำให้เราผ่อนคลาย รวมถึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแล้วก็ผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้จ้ะพวกเราจะพาไปดูประโยชน์ซึ่งมาจากการนวดน้ำมันกันว่า มีสาระด้านใดบ้าง
1.การนวดน้ำมันจะเข้าไปช่วยกระตุ้นหลักการทำงานของระบบประสาท ให้ทำงานได้ดิบได้ดีเยอะขึ้นเรื่อยๆ ลดอาการเคร่งเคลียดให้เราบรรเทาจากการความเมื่อยล้าและความอ่อนเพลียสะสม
2.น้ำมั่นนวด กระตุ้นแนวทางการทำงานของโลหิต ให้ปฏิบัติงานก้าวหน้ามีคุณภาพเยอะขึ้นเรื่อยๆรวมทั้งสามารถหล่อเลี้ยงออกซิเจนและสารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างสมบูรณ์ ปกป้องโรคต่างๆรวมถึงลดความดันโลหิตได้ดีด้วย
3.เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปซ่อมบำรุงแล้วก็ฟื้นฟูระบบกล้าม ข้อต่อต่างๆในร่างกายให้ดำเนินการได้ดิบได้ดีแล้วก็มีคุณภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
4.เพิ่มความชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดสารพิษ ภายในร่างกายแล้วก็สภาพผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนชุ่มชื้น ดูเปล่งปลั่งแล้วก็ชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
5.ช่วยในประเด็นการนอนหลับให้ดีมากยิ่งกว่าเดิม บรรเทาสมองและร่างกายต่างๆมีผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนหลับสนิทได้ดีมากว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้อย่างยอดเยี่ยม
นอกจากนั้นการนวดน้ำมันยังเป็นประโยชน์อีกหลายสิ่งหลายอย่างต่อร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสแก่คนรักสุขภาพได้อย่างยอดเยี่ยมลดลักษณะของการปวดหัวไมเกรนสำหรับเคยทรมาทรกรรมจากอาการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อย หมอก็ได้แนะนำให้ทดลองไปนวดบำบัดรักษาสุขภาพดูบ้าง เนื่องจากจากผลการค้นคว้าของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า ผู้ที่มีลักษณะปวดศรีษะไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวต่อเนื่องกัน 2-3 สัปดาห์ จะสามารถบรรเทาอาการใกล้กันของโรคไมเกรน รวมทั้งนอนได้อย่างสนิทขึ้นด้วยค่ะ


ทุเลาอาการกล้ามอักเสบจากการออกกำลังกาย


          ตอนที่ออกกำลังกายอย่างมาก ร่างกายจะได้รับผลกระทบเป็นลักษณะของการปวดเมื่อยล้า หรือกล้ามอักเสบเป็นของแถม ซึ่งการศึกษาเล่าเรียนของ Buck Institute for Research on Aging and McMaster University in Ontario, Canada ก็ได้เปิดเผยแนวทางบรรเทาอาการว่า ให้ทดลองไปนอนรับบริการนวดตัวดูบ้าง เนื่องจากการนวดจะช่วยคลายกล้ามที่ตึงเครียดจากการออกกำลังกายได้ดิบได้ดีพอๆกับการกินยาคลายกล้ามเนื้อยังไงยังงั้นเลยล่ะ
การนวด


ดูเด็กขึ้น


          ตั้งแต่นี้ต่อไปไม่ต้องลำบากแอ๊บแบ๊วดึงวัยอีกต่อไป เพราะเพียงแต่ไปสปาให้เขานวดๆบีบๆร่างกายอยู่บ่อยๆก็สามารถทำให้พวกเราดูเด็กขึ้นได้แล้ว โดยผู้ที่มีความชำนาญด้านผิวหนังก็ได้ชี้แจงเพิ่มอีกว่า การขัดหน้าหรือนวดหน้า รวมถึงนวดตัว เป็นการกระตุ้นให้เลือดในร่างกายไหลเวียนดีขึ้น ซึ่งก็ทำให้สุขภาพผิวด้วย ทั้งยังการนวดยังช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมท่อน้ำเหลือง ให้กำจัดพิษที่อยู่ใต้ผิวหนังให้หมดไป ทำให้สารอาหารและวิตามินต่างๆซึมเข้าสู่เซลล์ผิวก้าวหน้าขึ้น ช่วยทำให้ผิวดูเบิกบานใจเต่งตึงได้อีกครั้ง รวมไปถึงกำจัดริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบๆผิวหน้าได้อีกด้วยนะ


คุ้มครองป้องกันอาการ PMS


          สาวๆทุกคนอาจจะทราบว่าอาการ PMS ก่อนมีระดูนั้นสร้างความทรมานให้กับเราได้มากมายขนาดไหน แต่วันนี้เราไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลกับอาการเหล่านี้อีกต่อไป เพราะว่าผลการค้นคว้าของ Touch Research Institute and University of Miami Medical School พบว่า การนวดตัวสามารถป้องกันอาการข้างเคียงทุกประเภทตอนที่ผู้หญิงมีเมนส์ได้อยู่มือ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของการปวดข้างหลัง เจ็บท้อง ตัวบวม น้ำหนักขึ้น หรืออาการอารมณ์เสียโกรธ แต่ว่าแนวทางนวดอาจจะได้ประสิทธิภาพที่ดีกับผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 19-45 ปี เพียงแค่นั้นนะคะ
นวดแผนไทย

  • ลดอาการใกล้กันของโรคมะเร็ง ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันเปิดเผยว่า คนเจ็บโรคมะเร็งระยะแพร่ไปที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนได้ดีขึ้น บรรเทาลักษณะการเจ็บปวด รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลที่เกิดขึ้นจากการวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ไป จะทรมาทรกรรมจากลักษณะของการเจ็บปวดลดน้อยลง คลื่นไส้น้อยครั้ง หรือไม่คลื่นไส้เลย รู้สึกแจ่มใสขึ้น ความดันดีมากกว่าเดิม และเครียดจากลักษณะการป่วยลดน้อยลง ภายหลังจากได้รับการบำบัดด้วยวิธีการนวด
  • ทุเลาอาการปวดเรื้อรัง


          ผู้ที่มีความชำนาญด้านกายภาพบำบัดได้บอกเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังว่า คนที่มีลักษณะปวดเรื้อรัง ยกตัวอย่างเช่น ปวดตามข้อ โรคข้ออักเสบ แล้วก็ลักษณะของการปวดปวดเมื่อยเรื้อรังอื่นๆจะคลายอาการเจ็บปวดกลุ่มนี้ลงไปได้มาก ภายหลังได้รับบริการนวดอย่างถูกต้องต่อเนื่องกันเพียงแต่ 2-3 ครั้งเพียงเท่านั้น เนื่องจากการนวดได้อย่างตรงจุด จะช่วยบรรเทาอาการเกร็งของกล้ามเนื้อในส่วนนั้นๆได้อย่างเร็ว ก็เลยสามารถบรรเทาลักษณะการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อรอบๆนั้นได้อย่างทันใจนั่นเองค่ะ
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันนวดขึ้นกับการใช้แรงงาน รวมทั้งสรรพคุณต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละชนิด โดยส่วนมากน้ำมันรากฐานที่นิยมนำมาผสมทำน้ำมันนวด ดังเช่น น้ำมันที่ทำจากเมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งมีวิตามินอี สูงขึ้นมากยิ่งกว่าน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากถั่วเหลือง และน้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ และก็ทำลายของเสียที่รังแกเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นเลือด ป้องกันการเกิดมะเร็ง นอกเหนือจากนั้นน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อสถาพทางร่างกาย อีกทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื่นกระชุ่มกระชวย โดยทั้งนี้น้ำมันแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติ รวมทั้งคุณประโยชน์ที่ต่างๆนาๆ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้เหมาะสมตามการใช้แรงงาน

Tags : น้ำมันนวด

หน้า: [1] 2 3 ... 6